เปลว สีเงิน
บอกตรงๆว่าหมั่นไส้
กับ “พรรคประชาชน” ที่ดัดจริตทำตัวเป็น “นักบุญ-นักมนุษยธรรม” ขึ้นสมองซะจริงๆ
“โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์” ที่อุบลฯเขาประกาศว่า
“ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา
ด้วย โรงพยาบาลฯ ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ทั้งผู้ป่วยไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง
เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ
และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิก “คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ” โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้
๑.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และ จิตอาสาภาษาต่างประเทศ
๒.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว
๓.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ ผู้ป่วยชาวกัมพูชา
๔.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน
ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ กค. – ๑๐ ส.ค. ๖๘”
เท่านั้นแหละ……
“พรรคประชาชน” ออกมาโพสต์เรียกร้องหลักมนุษย์ธรรมตามกฎหมายสากลทันที
“นายรอมฎอน ปันจอร์” สส.พรรคประชาชน จัดแจงโพสต์อย่างเท่ว่า “เป็นเรื่องร้ายแรงมากครับ และกระทบต่อเกียรติภูมิของประเทศอย่างแน่นอน”
แบบนี้แหละ ชาวบ้านถึงบอกว่า มี สส.ไว้ทำไม เปลืองงบแล้วยังรกชาติด้วย!
ทีเขมรมันยิงจรวดเข้ามาถล่มโรงพยาบาลพนมดงรักษ์ ถล่มบ้านเรือนชาวบ้าน ถล่มปั๊มน้ำมัน ถล่มเซเว่น ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ทางการทหารเลย คนไทยตาย-เจ็บหลายสิบ
ไม่เห็นพรรคประชาชนแถลงการณ์ประณามและเรียกร้องหลักมนุษยธรรมตามหลักกฎหมายสากล อย่างที่เรียกร้องเอากับโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เลย!
ก่อนจะพูด-จะโพสต์อะไร ควรศึกษาถึงเหตุผล ปัญหาและสถานการณ์ในพื้นที่ให้ครบถ้วนก่อน
ไม่ใช่อยู่ในรูสภา ฟังแต่ข่าวก็ “คิดเอา-จินตนาการเอา” แล้วโพสต์อวดเท่ไปเรื่อย
หรืออยากเป็น “สปาย-ไส้ศึก” กับเขามั่ง?
เท่าที่อ่านคำแถลงของโรงพยาบาล มันก็ชัดนี่ เขาปิดแค่ “คลินิกนอกเวลา”
และไม่รับ “ผู้ป่วยรายใหม่ชาวเขมร” เท่านั้น
ยกเว้นเฉพาะ “กรณีป่วยฉุกเฉิน” พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม
ส่วนคนเขมรที่นอนรักษาตัวอยู่แล้ว หรือคนเขมรที่อยู่ในไทยมารับการรักษา โรงพยาบาลก็ให้บริการตามปกติ
เหตุที่ต้อง “ยกเลิกการรับยาแทน” เพราะตอนนี้มีข้อจำกัดการส่งยาข้ามแดน มียาตกค้างอยู่จำนวนมาก
เมื่อสถานการณ์ยังไม่เป็นที่ไว้ใจ ทั้งคนเขมรข้ามมารับการรักษาน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องมี “ล่ามภาษา” ฉะนั้น ก็ให้ยกเลิกไป
ทั้งหมดนี้ ใช่ว่ายกเลิกไปชั่วฟ้าดินสลาย
ก็แค่ ๑๐ วันเท่านั้นเอง!
เมื่อมั่นใจได้ว่า เขมรป่าเถื่อนแถมโป้ปดมดเท็จเป็นอาจินต์ไม่ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 เข้ามาเหมือนที่โรงพยาบาลพนมดงรักษ์แล้วละก็
ทางโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เขาก็จะให้การบริการถ้วนหน้าเหมือนเดิม
นายปันจอร์ ด้วยมนุษยธรรมในร่างท่าน จะเอาคนถูกยิง-ถูกระเบิดจากฝีมือขบวนการแบ่งแยกดินแดน ๓ จังหวัดใต้มารักษาที่โรงพยาบาลนี้
ทางโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เขาก็ยินดี พร้อมชื่นชมมนุษยธรรมในตัวท่านนะ!
นี่…พูดกันตรงๆ ถ้าผมเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ก็จะต้องทำอย่างที่เขาทำอยู่ตอนนี้
เพราะอะไรน่ะหรือ?
คำตอบคือ มีอะไรรับประกันความเป็นมนุษย์ผู้มีสัจจะจากเขมรได้ ถ้ายิงตูมตามเข้าที่โรงพยาบาล ใครจะรับผิดชอบชีวิตคนเจ็บ-คนป่วย ตลอดถึงแพทย์-พยาบาลล่ะ?
อีกอย่าง ในตอนนี้ ท่านหัวหน้าพรรคประชาชน โผล่หัวไปดูตามพื้นที่ชายแดน บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีสะเกษ อุบลฯ ดูซิ ว่ามันน่าไว้ใจได้แล้วหรือยัง?
เขมรมันส่งโดรนเข้ามาคุกคาม-สอดแนมในอุบลฯ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มันมาให้เห็นทุกคืน!
และตอนนี้ ปรากฏว่า ………….
มีคนเขมร “แสร้งป่วย” ด้วยโรค ปวดหัว-ตัวร้อน ข้ามแดนมาขอรับการรักษา ชนิด “ไม่มีใบส่งตัว” มาอย่างผิดสังเกต
แล้วใครจะรับประกันได้ว่า จะไม่มีการส่งมือสอดแนมปะปนเข้ามาสำรวจจุด-ตั้งพิกัด หรือเอาระเบิดมาซุกหรือเอากับระเบิดมาฝัง ซึ่งเขมรมันทำได้ทั้งนั้น
การเอาใจวิญญูชนไปวัดใจโจรว่า “ไม่มีใครทำอย่างนั้นหรอก” แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมาล่ะ….
ลูกอีช่างด่า ก็ด่าเขาอีก ปล่อยปละละเลย ไม่มีการตรวจตราระแวดระวังรักษา สันดานสส.บางพวก มันตวัดลิ้นไปได้ทุกทางแหละ
เขมร ปะทะกับไทย แทนที่ทหารจะดวลกับทหารในพื้นที่ แต่ไอ้เขมรอัปรีย์ มันตั้งจรวดยิงเข้าไปในชุมชน เข้าไปในโรงพยาบาล ร้านค้า จนชาวบ้านตาย โรงพยาบาลต้องย้ายคนป่วยกันอลหม่าน
มึงยิงถล่มใส่โรงพยาบาลไม่ยั้งแหมบๆ
เสร็จแล้ว มึงอ้างมนุษยธรรม ขอมารักษาตัวที่โรงพยาบาลฝั่งไทยที่มึงยิงถล่ม!?
มาน่ะ ด้วยมนุษยธรรมและจรรยาแพทย์ หมอท่านรักษาให้อยู่แล้วไม่เลือกมิตร-ไม่เลือกศัตรู
หมาป่วย ยังรักษาเลย ทหารเขมรฆ่าคนไทยแล้วบาดเจ็บมา ท่านก็ยังรักษาให้ แต่เผอิญช่วงนี้ สถานการณ์ยังไว้ใจไม่ได้ อีกทั้งเขมรส่งทั้งคน ทั้งโดรนเข้ามาสอดแนม
ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแปลกปลอมเข้ามา ฉะนั้น “ปลอดภัยไว้ก่อน” ดีที่สุด
ผมจึงเห็นด้วยกับมาตรการของ “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์”
เพราะหมอท่านเรียน “นิทานอีสป” ตอนชั้นประถมเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” จึงนำมาใช้เป็นประสบการณ์กับคนเขมร
แต่พรรคประชาชนเป็นพวก “หัวนอก”
คือทั้ง “นอกคอก” และ “เรียนนอก” จึงไม่เคยเรียนนิทานอีสปเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า”
ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าการเอางูเห่ามาอุ้ม พอมันได้ไออุ่นแล้ว มันจะจุมพิตหรือฝังเขี้ยวฝากพิษ?
การมีมนุษยธรรม เมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นเรื่องดี
แต่การมีอย่างขาดสติ ขาดเหตุผล ทั้งไม่เลือกคน เป็นเรื่องโง่!
แต่พลเอกณัฐพลนี่ เขาเรียกฉลาด
ตามโปรแกรม ๔ สิงหา. “ไทย-เขมร” จะประชุม GBC กันที่พนมเปญ
ปรากฏว่า “พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์” รมช.กลาโหม ท่านขอเปลี่ยนจากที่พนมเปญ ไปประชุมที่มาเลย์ฯ ขยายเวลาเป็น ๑-๗ สิงหา.
ถูกต้องตามเชิงกลแล้ว เรื่องอะไรที่เราจะเป็นปลาไล่งับเบ็ดที่เขาล่อ จากที่ถูกยื่นเงื่อนไข เราเปลี่ยนเป็น “ผู้กำหนดเงื่อนไข” บ้าง
แฟนๆ เรื่อง “เด็ดเหนียงสองพ่อลูกตระกูลฮุน” ก็อย่าเพิ่งตีโพย-ตีพายกันไป กะอีแค่เรื่อง “ปราสาทตาควาย”
ยัง “เขมรครึ่ง-ไทยครึ่ง”!
การยุทธมันยังไม่สิ้นเสร็จหรอก มันอีกหลายยก เราต้อง “เชื่อมือ-เชื่อสมอง-เชื่อแผน” ของกองทัพและศักดานุภาพทหารของเรา
ฉะนั้น เราอย่าทำตัวเป็นด้ายหลอดไปวัดความลึกทะเลเลย!
ตราบใดที่ “กองทัพนำการเมือง”
ไปเชื่อขนมแม่ค้ากินได้ ลงท้ายสองพ่อลูกคู่นี้ ตกเป็นเหยื่อให้ทั้งอินทรีและหมีแพนด้าขย้ำ
ส่วนเมืองไทย ใครเมียงมา ก็บอกเขาว่า…กราบพระซะซี่ ที่นี่เมืองพุทธนะ แล้วทุกอย่าง จะสวัสดี มีชัย ถูกหวยรวยกันใหญ่ในบ่ายนี้!
ไทยต้องเป็น “ผู้กำหนดเกม” ในการเจรจา อย่าลืม “ทวิภาคี”คือไทยกับเขมรเท่านั้น จะตกลงกันเรื่องเขตแดน คนอื่นไม่เกี่ยว
ถ้าตกลงกันไม่ได้ เหลือจะทน…ก็ยิงกัน
๒ ประเทศเท่านั้น ดวลให้แหลกกันไปข้าง ให้ฮุนมาเนต กับแพทองธาร ไสช้างชนกันคู่หนึ่ง ฮุนเซนกับทักษิณขี่ม้าดวลหอกกันอีกคู่หนึ่ง
ฝ่ายไหนชนะ เอาปราสาทตาควายไป
ประเทศเรา ควายเยอะอยู่แล้ว ให้เขมรเขาไปมั่ง!
แต่ถ้าดวลกันจนพ่อ-ลูกตายด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็จะปักปันเขตแดนกันได้ ตามแผนที่เป็นจริง ๑:๕๐๐๐๐
ทีนี้แหละ “ได้หมดสดชื่น” ด้วยกันทั้งไทยทั้งเขมรไปอีกนาน จนกว่า “พระยาละแวก” จะกลับชาติมาเกิดอีกที
วันนี้ ๑ สิงหา.กระทรวงต่างประเทศและกองทัพบกโดย “พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล” รองเสนาธิการทหารบก
จะนำคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศและผู้ช่วยทูตทหารและสื่อมวลชนต่างประเทศ ๒๒ สำนักข่าว รวม ๓๘ คน ลงพื้นที่
ไปดูผลงานการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของเขมร ใส่ชุมชน ใส่โรงพยาบาล ใส่เซเว่น ใส่บ้านเรือน จนชาวบ้านตาย-เจ็บหลายสิบคน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางทหารเลย!
เห็นกับตาแล้ว…..
คณะทูตและสื่อ จะเชื่อ “พลโทญิงมาลีสีฟักทอง” หรือจะเชื่อ “พลโทอานุภาพ ศิริมณฑล” วันนี้รู้กัน
รู้แน่ๆ อีกเรื่อง วันนี้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะมีคำวินิจฉัยคดีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่ ๑ คดี มาตรา ๑๔๔
ถ้าตกเก้าอี้ จะเป็นสัญญานว่า………
“ทั้งรัฐบาล-รัฐสภา” มีหวังถูกโละ ชนิด “ล้างประเทศ” ในอีกคดีที่กำลังจ่อรอสู่ศาล!
เปลว สีเงิน
๑ สิงหาคม ๒๕๖๘
