ชาวหอซีมะโด่ง ชวนกันทำดี นำโดย รัตนาวลี โลหารชุน นายกสมาคมนิสิติเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และเป็นอดีตนักเรียนทุนจุฬา–ชนบท ชวนกันคิดดี ทำดี ในโครงการ “ปั่นไปเลย” ระดมทุน เพื่อจัดหาจักรยาน ทุนการศึกษาและอุปกรณ์สนับสนุนการศึกษา มูลค่า 550,000 บาท มอบให้กับเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในจังหวัดเลย จำนวน 3 โรงเรียน โรงเรียนบ้านน้ำภู, โรงเรียนบ้านนาดินดำ และโรงเรียนบ้านหนองหญ้าไซ พร้อมทั้งส่งต่อกำลังใจให้กับเพื่อน พี่น้อง ชาวหอซีมะโด่งคนดีแห่งเมืองเลย อย่าง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และดร.เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาสถาปัตยกรรม ที่ได้จัดหอศิลป์บ้านพ่อ รวบรวมพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จัดแสดงให้คนเข้าชมฟรี
รัตนาวลี โลหารชุน นายกสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ กล่าวว่า “โครงการ “ปั่นไปเลย” เป็นโครงการที่พวกเราชาวหอซีมะโด่งชวนกันทำความดี และสอดคล้องกับความต้องการ ไลฟสไตล์ วิถีชีวิตของนักเรียนด้อยโอกาสในจังหวัดเลย ด้วยการระดมทุน เพื่อจัดซื้อรถจักรยาน 150 คัน ทุนการศึกษา และอุปกรณ์สนับสนุนการศึกษา ให้แก่ 3 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านน้ำภู, โรงเรียนบ้านนาดินดำ และโรงเรียนบ้านหนองหญ้าไซ เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนของเด็กๆ และยังสามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพหาเลี้ยงชีพของผู้ปกครอง”
ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯและอดีตนักเรียนทุนจุฬา–ชนบทกล่าวว่า “ถ้าไม่มีทุนจุฬาฯ–ชนบท โอกาสทางการศึกษาของผมเป็นศูนย์ จุฬาฯ–ชนบทให้ชีวิต ให้ผมได้ทำงาน ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง สำหรับการศึกษาแล้ว จักรยานเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การศึกษาของเด็กเมืองเลยสะดวกยิ่งขึ้น เด็กๆ สมัยนี้ยังคงใช้จักรยานกันเยอะ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเขตเมือง จักรยานเหมาะกับวัย เหมาะกับวิถีชีวิต เป็นยานพาหนะที่ราคาเหมาะสม คนเลยจึงยังคงใช้จักรยานในการเดินทาง ไปเรียน ไปทำงาน ไปไร่ ไปนา กอปรกับเมืองเลยมีอากาศดี เป็นเมืองเล็กๆ เป็นเมืองช้าๆ จักรยาน จึงเข้ากับภูมิประเทศของเลยได้เป็นอย่างดี”
สำหรับงานในครั้งนี้ มีชาวหอซีมะโด่งกว่าร้อยชีวิตที่ร่วมเดินทางไปมอบจักรยานให้กับเด็กๆ ด้วยตนเอง พร้อมเผยความประทับใจเกี่ยวกับการเป็นเด็กหอพักนิสิต จุฬาฯ รศ. เพลินจิต ทมทิตชงค์ นิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ และอดีตอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันเป็นคุณยายวัย 81 เผยว่า “เป็นอดีตหัวหน้าหอพักหญิง ซึ่งมีหน้าที่ดูแลทุกคนในหอพัก รวมถึงเป็นผู้นำทุกคนในหอบำเพ็ญประโยชน์ เวลาเพื่อนๆ น้องๆ มีปัญหาก็จะมาปรึกษากัน ทำให้สนิทและรู้จักกับทุกๆ คนในหอ การอยู่หอทำให้เรารู้จักการวางตัว การอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ซึ่งนำไปใช้ได้ในการทำงาน หลังเกษียณพอมีเวลาว่าง เมื่อไรที่หอมีกิจกรรมก็จะมาร่วมด้วยตลอด ซึ่งสร้างความสุขให้กับชีวิตหลังเกษียณเป็นอย่างมาก”
ณรงค์รัชช์ ทวีธนาพงษ์ นิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ และอดีตนิสิตโครงการจุฬาฯ–ชนบท ปัจจุบันเป็นครูจิตอาสา กล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะทุนของจุฬาฯ ทุกวันนี้ผมคงไม่มีที่ยืนในสังคม จุฬาฯ เหมือนชุบชีวิตใหม่ให้กับผม ไม่ว่าจะมีงานใดที่สามารถตอบแทนพระคุณจุฬาฯ ผมก็จะอาสามาด้วยตลอด ความที่ผมเป็นนิสิตจุฬาฯ–ชนบท ซึ่งได้ทุนเรียนฟรีทั้งหมดจึงได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหอพัก สิ่งที่ติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ คือ ทักษะในการปรับตัวเข้ากับคนได้ง่าย เพราะเรามีเพื่อนจากทุกคณะ พอเราจบแล้วสายสัมพันธ์ของพวกเราชาวหอยังคงแน่นแฟ้นและยังรวมตัวกัน เพื่อทำดีเสมอ ต้องบอกว่า หอให้ที่พักที่อาศัย หอให้หัวใจที่อบอุ่นและหอทำให้เรารู้จักเป็นผู้ให้ ไม่ใช่รู้จักรับเพียงอย่างเดียว”
มัญชุพัฒน์ อธิพงศ์ภาพร นิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการโรงงานฝ่ายประกันคุณภาพของบริษัทข้ามชาติ เผยว่า“การเป็นชาวหอให้อะไรมากกว่าที่คิด ชาวหอให้ความรู้ ให้ความสามารถ ให้โอกาส ให้วาสนาที่มีทุกอย่างในวันนี้ เพราะบุญคุณจากจุฬาฯ และชาวหอ ดังนั้น เมื่อชาวหอหรือจุฬาฯ มีกิจกรรมให้ช่วย เราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเสมอ”
“ความร่วมมือทำดีของพวกเราในครั้งนี้แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ เราก็หวังว่า จะช่วยเพิ่มโอกาสและสนับสนุนการศึกษาของไทยให้เติบโต เข้าถึงและครอบคลุมถึงเด็กไทยด้อยโอกาสได้มากยิ่งขึ้น” รัตนาวลี กล่าวปิดท้าย