ผักกาดหอม
เป็นไงครับ…
พอยุบสภาเข้าจริงๆ ก็ดิ้นเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้า
สมแล้วครับที่พรรคส้มถูกด่า ทำตัวเป็นเด็กงอแงถูกแย่งของเล่น
สาเหตุการยุบสภาคือง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน เมื่อพรรคส้มไม่พอใจเสียงโหวตในที่ประชุมรัฐสภา เพราะเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ ก็ท้าให้ยุบสภา
แถมยังตามตัว สส.ไปเข้าชื่อญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
รอไรล่ะครับ! นายกฯ อนุทินก็ชิงยุบสภาเสียก่อนน่ะสิ
อ้างว่าตรวจสอบรัฐบาล
นายกฯ อนุทินแถลงนโยบายปลายเดือนกันยายน เริ่มทำงานต้นเดือนตุลาคม ผ่านมา ๒ เดือนครึ่งเจอมรสุมราวกับรัฐบาลอยู่มา ๒ ปี
เจอเรื่องหนักๆ ทั้งนั้นครับ
น้ำท่วมหาดใหญ่
รบกับเขมร
ไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่บริหารประเทศ ๒ เดือนแล้วต้องมาเจอเรื่องหนักๆ แบบนี้
แต่ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายเคือง ฝ่ายค้ำ บอกว่า ได้เวลาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว
จะสร้างสถิติลง “กินเนสส์บุ๊ก” หรืออย่างไรไม่ทราบ
เปิดซักฟอกเร็วที่สุดในโลก!
พรรคส้มเล่นการเมืองเหมือนคนมีปัญหาทางจิต
ไอ้เรื่องแพ้โหวตร่างกฎหมายในสภาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
นี่เป็นการโหวตแพ้แค่มาตราเดียวนะครับ ไม่ใช่แพ้ทั้งร่าง พรรคส้มก็ยอมรับไม่ได้เสียแล้ว นิสัยส่อสันดานเผด็จการ
เรียกร้องให้ล้างไพ่!
ทั้งๆ ที่การชำเรารัฐธรรมนูญยังสามารถเดินต่อไปได้ หากพรรคส้มยอมรับความเห็นและความต้องการของคนอื่นบ้าง
การโหวตรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียง สว. ๑ ใน ๓ ร่วมด้วยนั้น หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ตอนนี้ใครไม่รู้จะมาเป็นคนร่าง ดันมีหน้าตาออกมา ด้านหน้าเหมือน สมบัติ เมทะนี ด้านซ้าย สรพงษ์ ชาตรี ด้านขวา กรุง ศรีวิไล ด้านหลัง มิตร ชัยบัญชา หล่อเหลาเอาการขนาดนั้นใครจะขวางครับ
ทั้ง สส.และ สว.ต้องเทเสียงให้หมดหน้าตัก
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า “หัวหน้าเท้ง” กลัวอะไร
กลัวรัฐธรรมนูญในอุดมคติตัวเองถูกรัฐสภาคว่ำ เพราะได้เสียง สว.ไม่ถึง ๑ ใน ๓ อย่างนั้นหรือ
กลัวแค่นั้นจริงๆ หรือ
หรือยังมีอะไรซ่อนอยู่
สิ่งที่ “หัวหน้าเท้ง” สื่อสารกับสาวก ก็ดูไม่รับผิดชอบสักเท่าไหร่
“…ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน และพรรคประชาชนเอง เราก็รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เราเองยังผลักดันไม่สําเร็จ ขอโทษต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่ภารกิจในครั้งนี้ แม้เราจะผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อทลายข้อจํากัดทางการเมืองที่เป็นอยู่ แต่เรายังไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุดของพวกเราได้ ในการที่จะเดินหน้ากระบวนการการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไปพร้อมๆ กับการเลือกตั้งในครั้งหน้า
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเมื่อวานนี้ ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ยังมีมติให้มีคําถามประชามติในครั้งที่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย ตามกฎหมายประชามติ และส่งให้คณะรัฐมนตรีแล้ว หวังว่าคณะรัฐมนตรีรักษาการ จะดําเนินการตามข้อกฎหมายที่เป็นอยู่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่จะพยายามจัดการเลือกตั้งครั้งหน้า ไปพร้อมๆ กับการจัดทําประชามติในส่วนคําถามที่หนึ่ง เพื่อทําให้กระบวนการในการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังเดินหน้าได้อยู่…”
อย่างที่บอกถ้าจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อ ก็ยังเดินไปได้ แต่พรรคส้มเลือกท้าให้ยุบสภา
แล้วยังฝันเฟื่องจะลงประชามติ
หมดสิทธิ์แล้วครับ เงื่อนเวลามันไม่ได้แล้ว ทำพร้อมเลือกตั้งไม่ได้
ยกเว้นแยกทำ
แล้วพรรคส้มจะควักกระเป๋าทำเองหรือเปล่า ๓-๔ พันล้านบาทนะครับ
พรรคเพื่อไทยก็เหมือนกัน ความจำสั้นกันทั้งพรรค
เห็น “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” แถลงข่าวแล้วนึกว่า กำลังถล่มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
“…การยุบสภาของรัฐบาลครั้งนี้คือ การหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด และไร้ประสิทธิภาพ
ทั้งในประเด็นความขัดแย้งชายแดน ที่ยังแก้ไขไม่ได้อย่างยั่งยืน
การโยกย้ายข้าราชการ
และใช้งบประมาณเอื้อประโยชน์กลุ่มคนบางกลุ่ม
ความน่าเชื่อถือของประเทศที่ตกต่ำในสายตานานาชาติ
ประชาชนเดือดร้อนจากอุทกภัย เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก
กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน คดีสำคัญไม่เดินหน้าอย่างโปร่งใส…”
เข้าตัวทั้งนั้นครับ
ที่จริงพรรคเพื่อไทยคงโล่งใจไปนะครับ เพราะอย่างน้อยก็ไม่เสียสุนัข ที่บอกว่าจะยื่นซักฟอกรัฐบาล แต่กล้าๆกลัวๆ ไม่ยอมยื่นสักที
ก็ถือว่ายุบสภาช่วยชีวิต!
แต่ที่บอกว่าหนีการตรวจสอบ ไม่รับผิดชอบความเสียหาย ลืมคลิปอังเคิลวุ้นเส้นกับหลานอิ๊งไปแล้วหรือไร
นั่นคือหนึ่งในต้นน้ำแห่งความฉิบหาย
จะให้แก้ปัญหาขัดแย้งชายแดนใน ๒ เดือน สติยังดีอยู่หรือเปล่า
โยกย้ายข้าราชการ เดือนสิงหา-กันยา ก็มันฤดูกาลโยกย้ายข้าราชการ ถ้าไม่โยกไม่ย้ายใครจะมาแทนคนที่เกษียณอายุราชการ แล้วที่ต้องขยับตามๆ กันมา จะเอาแมวที่ไหนมาเสียบแทน
เพ้อเจ้อไปเรื่อย
อีกเรื่องสำคัญมาก “คนละครึ่งพลัส เฟส ๒” จะเอาไงต่อ
สำหรับรัฐบาลรักษาการแล้ว เรื่องเงินเรื่องทองโครงการใหม่ๆ คือข้อห้าม
แต่ก็พอมีช่องให้ไปต่อได้อยู่เหมือนกัน
รัฐบาลต้องไปคุยกับ กกต.ว่า โครงการนี้คือโครงการเก่า รัฐบาลบอกมาเป็นเดือนๆ แล้ว ประชาชนก็รับรู้กันทั่วหน้าแล้ว ไม่ผูกพันรัฐบาลถัดไป เตรียมเงินเตรียมงบประมาณไว้พร้อมแล้ว กกต.จะว่าไง
ถ้า กกต.เห็นว่าอยู่ในข่ายผ่อนปรนตามกฎหมายได้ ประชาชนตาดำๆ ก็เติมเงินเข้า G-Wallet ได้เลย
แต่ถ้า กกต.เคาะว่า ไม่ได้เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีผลต่อคะแนนนิยม ก็ไปว่ากันในรัฐบาลหน้า
จะโทษใครก็ว่าตามสะดวก
แต่ที่แน่ๆ กูไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้
รู้นะครับว่าคือพรรคไหน.

