8 ก.ค.63 เวลา 8.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายทาเคทานิ อัทสึชิ (Mr. TAKETANI Atsushi) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) กรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบประธานเจโทรอีกครั้ง และขอบคุณที่เจโทรได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทย ประจำครึ่งแรกของปี 2563 ชื่นชมการทำงานของเจโทรที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นด้านการค้าการลงทุนระหว่างไทยและญี่ปุ่น
และขอบคุณเอกชนญี่ปุ่นที่ได้ร่วมบริจาคเวชภัณฑ์ และเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อร่วมต่อสู้ และป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้กับไทย เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความเป็นมิตรที่แน่นแฟ้นแม้ในยามที่ประสบกับความยากลำบากพร้อมร่วมให้กำลังใจรัฐบาลญี่ปุ่นในการจัดการกับความท้าทายวิกฤต COVID-19 นี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ประธานเจโทรขอบคุณที่รองนายกรัฐมนตรีอนุญาตให้เข้าเยี่ยมคารวะ และมีบทบาทสำคัญในการดูแลนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยมาตลอด พร้อมทั้งชื่นชมการทำงานและวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยที่ส่งผลให้ประเทศไทยยังเป็นประเทศสำคัญสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าแม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะประสบปัญหาจากความท้าทายวิกฤตโรค COVID-19 แต่นักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังคงยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทย และมีความเชื่อมั่นที่จะขยายการลงทุนในไทยต่อไป
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ COVID-19 ความท้าทายทางเศรษฐกิจ การผ่อนคลายข้อกำหนดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ซึ่งประธานเจโทรกล่าวว่าเข้าใจดีว่าทั้งรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นต่างต้องให้ความสำคัญ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในชาติ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าแง่มุมด้านเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญรัฐบาลตระหนักถึงข้อเรียกร้องจากนักลงทุน ซึ่งไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการเข้าประเทศของกลุ่มธุรกิจ พร้อมนำข้อเรียกร้องของนักลงทุนญี่ปุ่นมาพิจารณา ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ามาตรการ Fast Track เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อจะกลับสู่การติดต่อสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีย้ำถึงความร่วมมือกับนักลงทุนในช่วงการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ประเทศไทยมีมาตรการดูแลภายในที่ดี ควบคุมการติดเชื้อได้ และได้มีนโยบายมุ่งพัฒนาพื้นที่ EEC ซึ่งเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ไทยมั่นใจว่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่มีความพร้อมในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งประธานเจโทรยืนยันพร้อมสนับสนุนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน