ไทย-ซาอุฯ พร้อมลงนามเอกสาร 3 ฉบับ ยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ในเวทีประชุมเอเปค 2022

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ครม.เห็นชอบร่างเอกสารสำคัญ 3 ฉบับ เกี่ยวกับการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วย

1.ร่างแผนการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (พ.ศ.2565- 2567) 2.ร่างบันทึกความเข้าใจการจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย และ 3.ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยตรง ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

ร่างเอกสารทั้ง 3 ฉบับนี้ จะมีการลงนามระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด และนายกรัฐมนตรีชาอุดีอาระเบีย ในการประชุมเอเปค 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2565 โดยเอกสารแต่ละฉบับมีสาระสำคัญ ดังนี้

ฉบับแรก คือ ร่างแผนการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (พ.ศ.2565- 2567) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย ภายใต้แผนงานการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทั้ง 3 ส่วน ประกอบด้วย

1)ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง เช่น ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางพิเศษ และหนังสือเดินทางราชการ และจัดหาที่ดินที่มีความเหมาะสมสำหรับสถานเอกอัครราชทูต และทำเนียบเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเทพฯ

2)ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เช่น ศึกษาประเด็นความร่วมมือในภาคพลังงาน เพิ่มการส่งออกโดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค การค้าปลีก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการลงทุนหรือการเงิน และจัดทำความตกลง 2 ฉบับเกี่ยวกับการรับสมัครแรงงานไทย

3)ความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม เช่น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในด้านศิลปะและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ และแสวงหาความร่วมมือด้านกีฬา อีสปอร์ต และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเร่งรัดการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตระหว่างกันด้วย เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีและอำนวยความสะดวกในการดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อน

ฉบับที่สอง คือ ร่างบันทึกความเข้าใจการจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วมในการหารือและส่งเสริมความร่วมมือที่สนใจร่วมกันในทุกมิติ ซึ่งจะกำหนดให้มีจัดประชุมร่วมกันเป็นระยะและสลับกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อติดตามความคืบหน้าของข้อริเริ่มที่จะดำเนินการภายใต้แผนการขับเคลื่อน

ส่วนกลไกลการทำงาน จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน โดยประธานสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย เป็นผู้จัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน และมีอำนาจอนุมัติโครงสร้างการกำกับดูแลและการบริหารองค์กร รวมถึงระเบียบปฏิบัติขององค์กร ทั้งนี้ การจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย และการมอบหมายภารกิจ จะต้องไม่ขัดกับสิทธิและหน้าที่ที่มีอยู่เดิมของทั้งสองประเทศ

ส่วนฉบับที่สาม คือ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยตรง ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างสองประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมือ 3 ด้าน คือ

1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงและโอกาสทางธุรกิจ 2.การแลกเปลี่ยนกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนโดยตรง และการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนของทั้งสองประเทศ 3.การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนของทั้งสองประเทศ ส่วนการขับเคลื่อนความร่วมมือนั้น จะดำเนินการ ดังนี้

1.ส่งเสริมความร่วมมือในการจัดนิทรรศการ การทำงาน การประชุม และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อขยายความร่วมมือด้านการลงทุนโดยตรง 2.ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือน ความเชี่ยวชาญ และอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคนิคของทั้งสองประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสความร่วมมือด้านการลงทุนโดยตรงของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะใช้มาตรการที่จำเป็นในการคุ้มครองการลงทุนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งตามกลไกที่ตกลงกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ โดยแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนเองที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า เอกสารทั้ง 3 ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือและยกระดับความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุดิอาระเบีย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยมุ่งหวังเพื่อเป็นพันธมิตรในระดับภูมิภาคของกันและกัน

Written By
More from pp
รมว.เฮ้ง สั่ง5เสือแรงงานลงพื้นที่ชลบุรี เหตุคนงานก่อสร้างพลัดตกหน้าผาแกรนด์แคนยอนเมืองไทยเสียชีวิต
รมว.แรงงาน แสดงความเสียใจ เหตุคนงานก่อสร้างพลัดตกหน้าผาแกรนด์แคนยอนเมืองไทยเสียชีวิตที่จังหวัดชลบุรี โดยสั่งการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง พร้อมบูรณาการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานเพื่อหาทางช่วยเหลือครอบครัวลูกจ้างทันที
Read More
0 replies on “ไทย-ซาอุฯ พร้อมลงนามเอกสาร 3 ฉบับ ยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ในเวทีประชุมเอเปค 2022”