ผักกาดหอม
นับคำขอโทษได้สักล้านคำกระมัง
วานนี้ (๒๙ ธันวาคม) เป็นอีกวันของการพิสูจน์ว่า พรรคส้ม ใช่พรรคที่ความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏจริงหรือไม่
จาก สส.บ้ากาม มาถึงผู้สมัคร สส.ฟอกเงินค้ายาเสพติด ก็ได้ข้อสรุปอีกครั้งว่า พรรคส้มไม่จำเป็นต้องมีอำนาจ ได้เป็นรัฐบาล ก็มีความชั่วปรากฏให้เห็นได้
บังเอิญหรือเปล่ามิทราบได้ เลือกตั้งหนนี้พรรคส้มใช้สโลแกน “มีเราไม่มีเทา” แต่กลับมีเรื่องเทาๆ เกิดขึ้นในพรรคส้มเสียเอง
“เรามีเทาอยู่ในพรรค”!
ที่จริงใช้คำว่าเทามันน้อยไป
สีที่เหมาะสมกับ คนค้ายาเสพติด ฟอกเงิน คือ ดำ ไม่ใช่เทา เพราะเทายังก้ำกึ่งว่า ขาว หรือ ดำ
ปฏิกิริยาจากบรรดาโปลิตบูโรพรรคก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
เหมือนเด็กเล่นขายของ
เรื่องคือ “บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์” นายคนนี้เป็นผู้สมัคร สส.กทม.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย ที่พรรคส้มเฟ้นหามาอย่างดี ถูกตำรวจจับข้อหา ฟอกเงินยาเสพติด
ตอนหาตัวผู้สมัคร พรรคส้มก็ชูสโลแกน “มีเราไม่มีเทา” “มีส้มไม่มีเทา”
เอาสโลแกนนี้ไปด้อยค่าพรรคอื่นว่าเป็นพรรคเทา
ส้มไม่เกลือกกลั้วเทา
เล่นบทพรรคที่ได้ สส.มากเป็นลำดับที่หนึ่ง มีสิทธิ์ชี้นิ้วเลือกพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล
แสดงตัวอยู่เหนือกว่าทุกพรรคการเมือง
ด่าคนอื่นชั่ว แต่ดันมีชั่วอยู่ในพรรค
ก็เขี่ยให้พ้นตีนสิครับ
อ่านคำให้สัมภาษณ์ของ “หัวหน้าเท้ง” นึกถึง หน้าของ “ทักษิณ” ลอยมาทันทีเลยครับ
บกพร่องโดยสุจริต!
“หัวหน้าเท้ง” ไม่ได้บอกว่า บกพร่องโดยสุจริต แต่ความหมายไม่ต่างกันนัก
“เป็นเหตุสุดวิสัย”!
สุดๆ ครับ
“หัวหน้าเท้ง” ขอโทษแล้วขอโทษอีก
“…ต้องแสดงความเสียใจ และกล่าวคำขอโทษต่อประชาชนทุกคนอีกครั้ง…”
“…เป็นเหตุสุดวิสัยกับเรา แต่เราไม่ได้เอามาเป็นข้ออ้าง แค่อยากจะกล่าวคำขอโทษ…”
“…เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุสุดวิสัยแบบนั้นจริงๆ…”
“…เราพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เอามาใช้เป็นข้ออ้าง เราขอโทษ แต่ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย…”
ถ้าบวกกับ “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” คงต้องหาเข่งไปใส่คำขอโทษครับ
“…ผมต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย…”
“…พรรคประชาชนพยายามออกแบบกระบวนการคัดสรรผู้สมัครให้รัดกุมมากขึ้นทุกการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาด ต้องขอโทษประชาชนอีกครั้งที่ทำให้ท่านผิดหวัง…”
บางคนบอกว่าแค่คำขอโทษคงยังไม่พอ
บางคนให้อภัย เพราะเลือดสีส้มฉีดพล่านอยู่ในร่างกาย
“หัวหน้าเท้ง” อ้างความผิดพลาดนี้เป็นเหตุสุดวิสัย เพราะตำรวจออกหมายจับ “บุญฤทธิ์” วันที่ ๑๗ ธันวาคม หลังจากพรรคตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครไปแล้ว และไม่พบความเทา
สุดวิสัยจริงหรือเปล่า
ตามกฎหมายเลือกตั้ง “หัวหน้าเท้ง” คือผู้ลงนามรับรองผู้สมัคร สส.ทุกคนของพรรคส้มนะครับ
ไม่ระแคะระคายบ้างเลยหรือ
เขตเลือกตั้งนี้เป็นหนึ่งในเขตที่พรรคส้มเปลี่ยนตัวผู้สมัคร
ไม่ใช่ผู้สมัครคนเก่าที่แทบไม่ต้องตรวจสอบอะไรมากนัก เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว
แต่หน้าใหม่ที่เข้ามานั้น มีที่มาอย่างไร อุปนิสัยใจคอเป็นอย่างไร ทัศนคติทางการเมืองเป็นแบบไหน พรรคส้มไม่มีข้อมูลเลยหรือ
งั้นไปดูโพสต์ของ “ก้อง พงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ”
คนนี้เป็น สส.เก่าเขตบางพลัด-บางกอกน้อย แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกจากเหล่าโปลิตบูโรส้ม
“…จากกรณี ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน เขต ๓๓ บางกอกน้อย บางพลัด ที่เป็นข่าวโดนข้อหาฟอกเงิน
จากกรณีดังกล่าว ที่ผมต้องใช้เวลาในการแถลงเกี่ยวกับจุดยืนทางด้านการเมืองของผม ผมยังทำการเมืองอยู่ครับ ผมทำมาตลอดตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบัน
แต่จากกรณีที่ทางพรรคประชาชนได้เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กรุงเทพ พรรคประชาชน เขต ๓๓ ผมให้ความเคารพในการตัดสินใจของทางพรรคประชาชนครับ เพราะพรรคก็มีส่วนทำให้ผมสามารถเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรให้กับพี่น้องประชาชนได้
ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน เขต ๓๓ เป็นอดีตลูกน้องเก่าและอดีตผู้ช่วยผมครับ ทำงานการเมืองร่วมกันมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ แต่หลังจากที่ผมได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต ๓๓ ผมได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย
แต่ต่อมาทางนั้นได้มาแจ้งว่าขอลาออก ได้บอกกำหนด เวลาลาออกมาล่วงหน้า ทางผมก็ยอมรับการตัดสินใจซึ่งเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของทางนั้น แต่ทางทีมบางพลัดซึ่งเป็นผู้ช่วยผมในตำแหน่ง ผมยังให้ตำแหน่งไว้อยู่ เพราะเป็นข้อตกลงที่ทำการเมืองร่วมกันมา
ถึงแม้ทางทีมบางพลัดจะโจมตีผมทุกทาง แต่ผมก็สำนึกบุญคุณในการช่วยเหลือกันมาทางด้านการเมือง ก่อนที่จะยุบสภาได้สองเดือน มีการต่ออายุผู้ช่วย ก็ไม่ได้รับการติดต่อมาจากทางทีมบางพลัด และได้มีการโจมตีผมต่อเนื่องเรื่อยมา
จนเมื่อได้มีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน เขต ๓๓ ผมถึงเห็นว่าเป็นลูกน้องเก่าของผมที่ลาออกไป ผมก็ยังให้ความเคารพกับพรรคประชาชนในการตัดสินใจ
ผม ก้อง พงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ ผมยังมีความตั้งใจทำการเมืองเพื่อที่จะช่วยปัญหาพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบัน ความตั้งใจนี้ก็ยังคงจุดมุ่งหมายเดิมครับ
ขอขอบพระคุณ ทีมบางกอกน้อย ครอบครัว ผู้ที่รักและหวังดี และรู้จักผมเป็นอย่างดีทุกท่าน
ผมไม่เคยหักหลังใคร เป็นหลักที่นักการเมืองควรมีอยู่ในสายเลือด เพราะเราจะต้องทำงานให้กับประชาชน เราไม่หักหลังประชาชน
ถ้าคนที่หักหลัง มาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง จิตใต้สำนึกก็จะสามารถหักหลังประชาชนได้ตลอดเวลา…”
ครับ…มันกลิ่นตุๆ มีเรื่องเทาๆ มาก่อนแล้ว
ทรยศหักหลังมันเข้ากับสีเทาครับ
อย่างน้อยๆ เมื่อผู้สมัคร สส.ในเขตนี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งกับคนเก่า มันต้องมีสาแหรกให้สืบ
“หัวหน้าเท้ง” ครับ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบเยอะ ต้องตัดสินใจทำงานใหญ่ๆ มากมาย และไม่มีช่องว่างสำหรับคำว่าผิดพลาด
แค่เรื่อง ผู้สมัคร สส. “หัวหน้าเท้ง” ยังทำให้ปลอดความเทา ความดำ ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ชูเป็นสโลแกนในการหาเสียง
ถ้า “หัวหน้าเท้ง” ได้เป็นนายกฯ จะทำให้รัฐบาลปลอดคอร์รัปชันได้อย่างไร
อย่าบอกนะว่าเป็นเหตุสุดวิสัย.
