สิ่งที่น่ากลัวกว่าเขมร #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

สงสัยกันเยอะว่า เขมร จะเอาปราสาทไปทำอะไร

อยากได้หนักหนา

ตาควาย

ตาเมือนธม

ตาเมือนโต๊ด

“อังเคิลวุ้นเส้น” ดูละครจักรๆ วงศ์ๆ เกราะเพชรเจ็ดสี มากไปหรือเปล่า ถึงจะตีเอาปราสาทจากสยามไปให้สุดที่รักคิ้วงาม “ป้ารานี”

ทั้งๆ ที่ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ได้ไปก็อยู่ในสภาพทรุดโทรม เสื่อมทราม แทบไม่ได้รับการดูแลเลย ยังมักมากอยากได้ไม่สิ้นสุด

สิ่งที่น่ากลัววันนี้คือ ความกากของ “ฮุน เซน” บุคคลที่ไม่มีสำนึกด้านสิทธิมนุษยชนอยู่ในตัวแม้แต่น้อย บวกกับความไร้วินัยของทหารเขมร จึงวางใจอะไรไม่ได้เด็ดขาด

ปิดจ๊อบภาษีทรัมป์เมื่อไหร่ มันยิงอีกแน่

กองทัพเขมรไม่ต่างจากกองทัพโจร เรื่องระเบียบวินัยไม่ต้องพูดถึง ไม่สนขั้นตอนอะไรทั้งนั้น อยากยิงเมื่อไหร่ก็ยิง และพิสูจน์ให้เห็นแล้วหลังการหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ ทหารเขมรยังยิงทั้งคืน

เรื่องความมีวินัยของทหารไทย คนนอกอาจมองไม่ออก แต่จะบอกว่า มีวินัยสุดๆ

ดูทหารพราน ๑๙ นายที่ติดอยู่ในสนามรบ ขาดการติดต่อถึง ๗ วัน ทุกวันผ่านไปเหมือนอยู่ในขุมนรก แต่ก็รอดมาทั้ง ๑๙ นาย

ความมีวินัยเท่านั้นที่ทำให้ทหารพรานเหล่านี้สามารถหลุดพ้นจากสนามรบออกมาได้

และสังเกตให้ดี เมื่อได้รับการช่วยเหลือ ทหารพรานทุกนายกดปลายกระบอกปืนลงพื้นทั้งหมด เพราะความมีวินัย ทุกอย่างจึงเป็นไปตามอัตโนมัติ

ป้องกันอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจ!

นี่คือมืออาชีพ

ผิดกับทหารเขมร จากคลิปที่ปล่อยกันว่อนโซเชียล ไม่ต่างจากกองโจร ไร้วินัยแม้กระทั่งการเก็บรักษาอาวุธ หันปลายกระบอกปืนสะเปะสะปะมั่วไปหมด

แต่ก็มีสิ่งที่น่ากลัวกว่าความไร้วินัยของทหารเขมร นั่นคือความไม่เอาไหนของรัฐบาลไทย

เหมือนจะยังตกใจเสียงปืนกันอยู่ จนทำอะไรไม่ถูก หยิบจับอะไรก็ดูผิดไปหมด

นึกถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาในช่วงสงครามเสียกรุงครั้งที่สองอยู่ในขั้นเสื่อมทราม

พระเจ้าเอกทัศน์ทรงหลงสตรี จึงโปรดให้ห้ามยิงปืนใหญ่

บ้างก็ว่าให้ลดดินปืนลงเพราะกลัวนางสนมหูแตกหรือตกใจ ทำให้ไม่สามารถยิงปืนข้ามคูพระนครถึงค่ายพม่าได้

สุดท้ายก็เสียกรุง!

สภาพรัฐบาลไทยขณะนี้เหมือนคนตกใจเสียงปืนจริงๆ

ภาระจึงไปตกที่ทหารเกือบทั้งหมด

บางภาระก็ไปตกกับเอกชน

ดูการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเป็นตัวอย่าง

อนุมัติเสียดิบดีไปเป็นอาทิตย์แล้วครับ

กรณีเสียชีวิต รายละ ๑ ล้านบาท

กรณีทุพพลภาพ รายละ ๗ แสนบาท

กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ ๒ แสนบาท

กรณีบาดเจ็บมาก รายละ ๑ แสนบาท

กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ ๕ หมื่นบาท

แถมยังเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากประชาชนทั่วไปอีก

เขาด่ากันให้เช็ดครับ งานศพจบไปแล้ว วันนี้เงินยังไปไม่ถึงมือผู้ได้รับผลกระทบ

อีกอย่าง ชีวิตชาวบ้านมีค่าน้อยเหลือเกิน น้อยกว่าคนเสื้อแดงเผาเมืองถึง ๗ เท่าตัว

แต่…ยังมีที่น่ากลัวกว่าความไม่เอาไหนของรัฐบาล พรรคส้มครับ

วานนี้ (๓๑ กรกฎาคม) เพจเฟซบุ๊กพรรคประชาชนโพสต์ข้อความว่า…ทางเดียวของไทย คือต้องกอดหลักมนุษยธรรมตามกฎหมายสากล แก้นโยบายเลือกปฏิบัติโดยด่วน

จากกรณีที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเรื่องการยกเลิกปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้สื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา โดยมีรายละเอียด คือ

๑.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และจิตอาสาต่างประเทศ ๒.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว ๓.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา ๔.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ให้จำกัดพื้นที่ให้ชัดเจน มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ถึง ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๘

พรรคประชาชนมีความเห็นว่า ประเทศไทยจะสามารถหยัดยืนในเวทีนานาชาติได้อย่างภาคภูมิใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสถานการณ์การใช้กำลังปะทะกันระหว่างประเทศนั้น ก็ด้วยการยึดมั่นหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศไทยจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในเวทีระหว่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุสัญญาเจนีวา ๔ ฉบับ ลงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๙๒ โดยประเทศไทยได้ลงนามเมื่อปี ๒๔๙๗ ว่าด้วยกฎการทำสงครามและหลักสิทธิมนุษยชนในยามสงคราม โดยเฉพาะภาค ๒ ข้อ ๑๒ “ผู้สังกัดในกองทัพและบุคคลอื่นที่จะได้กล่าวถึงในข้อต่อไปนี้ ซึ่งบาดเจ็บหรือป่วยไข้ จะต้องได้รับความเคารพและคุ้มครองในทุกพฤติการณ์ บุคคลเหล่านี้จะต้องได้รับการปฏิบัติและรักษาพยาบาลด้วยมนุษยธรรมโดยคู่พิพาทซึ่งตนตกอยู่ในอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงลักษณะความแตกต่างอันเป็นผลเสื่อมเสียเนื่องมาแต่เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง หรือเหตุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน…”

การเลือกปฏิบัติของโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย ถือว่าขัดต่อหลัก International Humanitarian Law จะทำให้ประเทศไทยเสียหายมากในเวทีโลก และเสี่ยงต่อการถูกกัมพูชานำไปขยายผลในเวทีระหว่างประเทศ

พรรคประชาชนได้รับข้อมูลว่ากระทรวงสาธารณสุขและแพทยสภา รวมถึง ศบ.ทก. ได้รับแจ้งเรื่องนี้แล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสอดคล้องกับหลักสากล

พรรคประชาชนขอย้ำอีกครั้งว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ เราไม่ต้องการให้ความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเกลียดชังระหว่างประชาชน เพราะถึงที่สุดแล้ว ไทยและกัมพูชายังจะต้องกลับมามีความสัมพันธ์ต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป…

ครับ…โง่แล้วเสือกอวดฉลาด!

คิดว่าเขมรมันจะจบแค่นี้หรือ

คิดว่าหน้างานมันจะราบรื่นอย่างนั้นหรือ

นี่คือสงคราม ไม่ใช่งานประกวดสุนัข

ขนาดทหารเขมรที่ไทยจับได้ ทางรัฐบาลเขมรมันบอกว่าเราลักพาตัวมา

ระยำครับ

ในการสู้รบ การจับเชลยศึกไม่ใช่ทำง่ายๆ อีกฝ่ายต้องวางอาวุธถึงจะจับได้

ในสนามรบมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ทุกวินาที ถ้าพรรคส้มบอกว่าจะกอดหลักการ ลองไปนอนไปกินกับทหารที่แนวหน้าสักวันสองวันดีมั้ยครับ

หรือลองถามหมอในโรงพยาบาลแนวชายแดนว่าแต่ละวันต้องรับมือกับอะไรบ้าง ว่างพอที่จะดูแลทหารหรือคนเขมรที่บาดเจ็บหรือเปล่า

ไอ้พวกขวางคลองน่ากลัวจริงๆ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
แพ้แต่ชนะใจคนดูสง่างามกว่า?
ผสมโรง สันต์ สะตอแมน ดูโหงวเฮ้ง-บุคลิกน่าจะไม่ใช่คนขี้โกหก.. ฉะนั้น..ที่คุณปรีดี ดาวฉาย อ้าง “กลัวสมองตีบ” ในการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เมื่อวานซืนนั้น ผมคนหนึ่งล่ะที่เชื่อ และเมื่อเชื่ออย่างหมดใจแล้ว...
Read More
0 replies on “สิ่งที่น่ากลัวกว่าเขมร #ผักกาดหอม”