ก่อนคุยอะไรกันวันนี้
อ่านนี่ก่อน……..
ลำดับพิธี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์
ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๖๒ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน
วันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ น.
ณ ตึกบัญชาการ 1 ห้องรับรองขั้น ๕
*******************************
๐๘.๐๐ น.- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพร้อม
๐๘.๔๕ น.- เรียนเชิญ คณะรัฐมนตรี เข้าประจำจุดยืน ณ ห้องรับรองชั้น ๕
๐๙.๐๐ น.- นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงห้องรับรองชั้น ๕
– เรียนเชิญ นายกรัฐมนตรี เข้าประจำจุดยืนหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
– เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวรายงาน
นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
-เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เชิญพระราชดำรัสวางบนพานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
-นายกรัฐมนตรี เข้ารับพระราชดำรัส และกลับมายืน ณ จุดเดิม
-คณะรัฐมนตรี เข้ารับพระราชดำรัส ตามลำดับ
-ถวายความเคารพพร้อมกัน
– เสร็จพิธี
*******************************
ครับ….ก็เป็นไปตามนั้น
โดยบ่ายวาน (๒๖ สค.) ทำเนียบรัฐบาล มีหนังสือเวียน ว่าด้วยเรื่อง “ลำดับพิธี” ไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้ารับพระราชทานพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ อันเป็นมงคลสูงสุดที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีวันนี้
บางท่านอาจถาม…..
ว่านี่เป็นการถวายสัตย์ปฏิญานอีกครั้งของคณะรัฐมนตรีใช่หรือไหม?
ขอตอบว่า “ไม่ใช่”
เพราะการถวายสัตย์ปฏิญานต่อพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่นั้น
นายกฯ นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ และได้กระทำไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อ๑๖ กค.๖๒
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงรับคำถวายสัตย์ปฏิญานนั้นแล้ว พร้อมทั้งพระราชทานพรแก่รัฐมนตรีใหม่ทั้งคณะในวันนั้นด้วย
สำหรับวันนี้ (๒๗ สค.๖๒) ก็ชัดเจนตาม “ลำดับพิธี” คือ
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๖๒ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน”
นั่นคือ…….
พระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีวันนี้
เท่ากับเป็น “พระบรมราชวินิจฉัย”
ในประเด็นที่เป็นปัญหาว่าด้วยนายกฯประยุทธ์กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาน “ครบ-ไม่ครบ”?
อันทุกคน-ทุกฝ่าย พร้อมน้อมรับด้วยเกล้าฯ
ก็…รอฟังนายกฯอีกที……..
หลังพิธีเข้ารับพระราชดำรัสแล้ว นายกฯ คงแจ้งให้ทราบทั่วกัน ถึงความในพระราชดำรัส ที่ได้พระราชทานวันนี้
ประเด็นที่สงสัยกันต่อมา คือ
-แล้วที่ ๗ พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป
-ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะสรุปวันนี้ …………
เรื่องนายศรีสุวรรณ ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประเด็นนายกฯกล่าวถวายสัตย์ปฏิญานไม่ครบ
ว่าจะเอากันอย่างไรต่อไป?
ฝ่ายค้านจะขอถอนญัตติหรือไม่ถอน ถ้าไม่..ประธานสภาจะบรรจุเรื่องเข้าวาระ เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปอย่างนั้นหรือ?
ผมว่า “ฝ่ายค้าน” รู้ เป็นที่ยุติแล้ว หรือจะไม่ยอมยุติ?
และคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ว่าวันนี้ (๒๗ สค.) จะสรุปเรื่อง “ส่ง-ไม่ส่ง” ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย นั้น
ความน่าจะเป็น คือ “ไม่มีประเด็น” ที่ต้องส่งวินิจฉัยแล้ว
อันที่จริง เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาน เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในทันทีที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงรับคำถวายสัตย์ปฏิญาน นั้น
ก็เอาหละ…
เมื่อมีคน “จับผิด-จับถูก” รายคำ-รายบรรทัด บอกว่านายกฯกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญานไม่ครบ
ซึ่ง “ไม่ครบ” เป็นการหกตกหล่นถ้อยคำเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงการถวายสัตย์ปฏิญานนั้นโมฆะ
อีกทั้งไม่มีมาตราไหนในรัฐธรรมนูญระบุว่าต้องมีโทษ
ดังนั้น ในกรณีนี้ จึงเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๕ วรรคสอง
“เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก้กรณีใด ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์คงเป็นประมุข”
นั่นคือ “พระบรมราชวินิจฉัย” เป็นที่สุดทุกกรณี
เรื่องถวายสัตย์ฯ ที่ซ่อนความเข้าใจไว้ข้างใน แล้วแสร้งอ้างปรารถนาดี ตีเป็นเรื่องใหญ่ทางการเมือง นั้น ก็เป็นที่ยุติ ดังนี้แล!
ดังนั้น เมื่อนายกฯประยุทธ์ “ฆ่าไม่ตาย” ๗ พรรคค้าน หมายมั่นปั้นมือจะใช้เวทีอภิปรายทั่วไป
รุมจวก-กระชากลากไส้นายกฯ ออกมากอง เป็นการระบายแค้น นั้น
ฝันสลายซะแล้ว!
เพราะทั้งหมดเงื่อนไข ทั้งจะครบ ๑๒๐ วัน รัฐสภาต้องปิดสมัยประชุมสามัญประจำปี
ก็นี่ไง……….
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจําปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. ๒๕๖๒
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๒ ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ นั้น
บัดนี้ จะสิ้นกําหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันตามสมัยประชุมสามัญประจําปี ครั้งที่หนึ่ง ในวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๒๒ และมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจําปี ครั้งที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒
…………..
และ ๒๘-๒๙ สิงหา.นี้ ก็งดประชุมอีก!
เพราะรัฐสภาไทยเป็นเจ้าภาพประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๔๐
สรุปแล้ว สมัยประชุมสามัญ ๑๒๐ วันที่ผ่านมา ถามว่าชาวบ้านได้อะไรจากสส.ชุดนี้
ก็ไม่น่าจะได้ แต่ถ้าเห็นอะไรละก็ เห็นเยอะ เช่น เห็น “สัตว์ประหลาด” ผิดเพศ-ต่างเผ่าพันธุ์ ประชันในทางทุราจาร
เห็นสภาถูกใช้เป็นสถานที่โชว์แฟชั่น เห็นตะแบงกฏหมายจากกูรูกฎหมาย เห็นการใช้รัฐสภาเป็นทางเดินล้มสถาบัน
และเห็นสันดาน-ธาตุแท้บางผู้ใหญ่ในอดีตเปลือยตัวตนประหนึ่งคนเนรคุณแผ่นดิน
ปิดสมัยประชุมซะทีก็ดี ชาวบ้านจะได้พักเหนื่อยใจ
แต่ อ้อ…วันนี้ ๒๗ สิงหา.
“คดีหุ้นสื่อ” ของธนาธร “หมดโปร” ยื้อเวลาต่อไม่ได้แล้ว น่าจะวันนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะบอกให้แถลงปิดคดีและนัดวันฟังคำวินิจฉัย
พักเดินสายปลุกระดมไปศาลซักวันนะ..ทอน!