คนปลายซอย
“มิตรในยามยาก”
“หาดใหญ่”…มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย?
มันใหญ่ที่“ใจ”นั่นไง!
มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส
แต่ทำไงได้
มันเป็น“ครั้งหนึ่งในชีวิต”ที่แต่ละผู้คนต้องเผชิญในรูปแบบต่างๆกัน ถ้าไม่เจอในวันนี้ ยังไงๆ ก็ต้องเจอซักครั้งในวันข้างหน้า
จะเรียกว่า มันเป็น“ด่านชีวิต………..
ภายใต้รหัส“ชะตากรรม”ที่ไม่มีใครหนีพ้น ก็ไม่ผิดซะทีเดียว!
ฉะนั้น ในความ“ใหญ่ที่ใจ”พวกเราอย่าให้ความ“หมดอาลัยตายอยาก”มาบั่นทอนพลังนักสู้เลือดใต้ จนหมดกะจิต-กะใจ ที่จะ “ล้มแล้วรีบลุก”สู้ชีวิตกะมันใหม่
ผ่านครั้งนี้ไป ด้วยประสบการณ์ที่ซื้อมาด้วยชีวิต มันอาจเป็นตัวสร้างโอกาสใหม่ๆ มีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นในชีวิตและสังคมแดนใต้ก็เป็นได้
อะไรก็ตาม ทั้ง“มนุษย์-พืช-สัตว์”ถ้าไม่ลอกคราบ ก็จะไม่โต
วาระ“ลอกคราบหาดใหญ่”ก็มาถึงแล้ว
เป็นสัญญานบ่งบอกการ“แตกยอดใหม่”เพื่อโตของหาดใหญ่ในด้านวิวัฒนาการใหม่ๆหลุดพ้นจากสภาพหาดใหญ่“กินบุญเก่า”๕๐-๖๐ ปีที่แล้ว!
ตอนผมเป็นเด็กๆ ถ้าใครบอกว่า“ไปนอก”ก็เป็นที่รู้กันว่า“ไปหาดใหญ่”ไม่ใช่ไปเมืองนอก-เมืองนาที่ไหน
ใครไป“หาดใหญ่”ถือว่าโก้มากแล้ว!
คนที่ไม่มีอากาสได้ไป ก็จะฝากซื้อ พัดไม้จันทร์ฉลุ กระพือที หอมถึงเทวโลก ซื้อสบู่แก่นจันทร์ฝากสาวๆ ซื้อผลไม้วิเศษ คือแอปเปิล
ซื้อเสื้อมองตากูร์ ใส่แล้วเหาะได้ ซื้อขนมปัง“ครีม แครกเกอร์”ในหีบอลูมิเนียม ฯลฯ
เหล่านี้ มีที่“เมืองนอก”คือหาดใหญ่เท่านั้น นัยว่าราคาถูกเป็นของหนีภาษีเข้ามาทางมาเลย์ ปีนัง
นอกจากเมืองบางกอก ที่มีตึก ๗ ชั้นย่านเยาวราช บ้านนอกเข้ากรุง ต้องมายืนแหงนคอตั้งบ่า ดูตึก ๗ ชั้นแห่งเดียวนี้แล้ว
รองจากเมืองบางกอก ที่เจริญหรูหรา มีรถราวิ่ง กลางคืนมีไฟนีออน มีแสงสีกระพริบตามถนนในย่านชุมชน มีโรงแรมสูงๆแม้ไม่ถึง ๗ ชั้น แค่ ๓-๔ ชั้น แค่นั้น มันก็สุดจะเท่แล้ว
หาดใหญ่ ยุคโน้น เรียกว่า เจริญ ทันสมัย หรูแฟ่ ตื่นตา-ตื่นใจ สมกับที่คนจังหวัดอื่นๆยกให้เป็น“เมืองนอก”เสียจริงๆ!
จาก ๕๐-๖๐ ปี ก่อน กับหาดใหญ่ปัจจุบัน พูดกันตรงๆ ไม่ต่าง“ยืนตายซาก”
สมัยก่อน ยังมีเสน่ห์ คึกคัก สะอาด เป็นระเบียบ สวยงามกว่านี้ ผ่านไป ๕๐-๖๐ ปี หาดใหญ่ ถูกปล่อยเป็นคนชรา สังขารเสื่อมโทรม ไร้การบำรุง-รักษา
ความรกรุงรัง ความไม่สะอาดตา การรุกพื้นที่ถนนเป็นร้านค้าความไม่เป็นระเบียบเข้ามาแทนที่ความเป็น“เมืองนอก”ในอดีตของหาดใหญ่
๕๐-๖๐ ปีก่อน“ปีนัง”ยังโบร่ำ-โบรานกว่าหาดใหญ่ด้วยซ้ำ
แต่ปัจจุบัน ปีนัง เป็นกระต่ายในดวงจันทร์ไปแล้ว
เขาพัฒนาเมืองโดยรักษาเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมเดิมไว้ สะอาด ระเบียบ สวยงาม คงเดิม
ที่ใหม่ น่าตื่นตา-ตื่นใจ คือ“ใหม่-คุณภาพคนกับคุณภาพบ้านเมือง”ของเขาที่ไปด้วยกัน!
ส่วนหาดใหญ่ ยังเป็นเต่าวิเศษ คลานมาเป็นพันปี ก็ยังคลำทิศวางตำแหน่งตัวเองไม่ได้ว่า จะไปไหน และอยู่ในจุดใด?
ได้แต่วนอยู่ในอ่างยาเสพติด คอรัปชั่น ของเถื่อน บ่อน ซ่อง เจ้าพ่อ มาเฟีย และอาชญากรรมทางไซเบอร์
วิกฤตินี้ ก็เป็นโอกาสให้พี่น้องชาวหาดใหญ่ ได้รวมตัว-รวมใจปรึกษาหารือ กำหนดอนาคตหาดใหญ่ร่วมกัน ว่าต้องการจะให้หาดใหญ่ เป็นแบบไหน-อย่างไร?
“หาดใหญ่”แม้เป็นเพียง“อำเภอหนึ่ง”ของจังหวัดสงขลา แต่รับรู้ไว้เถิดว่า
“หาดใหญ่”มันเป็นเมืองที่“สังคมโลก”ปักหมุด เพราะเขาเห็น“ความสำคัญ”ที่เรามองตัวเองไม่เห็น
ก็ดูซี“น้ำท่วมใต้”ชาวโลกเขาให้น้ำหนักหาดใหญ่ขนาดไหน?
…………………………………..
“สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย”แถลงว่า “ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน”แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ส่งสารแสดง“ความเสียใจ”ต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย ถึง
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”ใจความว่า
“ฝ่าพระบาท
ขาพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์อุทกภัยระดับรุนแรงในภาคใต้ของประเทศไทย
ข้าพเจ้าเห็นอกเห็นใจและขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต
ขออวยพรให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์อุทกภัยฟื้นตัวในเร็ววัน จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งนี้”
ด้วยความเคารพอย่างสูง
วลาดีมีร์ ปูติน
……………………………………………
สำนักข่าว”ซินหัว” (Xinhua)ของจีน รายงานว่า
“นายหวัง อี้”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน
ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย
หลังไทยเผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงทางภาคใต้
“ขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อประชาชนในพื้นที่ประสบภัย หลังจากทราบว่าเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย
ซึ่งส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก
เชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของรัฐบาลไทย ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะสามารถ“สร้างบ้านหลังใหม่”ของพวกเขาขึ้นมาได้ในเร็ววัน
………………………………………..
“สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย”ยังได้โพสต์ข้อความ แสดงความเสียใจและความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในประเทศไทยด้วย ว่า
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่ในภาคใต้ของประเทศไทย ได้ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
“สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย”ขอแสดงความเสียใจและความห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลไทยและประชาชนในพื้นที่ประสบภัย
จีนพร้อมให้การสนับสนุนและความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ ขอให้ประชาชนชาวไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้โดยเร็ว
และฟื้นฟูบ้านเรือนกลับคืนสู่ภาวะปกติ #จีนพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือไทย #น้ำท่วมที่หาดใหญ่
…………………………………………..
“สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย”โพสต์ข้อความของ“นางทากาอิจิ ซานาเอะ”นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย
“ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์พายุฝนและอุทกภัยในราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียชีวิตของประชาชนเป็นจำนวนมาก
ขอแสดงความอาลัยต่อผู้เสียชีวิตและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่าน
ขอภาวนาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสามารถฟื้นตัวได้ในเร็ววัน พร้อมทั้งขอให้พื้นที่ประสบภัยสามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว
ประเทศญี่ปุ่นได้พิจารณามอบความช่วยเหลือที่จำเป็น บนพื้นฐานด้านมนุษยธรรมและสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพระหว่างประเทศญี่ปุ่นและสองประเทศ”
……………………………………..
“สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความจาก“โอตากะ มาซาโตะ”เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย
โดยแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อเหตุการณ์มหาอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ซึ่งได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและส่งผลกระทบให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ และขอภาวนาให้สถานการณ์ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติฟื้นกลับสู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน
“ประเทศญี่ปุ่นขอยืนเคียงข้างประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ และมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังกับประเทศไทยและประชาชนชาวไทยทุกท่าน”
…………………………………………
“สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย” โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่
และขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังผู้ประสบภัยทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้
และขอให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติและมีการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด
โดยรัฐบาลและประชาชนสาธารณรัฐเกาหลีขอสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลไทยในการรับมือและฟื้นฟูความเสียหาย
มือและฟื้นฟูความเสียหาย
…………………………………………..
เพจ“ผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย”(European Union in Thailand) โพสต์ข้อความจากคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
แสดงความเสียใจและความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยร้ายแรงในภาคใต้ของประเทศไทย
และแสดงความชื่นชมต่ออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้า และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจะสามารถฟื้นตัวได้ในเร็ววัน
…………………………………………..
“กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย”(UNFPA) โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“UNFPA ประเทศไทยขอร่วมยืนหยัดเคียงข้างทุกชุมชนทั่วประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่
ซึ่งรวมถึงประชาชนกว่าสองล้านคนในจังหวัดภาคใต้ที่ยังคงเผชิญกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น”
และขอแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษต่อความต้องการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เด็กหญิง กลุ่มประชากรเปราะบาง ทุกกลุ่ม ทุกวัย และทุกเพศ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
“เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติและความพยายามในการฟื้นฟูของประเทศไทย
โดยจะทำให้มั่นใจได้ว่า เข้าถึงสิทธิและทางเลือกสำหรับทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
………………………………………..
“สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย”ก็มีครับ แต่ไม่ใช่การส่งกำลังใจและแสดงความเสียใจ
หากแต่เป็นการประกาศแนะนำพลเรือนของเขา ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังบางพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย ยกเว้นกรณีจำเป็น
รวมถึงจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ในจังหวัดสงขลา
ทั้งแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆบนเส้นทางรถไฟสาย“หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์”ซึ่งวิ่งผ่านจังหวัดเหล่านี้
………………………………….
ตกลง ไม่เหลือเนื้อที่ให้ผมได้คุยอะไรเลย แต่ก็ไม่จำเป็นมิใช่หรือ เพราะความห่วงใยและความปราถนาดีจากมิตรประเทศในยามนี้
มีค่าคู่ควรทางใจ ที่เราจะซึมซับประทับไว้ ผมคิดเช่นนั้น
อ้าว..ผมลืมพี่น้อง“ลาว-ไทย”ไปได้อย่างกันนี่
นอกจากมิตรประเทศที่กล่าว ปรากฎว่า พี่น้องฝั่งลาว เรารักกันจริง หอบเงิน,สิ่งของเครื่องใช้ เดินทางจากลาวมาช่วยพี่น้องไทยที่ใต้-ที่หาดใหญ่กันมากมาย
พูดได้คำว่าเดียวว่า“ขอบใจหลายหลายเด้อ”!
-เปลว สีเงิน
๒ ธันวาคม ๒๕๖๘
