2 ก.ค.63 น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กู้เงินไปแล้วมหาศาล ซึ่งสำนักงบประมาณ แจ้งว่าในวันที่ 31 มกราคม 2563 หนี้สาธารณะของประเทศไทยสูงถึง 6.98 ล้านล้านบาท ส่งผลให้คนไทยเป็นหนี้เฉลี่ยคนละประมาณ 100,000 บาท ซึ่งทารกที่เกิดใหม่ก็จะเป็นหนี้ในทันที
โดยการจัดทำงบประมาณปี 2564 ของรัฐบาลนั้นเมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วก็จะพบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณที่ไม่สะท้อนสถานการณ์จริง ไม่ได้เป็นการทำงบประมาณแบบ New Normal แต่เป็นแบบ Old Normal โดยเฉพาะขณะนี้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดปัญหาว่างงาน การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง ไปจนถึงการที่ประชาชนต้องพึ่งพาระบบประกันสุขภาพมากขึ้น
แต่การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลไม่ได้สร้างความมั่นคงให้ประชาชนหรือสร้างความเข้มแข็งทางสาธารณสุขเลย กลับจัดสรรเป็นงบกลาง ที่อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีแผนงานและตรวจสอบไม่ได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้เมื่อพิจารณารายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ที่รัฐบาลได้จัดทำมา ยังไม่พบว่านโยบายต่างๆ ที่พรรคผู้นำรัฐบาลได้เคยหาเสียงเอาไว้กับประชาชนจะสามารถทำได้ตามที่พูดไว้ ทั้งนโยบายเงินเดือนผู้สูงอายุ การจ่ายเงินช่วยเหลือกรณีมีบุตร ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ไปจนถึงราคายางพารา ราคาข้าว ไปจนถึงราคาอ้อย
ซึ่งขณะนี้พี่น้องประชาชนได้ทวงถามถึงนโยบายที่พรรคผู้นำรัฐบาลได้เคยหาเสียงเอาไว้อย่างมาก จนพี่น้องประชาชนต่างตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ว่าโกหกกันหรือไม่ ดังนั้นเมื่อได้พิจารณาในรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้แล้วจึงไม่สามารถรับหลักการได้ เนื่องจากไม่สามารถจัดสรรประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนได้