นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวผ่านรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TilTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย “ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7” ที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอเพื่อดูแลคน กทม. 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันของสัปดาห์ ว่า แม้ว่า พรรคภูมิใจไทยอาจจะไม่เคยได้มีโอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนคน กทม. แต่ครั้งนี้ตน และทีมภูมิใจกรุงเทพฯ มีความพร้อมเต็มที่ในการเสนอตัวมารับใช้คน กทม.
โดยเราได้เปิดโอกาสให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนร่วมเสนอแนะในการออกแบบนโยบาย อย่างทีมภูมิใจกรุงเทพฯ ก็ให้นำเสนอตั้งแต่ต้นตอปัญหา และการรับฟังเสียงของคน กทม.ว่าต้องการอะไรบ้าง หลายๆอย่างที่เราพยายามผลักดันอาจเป็นนโยบายที่ไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เป็นเรื่องเล็กๆที่คน กทม.คาใจอยู่ตลอดเวลาว่า
ทำไมถึงไม่มีคนมาดูแลเรื่องเล็กๆ เหล่านั้น วันนี้พี่น้องในต่างจังหวัดเห็นด้วยพยานและหลักฐานว่า สิ่งที่ พรรคภูมิใจไทย เสนอสามารถทำได้จริง สามารถแก้ไขปัญหาปากท้อง แก้ไขปัญหาเรื้อรังต่างๆ ได้จริง โจทย์ที่ตนได้จากพรรคภูมิใจไทยคือ ทำอย่างไรให้คน กทม.ได้มีโอกาสเหมือนกับพี่น้องต่างจังหวัดที่มีผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยรับใช้
“คน กทม.เจ็บมาเยอะมากๆ ผมก็กลับมาถามว่า แล้วทำไมคน กทม.ผิดอะไร ทำไมไม่มีโอกาสที่จะได้รับการตอบรับจากพรรคการเมืองที่ทำงานด้วยความตั้งใจ ทุ่มเทแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้จริงๆ นั่นคือที่มาว่า ทำไม ภูมิใจไทย ถึงเข้ามาเสนอตัวใน กทม.” นายพุทธิพงษ์ ระบุ
นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า แม้ว่า พรรคภูมิใจไทย จะยังไม่มี ส.ส.ใน กทม. แต่ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องชาว กทม.คงได้เห็นถึงผลงานของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแล 3 กระทรวงหลัก ทั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้มีการประสานการทำงานผลักดันโครงการนโยบายต่างๆ ให้กับคน กทม.จนสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้วในหลายด้าน
โดยเฉพาะในวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่หากย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อนขณะที่โควิดกำลังระบาดทั่วโลก วันนั้นพวกเราทุกคนนอกจากกลัวจะติดโรคแล้ว ยังกังวลด้วยว่า วัคซีนจะเพียงพอหรือไม่ ซึ่งก็เป็น นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.สาธารณสุข ที่ประกาศว่า จะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนมีวัคซีนเต็มแขน เป็นสิ่งที่พิสูจน์ด้วยข้อมูลและหลักฐานแล้วว่า
เราผ่านวิกฤตโควิดมาได้เพราะอะไร และแน่นอนว่า ประเด็นการพัฒนาระบบสาธารณสุข จะเป็นประเด็นที่ พรรคภูมิใจไทย ให้ความสำคัญในการนำเสนอนโยบายสำหรับเลือกตั้งครั้งนี้
หัวหน้าทีม กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คน กทม.รอคอยมาไม่ต่ำกว่า 15-16 ปี ก็คือ รถเมล์ไฟฟ้า หรือรถโดยสารประจำทางปรับอากาศด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือรถ EV) ซึ่งทำให้คนที่อาศัยอยู่ใน กทม.สะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น อีกทั้งยังใช้พลังงานสะอาด ประหยัดงบประมาณค่าน้ำมัน และรักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะเป็นพิษในเขตเมืองด้วย
ซึ่งวันนี้จากการผลักดันของ กระทรวงคมนาคม ภายใต้การบริหารของ นายศักดิ์สยาม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ทำให้เรามีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งให้บริการใน กทม.แล้วมากกว่า 1 พันคันใน กทม. ซึ่งในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคภูมิใจไทยก็นำเสนอนโยบายขยายการให้บริการทั้งรถเมล์ไฟฟ้า รวมไปถึงเรือไฟฟ้า ให้ครอบคลุมทั้ง กทม.ด้วย
“นี่คือนโยบาย ความจริงใจ และความตั้งใจของพรรคภูมิใจไทยที่ทำเพื่อคน กทม. เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผม และ ส.ส.กทม.อีกหลายท่านตัดสินใจมามาอยู่กับภูมิใจไทยและพร้อมที่จะนำเสนอนโยบายต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชนคน กทม. เพราะเชื่อมั่นว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำ ทำด้วยความตั้งใจ และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนสามารถสัมผัสได้ คำว่า “พูดแล้วทำ” ผมเชื่อว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคเดียวที่พูดคำนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำมากที่สุด” นายพุทธิพงษ์ ระบุ