จะแก้อะไรกัน #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

จะแก้อะไรในรัฐธรรมนูญ

มีอยู่ ๒ พรรคการเมืองครับ ที่มีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญชัดเจน

ปรากฏในเว็บไซต์ของพรรค

คือพรรคประชาชน กับพรรคเพื่อไทย

๒ พรรคนี้มีความกระตือรือร้นในการแก้ไขรัฐธรมนูญมาโดยตลอด อ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีความเป็นประชาธิปไตย

เป็นมรดกของเผด็จการ คสช.

พรรคประชาชน อธิบายไว้ในนโยบายพรรคว่า

ในฐานะกฎหมายสูงสุดของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๖๐ เป็นต้นตอของปัญหาการเมืองไทย เพราะมีที่มา กระบวนการ และเนื้อหา ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

หากแต่ออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารและระบอบประยุทธ์

อีกทั้งยังถูกเขียนโดยคนไม่กี่คนที่ คสช.แต่งตั้ง อันเป็นผลให้เนื้อหาของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มีการขยายอำนาจของสถาบันทางการเมืองที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่ยึดโยงกับ คสช.

ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ

นอกจากนั้นแล้วกระบวนการประชามติในปี ๒๕๕๙ ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานประชาธิปไตย เพราะไม่ได้เปิดให้ทั้งสองฝ่ายรณรงค์ได้อย่างเท่าเทียมกัน

มีคำถามพ่วงที่กำกวมและชี้นำ และเกิดขึ้นในสภาวะที่ประชาชนถูกบีบว่าหากไม่รับร่าง คณะรัฐประหารจะอยู่ในอำนาจต่อและจะไม่มีการเลือกตั้ง

พรรคประชาชนมีข้อเสนอดังนี้

ร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมอย่างน้อย ๓ ด้าน ปิดช่องรัฐประหาร เพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญถูกฉีกได้ง่าย

เพิ่มสิทธิของประชาชนในการต่อต้านรัฐประหาร และกำหนดให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรัฐประหาร

ห้ามศาลทั้งปวงรับรองรัฐประหาร และกำหนดให้ทุกสถาบันทางการเมืองมีหน้าที่ร่วมกันในการปกป้องประชาธิปไตย

ห้ามนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร และเปิดช่องให้ประชาชนดำเนินคดีกับผู้ก่อรัฐประหารในความผิดฐานกบฏได้

ปกป้องเสียงของประชาชน ผ่านการรื้อกลไกที่ถูกใช้ในการสืบทอดอำนาจ

ยกเครื่องศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ทำให้เป็นกลาง มีระบบตรวจสอบที่ยึดโยงกับประชาชน

ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เพื่อให้นโยบายเท่าทันโลก และกำจัดข้ออ้างในการไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อให้อำนาจในการกำหนดอนาคตของทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด อยู่ในมือของประชาชนผู้เกิด-ผู้อาศัย-ผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่ ไม่ใช่ส่วนกลาง

ร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ขีดเขียนโดยประชาชน กล่าวคือ รัฐธรรมนูญต้องร่างโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากเลือกตั้ง ๑๐๐%

มีอำนาจพิจารณาแก้ไขทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา เพื่อโอบรับความฝันของทุกคนในประเทศอย่างแท้จริง

จะเห็นได้ว่าข้อเสนอของพรรคส้ม มีพื้นฐานมาจากการต่อต้านการทำรัฐประหาร จึงเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลรัฐประหารล้วนไม่มีความเป็นประชาธิปไตย

ไม่ยึดโยงประชาชน

แต่พรรคส้มลืมไปว่า สภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ นี้มีอำนาจตรวจสอบองค์กรอิสระอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่ออ้างว่าต้องมีระบบตรวจสอบที่ยึดโยงประชาชน ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้ไขอะไร

ที่สำคัญแนวทางการแก้ไขของพรรคส้ม คือแก้ทุกหมวด ทุกมาตรา ไม่เว้นหมวดพระมหากษัตริย์

สำหรับพรรคเพื่อไทยมีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แตกต่างไปจากพรรคประชาชน

พรรคเพื่อไทยระบุเอาไว้ในนโยบายพรรคว่า จัดทำ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน

“ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ” ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และมีความโปร่งใส

ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อความโปร่งใส คำนึงถึงหลักนิติธรรม “สร้างกระบวนการยุติธรรมที่ซื้อไม่ได้”

ปรับปรุง ยกเลิกกฎหมายทั้งหมดตามความจำเป็น ลดกฎหมาย ลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลยพินิจ

กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรอิสระต้องมีความเป็นอิสระ มีการคานอำนาจและมีความโปร่งใส

ปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ ป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ให้มีความเป็นทหารอาชีพ และแก้ไขกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้เข้ารับราชการทหารโดยสมัครใจ

เสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร

กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดนำร่อง

ครับ…จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เหมือนกันในข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้ง ๒ พรรคคือ ต่อต้านการทำรัฐประหาร

และทั้ง ๒ พรรคไม่มีในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ การแก้ปัญหาคอร์รัปชัน การควบคุมการใช้อำนาจไปในทางไม่โปร่งใสของนักการเมือง

ขาดประเด็นหลักที่สามารถนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้

มีข้อถกเถียงกันมานานว่า ต้นเหตุการทำรัฐประหารนั้นคืออะไร

บ้างก็ว่าฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการคุมอำนาจในการปกครองประเทศไว้ในมือ

บ้างก็ว่ากองทัพทำตามใบสั่ง

๒ พรรคนี้แทบไม่เคยพูดว่า รัฐประหารเกิดจากนักการเมืองทุจริต

ขณะที่จุดเด่นของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า นักการเมืองที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือนักการเมืองที่ละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ไม่ได้ไปต่อภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้

หนำซ้ำ นี่คือประเด็นที่พรรคส้ม และพรรคเพื่อไทย ประกาศว่าจะต้องไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เพราะเป็นนามธรรม

และยังเปิดโอกาสให้ศาลรัฐธรรมนูญขยายอำนาจจนเกินขอบเขต

รัฐบาลทำอะไรต้องถามศาลรัฐธรรมนูญ

หรือศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้กำหนดว่ารัฐบาลควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร

เป็นแนวความคิดตกขอบมากทีเดียว

รัฐธรรมนูญกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลเอาไว้มากมาย รวมทั้ง สส.และ สว. ทำอะไรได้บ้าง หรือห้ามทำอะไร

แต่ที่มีปัญหาเพราะนักการเมืองขาดความโปร่งใส

มีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับโทษว่าปัญหาอยู่ที่รัฐธรรมนูญ มิใช่ตนเอง

รัฐธรรมนูญไม่ใช่สูตรสำเร็จในการพัฒนาประเทศ

หากประเทศยังเต็มไปด้วยนักการเมืองชั่ว โกงกิน ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นยันระดับชาติ ต่อให้เขียนรัฐธรรมนูญออกมาดีแค่ไหนก็ตาม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่กระดาษชำระ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
ทบ.มอบประกาศชมเชย พร้อมสดุดี อส.ทพ. สกล ปัญญา หลังเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ยังบริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตผู้อื่น
จากเหตุการณ์ลอบยิงฐานปฏิบัติการบ้านไอร์กือเนาะ อ.ศรีบรรพต จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 ที่เป็นเหตุให้ อาสาสมัครทหารพราน สกล ปัญญา ตำแหน่ง...
Read More
0 replies on “จะแก้อะไรกัน #ผักกาดหอม”