ผักกาดหอม
เข็มขัดสั้นครับ…
คาดไม่ถึง ผลการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต ๘ นครศรีธรรมราช อำเภอนาบอน อำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง และอำเภอพิปูน พรรคกล้าธรรม พรรคใหม่เอี่ยมยังไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ชาวบ้านในเขต ๘ ได้เห็น แต่กลับชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย
กลับกัน พรรคที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เจ้าของตำนานส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้รับเลือก ถูกยกให้เป็น “สถาบัน” การเมือง ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
และดูเหมือนจะยังไปไม่ถึงจุดตกต่ำที่สุด
จุดที่เรียกว่าสูญพันธุ์อาจรออยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก
ในอดีต พื้นที่เลือกตั้งนครศรีธรรมราช ถือเป็นเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์
หลังสิ้นยุคพรรคกิจสังคม การเลือกตั้งปี ๒๕๒๖ นครศรีธรรมราช ๓ เขต ประชาธิปัตย์ยกแผง
แม้จะเซบ้างในการเลือกตั้งปี ๒๕๓๑ เพราะ ๓ ทหารเสือจากพรรคเอกภาพ ชำนิ ศักดิเศรษฐ์, สุธรรม แสงประทุม และวิทยา แก้วภราดัย เบียดเข้ามาได้
แต่การเลือกตั้งปี ๒๕๓๕ ประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้ง จากนั้นก็ยึดพื้นที่ยาว จะมีพรรคการเมืองแทรกเข้ามาได้บ้าง เช่นพรรคพลังธรรม ในการเลือกตั้งปี ๒๕๓๕/๒ แต่ก็เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว
หลังสิ้นยุคหัวหน้าพรรคชื่อชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ค่อยๆ ดำดิ่ง
เมื่อสิ้นยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หายนะก็เกิดกับพรรคประชาธิปัตย์
จากพรรคขนาดใหญ่มี สส.หลักร้อยคน มาเหลือหลักสิบต้นๆ
สถานะในปัจจุบัน เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อม “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ดีกรีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สส. ๙ สมัย ได้มาเพียง ๔,๑๙๐ คะแนน
จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๑๑๗,๗๑๗ คน
ต่อให้พรรคอื่นกระหน่ำซื้อเสียง
คะแนนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ คือคะแนนระดับเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล หรือสมาชิก อบต. ซึ่งมีพื้นที่เลือกตั้งแคบกว่าเท่านั้น
เสียงเตือนให้ระวังหายนะจะเกิดกับพรรคประชาธิปัตย์ใช่ว่าเพิ่งจะมีวันสองวันนี้ แต่เตือนกันมาพักใหญ่แล้ว
โดยเฉพาะช่วงปรับโครงสร้างพรรคล่าสุด แทนที่จะดีขึ้น กลับแย่ลง
และการร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณคือฟางเส้นสุดท้ายที่คนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกลือกกลั้วอีกต่อไป
มีโพสต์ของ นายหัวชวน หลีกภัย ระบุถึงการเลือกตั้งซ่อมคราวนี้
“…ถึง พี่น้องชาวนครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากการเลือกตั้งช่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ ๘ เมื่อวานนี้
ผมขอขอบพระคุณพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชที่ให้การต้อนรับผมและคณะ ด้วยมิตรไมตรียิ่งในระหว่างการรณรงค์หาเสียงให้กับคุณ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ – Chinnaworn Boonyakiat ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมมีความยินดีที่ได้ใช้โอกาสดังกล่าวในการเผยแพร่แนวทางความเชื่อว่า ‘ประเทศรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต’ เพราะแนวทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้อนาคตของประเทศชาติบ้านเมืองและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความเจริญก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน รวมทั้งเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง
ผมขอเป็นกำลังใจแก่พี่น้องชาวนครศรีธรรมราชให้ยึดมั่นศรัทธาต่อการปกครองระบอบนี้และการเมืองที่สุจริตเที่ยงธรรมตลอดไป…”
มีข่าวช่วงคืนหมาหอนว่า มีการซื้อเสียงหัวละ ๒-๓ พันบาท
แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐาน
และยังไม่มีใครร้องเรียน กกต.
ถึงจะมีการเมืองอุบาทว์อยู่จริง แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินนี้ นอกจากการเมืองสกปรก มีการซื้อเสียงอย่างดุเดือดแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เองไม่สามารถกอบกู้ศรัทธาให้กลับมาได้
ว่ากันตรงๆ พรรคประชาธิปัตย์ควรโทษตัวเองด้วย
“ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ไม่ใช่นักการเมืองโนเนม การแพ้อย่างย่อยยับครั้งนี้ถึงเวลาที่คนเก่าคนแก่ในพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงคนหนุ่มไฟแรงต้องพูดความจริงกับประชาชน ว่าปัญหาของพรรคอยู่ตรงไหน
แล้วแก้ไขเสีย
แต่หากต่างคนต่างอยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไป เพราะในพรรคประชาธิปัตย์เอง ยังมีปัญหาเรื่องการใช้เงินใช้ทองอยู่ ก็ป่วยการที่จะพูดถึงการเมืองข้างนอกที่ต้องสุจริต
คนที่เดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์หลายคนก็รู้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบันไม่อาจนำพาประเทศรุ่งเรือง ด้วยการทำการเมืองสุจริตได้
เพราะมันมีความไม่สุจริตเกิดขึ้นมากมายภายในพรรค อยู่ที่จะพูดความจริงกันหรือไม่
ครับ…นั่นเป็นเรื่องของพรรคเก่าแก่ ที่มีความเสี่ยงจะเก่าเก็บ
ไปดูการเมืองไม่สุจริต แต่กลับโตวันโตคืน!
“ทักษิณ ชินวัตร” เชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ เสียงรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์รวมอยู่ด้วย โหวตผ่านกฎหมายกาสิโนอย่างแน่นอน
แช่งคนค้านนอนติดเตียง!
“…ผมเป็นห่วงนิดเดียวพวกที่เป็นขาประจำ คนพูดอะไรก็ออกมาด่าแล้ว ผมเป็นคนที่เฒ่าแล้ว มันปล่อยวางได้ เขาด่ามาก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา จิตไม่ปรุงแต่ง สบาย
คนพวกนี้ด่าผมแล้วมันสนุก พอกลับไปบ้านทำไมจึงเครียด เขาก็เครียดไปทุกวัน ซึ่งผมก็เป็นห่วงว่าจะติดเตียง
ผมเป็นห่วงจริงๆ
หากใครที่เป็นญาติเขาก็ขอให้โทร.ไปบอกว่าใจเย็นๆ ผมไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้ว ผมเป็นคนแก่แล้ว ฉะนั้น ให้มันเบาๆ เดี๋ยวจะติดเตียง ขี้เกียจจะไปเยี่ยม
ผมไม่ได้แช่งแต่เป็นสัจธรรม เพราะบางคนคิดเหมือนผมไม่ได้ เขาอยากให้ผมตายต่อหน้า จะเป็นไปได้หรือที่จะมีเวทมนตร์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวทมนตร์ให้ตายต่อหน้า คนแช่งไปแช่งมา ก็ให้เขาตายคนเดียว…”
ครับ…จะไปกลัวอะไรครับกับการนอนติดเตียง
แค่ขึ้นไปรักษาตัวที่ห้องวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ก็กลับออกมาเดินปร๋อ ไม่เชื่อดู “ทักษิณ” เป็นตัวอย่าง
ยิ่งกว่าติดเตียงอีก
เพราะห่างหมอไม่ได้เป็นตายเท่ากัน
สุดท้ายเป็นไงครับ
ตอนนี้ห่างไมค์ไม่ได้
เจอไมค์จ่อปาก เสือกทุกเรื่อง
ประเทศรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต เริ่มต้นได้ไม่ยากครับ ถ้าอยากจะทำ
แค่พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากรัฐบาลระบอบทักษิณ
ลงมือทำอย่างไรเสียก็ดีกว่าเอาแต่พูด.
