นายดำรง พุฒตาล ซึ่งในอดีตได้รับเชิญจากสถานทูตไทย ณ กรุงไคโรให้ไปเป็นวิทยากรบรรยาย ให้นักศึกษาไทยมุสลิมในมหาวิทยาลัย อัลอัสฮาสา ฟัง อยู่หลายครั้ง
โดยนายดำรง ได้รับการติดต่อจากอดีตนายกสมาคมนักศึกษาไทยในกรุงไคโร นายดลหมาน ผ่องมะหึง ให้ช่วยเป็นสื่อกลางถึงรัฐบาลไทย ให้ได้ทราบถึงความลำบากของนักศึกษาไทยมุสลิมในอียิปต์กว่า 3,000 คน ซึ่งนักศึกษาบางส่วนเริ่มมีอาการจิตตก เครียด ซึ่งอาจจะนำไปสู่โรคซึมเศร้าก็ได้
โดยนายดำรงพุฒตาลเล่าต่อว่า มีหลายเหตุปัจจัยที่จะทำให้นักศึกษาไทยต้องวิตกกังวล และมีอาการเครียด คือ นักศึกษาไทยทั้งหมด พยายามป้องกันตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อตามแบบวิธีของคนไทยในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด เช่นเมื่อออกจากที่พัก ก็จะใส่หน้ากากอนามัย แต่ตรงกันข้ามกับค่านิยมของชาวอียิปต์ ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และเชื่อว่าผู้ที่ใส่หน้ากากอนามัย คือผู้ป่วยป่วยโควิด-19
จึงแสดงความรังเกียจและต่อต้านถึงขนาดมีนักศึกษาหญิงหลายคนที่ใส่หน้ากากอนามัย ถูกไล่ลงจากรถเมล์ จึงสร้างปัญหาและความเก็บกดอย่างรุนแรงต่อนักศึกษาไทยที่จะออกไปนอกบ้าน
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ คือ สถาบันการศึกษาต่างๆได้ประกาศเลื่อนวันสอบภาคที่สองของปีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนักศึกษาจะทำตัวไม่ถูก จะกลับเมืองไทยก็ไม่กล้าและกังวลใจเป็นอย่างมากเ พราะจนกระทั่งบัดนี้ก็ยังมิได้ประกาศวันสอบ
ในส่วนนักศึกษาที่มีสถานภาพที่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินจากไคโรกลับกรุงเทพ ก็ต้องจ่ายค่าตั๋วเที่ยวเดียวในราคาแพงมากถึง 26,000 กว่าบาท โดยสายการบินอียิปต์แอร์
แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินที่จะซื้อตั๋วในราคานี้ได้ ทั้งๆ ที่อยากจะกลับเมืองไทยใจจะขาด
นายดลหม่านบอกว่านี่เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้มีนักศึกษามีอาการจิตตก
“ที่ผมเป็นห่วงอยู่มากอีกเรื่องหนึ่งก็คือนักศึกษาของเรา มักจะเช่าบ้านอยู่รวมกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย บางหลังอยู่กันสี่คนบางหลังห้าคน ซึ่งอาจจะทำให้การจัดระยะห่างของบุคคลไม่ถูกต้องนัก” นายดำรงกล่าว
นอกจากในไคโรจะมีนักศึกษาประมาณ 3000 คนแล้ว ยังมีคนไทยที่ทำงานและแต่งงานกับคนอาหรับที่นี่ในประเทศนี้ อีกกว่า 200 คน และยังมีร้านอาหารไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับอาหารไทยหลายร้านเช่น ร้านบัวขาว ร้านสบายสบาย ร้านซิทแอนแซ่บ และร้านเรือนไทย ในโรงแรมดุสิตธานี และในต่างจังหวัด ที่เมืองเฮอกาด้า และร้านช้างเผือก ที่เมือง เอลกูน่า แต่ช่วงนี้ ส่วนใหญ่ปิด แต่ก็มีนักศึกษาไทยทำในระบบส่งถึงบ้าน
ประเทศอียิปต์ได้ประกาศเคอร์ฟิวมานานแล้ว โดยเคอร์ฟิวของประเทศอียิปต์จะเริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง 06.00 น. และจะสิ้นสุดวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 คือสิ้นเดือนรอมฎอนพอดี
ห้ามใช้รถส่วนตัวและรถสาธารณะในเวลาเคอร์ฟิว ร้านค้าเปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 17.00 น. รวมถึงวันศุกร์และวันเสาร์ห้ามปฏิบัติศาสนกิจในศาสนสถานคือมัสยิดหรือสุเหร่า แต่ก็ยังมีบ้างที่ขัดขืนและแอบทำกัน
ในส่วนของสถานทูตไทยในอียิปต์ ท่านเอกอัครราชทูตไทย ได้พ้นตำแหน่งเนื่องจากครบวาระกลับไทยไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ปี 2562 จนถึงปัจจุบันนี้ท่านเอกอัครราชทูตคนใหม่ยังมิได้มาประจำการ
ในส่วนประเทศอียิปต์ นายดลหมาน แจ้งว่าถึงวันที่ 26 เมษายนนี้ อียิปต์มีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด19 รวม 4,534 คน เสียชีวิตแล้ว 317 ราย (เฉพาะวันที่ 26 เม.ย. มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 215 คน และเสียชีวิต 10 ราย)
นายดำรงกล่าวปิดท้ายว่า รัฐบาลอียิปต์ได้พยายามรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ทั้งช่องทางสื่อพิมพ์ และช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ความรู้ประชาชน และยังห้ามการรวมกลุ่มในทุกพื้นที่อย่างเคร่งครัด พวกเราคนไทยในอียิปต์ต่างขอพรให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ปลอดภัยและผ่านไปด้วยกัน
แต่ก็คงไม่ต่างจากประเทศไทยเราที่ยังมีการแหกกฎอยู่เนืองๆ