28 พ.ค.63 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. กู้เงิน 3 ฉบับ สำหรับผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถึง พรก. 1 ล้านล้าน ในส่วนแผนงานด้านสาธารณสุขนั้น เห็นว่า พี่น้อง “อสม.” 1.4 ล้านคน ซึ่งทำหน้าที่อยู่เวร เฝ้าด่าน ตามงาน และชาว อสม. ได้รับค่าตอบแทนครั้งแรกในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เดือนละ 600 บาท จนต่อมาเพิ่มเป็น 1,000 บาท
นอกจากกลุ่ม อสม. แล้ว ยังมีกลุ่ม CG/PA ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ช่วย อสม. ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ยังไม่ได้ค่าตอบแทน จึงอยากให้พิจารณาให้ค่าตอบแทนให้กับคนกลุ่มนี้เพิ่มเติมด้วย ดังนั้นจากการที่ตั้งวงเงินไว้ 45,000 ล้าน ที่รัฐเตรียมให้ด้านสาธารณสุขนั้นถือว่าน้อยเกินไปไม่เพียงพอต่อการบริหารงาน ควรเพิ่มวงเงินในด้านนี้เป็น 1 แสนล้าน
สำหรับแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ในวงเงิน 4 แสนล้านนั้น ณ เวลานี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำลังทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ให้เสนอโครงการ งบประมาณมา แต่ในที่ประชุมสภา กลับไม่มีแผนงานพิจารณา จึงอยากฝากว่า ในการพิจารณาแผนงานในส่วนนี้ ควรเป็นแผนงานที่จะพัฒนาประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมอย่างแท้จริง คือต้องมีการจ้างงาน ลดปัญหาคนว่างงาน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น เพื่อให้คนในท้องถิ่นมีอาชีพ
นายชัยชนะ ยังอภิปรายถึง พรก. ซอฟต์โลน ว่า ในวันนี้ SME ที่สามารถกู้เงินธนาคารพาณิชย์ได้เป็นลูกหนี้รายเก่า และมีเงื่อนไขว่า จะสามารถกู้ได้ 20% ของจำนวนหนี้คงเหลือเมื่อเดือน ธ.ค. 2562 ดังนั้นหากผู้ประกอบการ SME ที่ไม่เคยกู้แบงก์ แต่เมื่อประสบวิกฤติโควิด ขาดสภาพคล่อง ก็จะทำให้กู้เงินไม่ได้ ดังนั้นจึงฝากให้รัฐบาลพิจารณาให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ที่มีหลักฐาน มีสถานที่ตั้งบริษัทเรียบร้อย ให้สามารถกู้เงินได้
นอกจากนี้ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังได้แสดงภาพประกอบการอภิปรายชี้ให้เห็นว่า ยังมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยเฉพาะ ธกส. ธอส. กรุงไทย ยังไม่ปฏิบัติตามประกาศของ ธปท. ในเรื่องการพักหนี้ลูกหนี้รายย่อย และลูกหนี้ผู้ประกอบการ 3-6 เดือน ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ากลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ก็ยังไม่พักชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่เกิดจากการเช่าซื้อรถ
“วันนี้พี่น้องประชาชนไม่มีเงินจะทานข้าว ยังได้รับโทรศัพท์ทวงถามว่าจะผ่อนรถเมื่อไหร่ ผมฝากให้ท่านประธานไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐบาล ผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ ให้ ธปท. ควบคุมสถาบันการเงิน และนอนแบงค์เหล่านี้ปฏิบัติตามประกาศให้ได้”