19 มิ.ย. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนที่สอบถามผ่านโซเชียลมีเดียช่วงการแถลงข่าวของศูนย์ข่าวโควิด-19 และสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. เผยความคืบหน้าในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 38 คนที่ทำการกักตัวสังเกตอาการ และการนำคนไทยเดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บางคนรักษาหายแล้ว และผู้ป่วยอีกหลายคนที่ไม่แสดงอาการเลย จึงจำเป็นต้องรักษาตามอาการเพราะขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ได้ประสานงานจัดบุคลากรทางการแพทย์สำหรับให้คำปรึกษาคนไทยในอียิปต์ทางแอปพลิเคชัน LINE เพื่อลดความกังวลระหว่างรอการเดินทางกลับ ซึ่งในวันที่ 3 กรกฎาคม และ 8 กรกฎาคม จะมีเที่ยวบินนำคนไทยเดินทางกลับจากประเทศอียิปต์วันละ 200 คน และอีก 2 เที่ยวบินที่ยังไม่ระบุวันที่ รวมทั้งหมดกว่าพันคน
สำหรับการนำคนไทยเดินทางกลับจากประเทศซูดานนั้น จะมีเที่ยวบินในวันที่ 24 มิถุนายน มีจำนวน 200 คน ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่จะเดินทางกลับ อาทิ Fit to Fly และความเป็นไปได้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเดินทางกลับ และจะต้องเตรียมสถานที่สำหรับกักตัวหากพบผู้ป่วยติดเชื้อ โดยได้รับความร่วมมือจากแพทย์ทหาร กองกำลังทหารไทยที่ปฏิบัติภารกิจ ณ ประเทศซูดาน ในการดูแลความเรียบร้อยและการเตรียมความพร้อมนำคนไทยเดินทางกลับด้วย
โฆษก ศบค. ชี้แจงถึงกรณีกลุ่มนักดนตรีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ สถานบันเทิงต่าง ๆ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ห่วงใยทุกอาชีพที่ได้รับความเดือดร้อน จึงสั่งการให้คณะทำงานผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรม หารือกับกลุ่มนักดนตรีสำหรับหามาตรการเพื่อเปิดกิจการ/กิจกรรม แบบ New Normal เน้นลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงในวันอาทิตย์ (21 มิ.ย.) จะมีการหารือกับผู้แทนผู้ประกอบกิจการ ผับ/บาร์/คาราโอเกะ เพื่อหาแนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดกิจการ
โฆษก ศบค. ชี้แจงเพิ่มเติมถึงแนวทาง Travel Bubble ว่า ไม่ได้หมายถึงการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเดินทางที่เข้ามาเพื่อการประกอบกิจกรรม/กิจการทางเศรษฐกิจ การผลักดันให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งในส่วนของนักธุรกิจ กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่มีฝีมือรวมไปถึงบุคคลที่ใบอนุญาตให้สามารถทำงานในประเทศไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปภายใต้การดูแลควบคุมอย่างทั่วถึง ซึ่งยังต้องมีการหารือและพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมใหญ่ ศบค. อีกครั้งด้วย
ในตอนท้าย โฆษก ศบค. เผยว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ชื่นชมคนไทยที่ร่วมมือร่วมใจผ่านการฟื้นฟูสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้รับคำชื่นชมจากต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้นำไปสู่การทำงานในรูปแบบใหม่ของประเทศไทย คือ “ภารกิจรวมไทย สร้างชาติโดยคนไทยทุกคน” ถึงเวลาที่เราต้องรวมพลังปฏิบัติตามแนววิธีใหม่ ซึ่งการเตรียมการที่ดี มีวินัย ให้ความร่วมมือนั้น จะทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้