เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเขต 1 พิษณุโลกของพรรคเพื่อไทย ที่ส่ง “บู้ นายจเด็ศ จันทรา” ผู้สมัครเบอร์ 2 ลงชิงชัย ยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา มีการเดินสายแจกแผ่นพับแนะนำตัวให้กับประชาชนในหลายจุด พร้อมพบปะพูดคุย สอบถามปัญหา กระทั่งช่วงเย็นมีการจัดเวทีปราศรัยย่อยบริเวณปั๊ม ปตท.พลายชุมพล และวัดยาง ต.บ้านคลอง ซึ่งมีแกนนำพรรคมาร่วมขึ้นเวทีและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลก นายเสริมศักดิ์ และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนสนใจมาฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมากแม้ว่าฝนจะตกกระปริดกระปรอย พร้อมกันนี้ยังมีการแนะนำวิธีกาบัตรให้กับผู้สุงอายุที่มาฟังการปราศรัยด้วย
เมื่อถึงเวลาปราศรัยแกนนำพรรคได้สลับกันขึ้นเวที นำเสนอนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนนำไปพิจารณา ซึ่งยังคงเน้นย้ำ ดิจิทัลวอลเล็ต ร่างพ.ร.บ.อสม.นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
จากนั้น นายสมศักดิ์ ปราศรัยว่า อยากมาอธิบายให้ประชาชนทราบถึงจุดอ่อน จุดแข็งของการเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน การเป็นฝ่ายรัฐบาลจะมีศัยกยภาพในการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ส่วนฝ่ายค้านจะคอยคัดค้านติติง ดังนั้น ถ้าเราเลือกฝ่ายค้าน เราจะได้อะไร เลือกรัฐบาลเราจะได้อะไร สมมุติพิษณุโลกต้องการงบประมาณ สส.ต้องเสนอให้พรรค พรรคเสนอรัฐบาล ว่าควรทำหรือไม่อย่างไร ส่วนฝ่ายค้านไม่มีทางเสนอตรงให้รัฐบาล นี่คือจุดอ่อนจุดแข็ง มันต่างกันตรงนี้ วันนี้พี่น้องรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นฝ่ายรัฐบาล
“วันนี้พรรคเพื่อไทยส่ง “บู้ จเด็ศ จันทรา” ให้พี่น้องเลือกเป็นผู้แทนฯ ไม่ต้องลุ้นว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เลือก “บู้ จเด็ศ จันรา” เป็นฝ่ายรัฐบาลแน่นอน เพื่อให้ไปเป็นกำลังทำงานให้นายกรัฐมนตรีหญิง น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร
นอกจากนี้นายสมศักดิ์ได้เน้นย้ำเรื่องการดำเนินนโยบาย30 บาท รักษาทุกที่ ร่าง พ.ร.บ.อสม.ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มอสม. รวมทั้งเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการสิ่งเหล่านี้เพื่อพี่น้องประชาชน
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ตนกับภรรยามาวันนี้เพื่อพาว่าที่ สส. มากราบแทบเท้าพี่น้อง เพื่อขอคะแนน ทั้งนี้จากประสบการณ์ตนในการเป็นรัฐมนตรี เห็นโอกาสในการผลักดันพิษณุโลกเป็นเมืองมรดกโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศให้เดินทางมาเยือน กระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันให้เป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนล่างด้วย
นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า อยากขอให้ดาวเด่นมาประดับเวทีระดับชาติ ให้โอกาสเพื่อไทย แม้จะบอกว่าได้สส.เสียงเดียว แต่เป็นเสียงสวรรค์ ให้คนทั้งประเทศ รับรู้ว่าคนพิษณุโลก ต้องการให้นโบบายดีๆของพรรคเพื่อไทยได้สานต่อ
นายวรชัย กล่าวว่าขอให้เลือกเบอร์ 2 เป็นตัวแทน เอาปัญหาไปบอกรัฐบาลเพื่อแก้ไขให้ประชาชน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องประสานทุกสีเสื้อ รวมทุกพรรค เดินหน้าปรองดอง สามัคคีเป็นพลังใหม่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย จะเกิดความมั่นคง เสถียรภาพ การเมืองนิ่ง รัฐบาลทำงานได้ แก้ปัญหาให้ประเทศ
ด้าน “บู้ จเด็ศ จันทรา” กล่าวว่า มาขอโอกาสให้ลูกหลานได้เข้าไปพัฒนาจังหวัดพิษณุโลก ปัญหาของพี่น้อง จะไม่ใช่แค่รับฟัง แต่จะได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาบ่อขยะ ตนได้นำปัญหาไปปรึกษา ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ประธานกรรมการโรงงานคัดแยกขยะรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์ ได้แนะนำการแก้ปัญหา ตนจึงเข้าใจปัญหานี้ดี แต่ปัญหาขาดคนประสาน ขาดคนผลักดัน ให้โอกาสผมเข้าไปรับใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนครับ ดังนั้น 15 ก.ย.เข้าคูหากาเบอร์ 2