7 สิงหาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศชาติมีความจำเป็นต้องมีความรักสามัคคีและรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินไทย
พรรคพลังประชารัฐมีความเห็นว่า จำเป็นต้องยกเลิก MOU 2544-2543 เพราะมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยต้องเสียผืนแผ่นดินไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะมีอดีตนักการเมืองและ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไปเซ็นเอกสารรับรองแผนที่ 1:200,000 แทนที่จะใช้แผนที่ 1:50,000 ที่ใช้เป็นสากลในปัจจุบัน ซึ่งหาก MOU ทั้ง 2 ฉบับ คงอยู่จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16
นอกจากนี้ใน MOU 2544 ยังมีความเสี่ยงในการเสียพื้นน้ำใต้เกาะกูดและพื้นน้ำส่วนหนึ่งของอ่าวไทยไป และที่สำคัญ MOU 2544 ยังขัดกับประกาศในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. 2516 ที่ล้นเกล้าในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยในอ่าวไทย โดยอ้างอิงตามหลักกฎหมายทะเลสากลและอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ณ กรุงเจนีวา ซึ่งมีผลให้เกิดการกำหนดเขตทางทะเลของไทยที่ชัดเจน และMOUทั้ง 2 ฉบับ โดยเฉพาะ MOU2544 มีผลกระทบต่ออาณาเขตของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน ต้องผ่าน ความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน แต่จนปัจจุบันนี้ อยากไปผ่านความเห็นชอบแต่อย่างใด
พร้อมย้ำว่าพรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนที่ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องยกเลิก MOU 2543 และ 2544 ทั้งสองฉบับ