16 ก.ค. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนที่สอบถามผ่านโซเชียลมีเดียช่วงการแถลงข่าวของศูนย์ข่าวโควิด-19 และสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. ชี้แจงกรณีกลุ่มผู้ที่ผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ต้องติดตามสังเกตอาการต่อไปอีก 14 วัน ในสถานที่กักกันต่าง ๆ ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดคณะอุปทูตอาจต้องกักตัวสังเกตอาการที่สถานเอกอัครราชทูต ส่วนกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในโรงแรม ณ จังหวัดระยอง อาจต้องกักตัวในพื้นที่ของสาธารณสุขประจำจังหวัดเพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง หรืออาจใช้วิธีการกักตัวสังเกตอาการที่บ้าน Home Quarantine
สำหรับห้างสรรพสินค้าแหลมทอง ห้างสรรพสินค้า Passion ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ประชาชนสามารถกลับไปใช้บริการได้เหมือนเดิม กรณีเด็กหญิงวัย 9 ปี จากคณะอุปทูตประเทศซูดาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังขอเวลาในการวิเคราะห์ผลทางพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าเป็นสายพันธุ์ G หรือไม่ โดยจะรีบนำมารายงานในภายหลัง
โฆษก ศบค. ชี้แจงกรณีโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดระยองหลายแห่งปิดการเรียนการสอน รวมถึงโรงแรมและสถานที่ก็ปิดการให้บริการชั่วคราวเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ว่า ประชาชนสามารถระมัดระวังได้แต่ขออย่าตื่นตระหนกเพราะอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคมีกระบวนการสอบสวนโรคที่สามารถตีกรอบพื้นที่เสี่ยง ทั้งช่วงเวลาและสถานที่ บางสถานที่จึงไม่จำเป็นต้องปิดให้บริการ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการได้รับทราบชุดข้อมูลต่าง ๆ สั่งการผ่านศบค. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตามมาตรการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับสถานที่ต่อไป
โฆษก ศบค. ชี้แจงกรณีสายการบินเช่าเหมาลำ Thai Lion Air และสายการบิน Air Asia X เดินทางไปยังประเทศจีน และแวะจอดที่ประเทศไทยตามเส้นทางเพื่ออนุญาตเข้าประเทศจีน พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โฆษก ศบค. ชี้แจงโดยยืนยันว่าทั้งลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดไม่ได้ลงจากเครื่องบิน ยืนยันไม่มีชาวต่างชาติเข้าไทยจาก 2 เที่ยวบินนี้ ทั้งนี้ โฆษก ศบค. ชี้แจงเพิ่มเติมในส่วนของกลุ่ม Medical and Wellness Tourismว่า ไม่ได้จัดอยู่ในส่วนของการทบทวนมาตรการการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ ซึ่งยังคงดำเนินการตามปกติ โดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งในส่วนของผู้ติดตาม สถานที่พัก รวมทั้งไม่อนุญาตให้บุคคลในกลุ่มดังกล่าวเดินทางไปยังพื้นที่สาธารณะด้วย