24 กรกฎาคม 2568 – ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิไตย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทยกัมพูชา ว่า
สถานการณ์การปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชามาอย่างรวดเร็วและเป็นสิ่งที่เราคาดคิดว่าจะเดินมาถึง การสำแดงพลังของพี่น้องประชาชนรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าเป็นพลังที่ใครไม่คาดคิด เป็นความอัศจรรย์ สิ่งที่เหนือธรรมชาติ ไม่ว่าพระอาทิตย์ทรงกลดขนาดใหญ่ รุ้งกินน้ำ ฝนตกคนก็ไม่ถอยหนี ตลอดระยะเวลาเดือนเศษนั้นพวกเราได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สถานการณ์ที่มันมาเร็วเกิน เป็นเวทีที่ต้องการวัดใจพี่น้องประชาชนคนไทย พวกตนที่นั่งกันอยู่เวทีแห่งนี้มีความเห็นเมื่อคืนที่ประชุมกัน มีความตั้งใจเดิมว่าจะนัดหมายกันในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม แต่สถานการณ์เมื่อเช้าจนกระทั่งเดียวนี้ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพเข้าไปแล้ว ที่ประชุมส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเรารอต่อไปไม่ได้จะต้องสำแดงพลังแผ่นดินเพื่อบอกให้กับฟฝั่งกัมพูชา และคนทั้งโลกให้รู้ว่าคนในประเทศไทยนั้นมีความรักชาติบ้านเมืองไม่น้อยกว่าชาติใดในโลก หลายคนบอกว่าการปะทะที่ชายแดนทำไมเราต้องรวมตัวกันที่กรุงเทพฯ สงครามในโลกนี้แม้กระทั่งที่เกิด ณ.ขณะนี้ เขาแสดงออกที่เมืองหลวงกันนับล้านคน การที่เรานัดชุมนุมเพื่อแสดงให้บรรดาทหารหาญที่รบอยู่ที่ชายแดนนั้นมีความมั่นใจว่าประชาชนแนวหลังไม่มีวันจะทิ้งเขาโดยเด็ดขาดและส่งกำลังใจให้กับประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบเสี่ยงตาย เสี่ยงเจ็บ ได้รับรู้ว่าคนไทยทั้งประเทศต่างก็ห่วงใยเขาแน่นอน
นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยะเวลาเพียง 3 วันถ้าเราต้องการคิดกันเพียงแค่ว่ากลัวคนจะมาไม่ทัน กลัวคนจะมาไม่เท่ากับวันที่ 28 มิถุนายนนั้น ผมบอกเลยว่าที่ 27 ก.ค.นี้ เชื่อมั่นว่าคนจะมากกว่าวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ให้นึกถึงทหารที่ไปรบ ให้นึกถึงประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนเขาไม่ได้นอน เราจะได้ส่งสารสำแดงพลังร่วมแรงร่วมใจ ปรากฏการณ์แบบนี้นานมาแล้วที่เราไม่เคยได้แสดง เพราะฉะนั้นเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะอยู่ในแพลตฟอร์มใดให้กระจายบอกกับพี่น้องประชาชนปิดประตูบ้านไม่ว่าจะอยู่ประเทศจังหวัดใดให้เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตั้งแต่เวลา 9.00 น.
พี่น้องประชาชนมีเวลาเพียง 3 วันให้เตรียมตัว นี่เป็นปฏิบัติการที่เร่งด่วนมากที่สุดเราเดินมาถึงจุดที่ประเทศอย่างกัมพูชาเขาไม่มีความรู้สึกเกรงใจประเทศไทยเพราะเรามีรัฐบาลที่อ่อนแอ เรามีรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีไร้ซึ่งศักยภาพ เรามีเสมียนประเทศตกอยู่ภายใต้อานัดของคลิป จากผลประโยชน์ส่วนตัวรามไปกระทบเรื่องดินแดน ถ้ารัฐบาลแข็งแรงจะไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของกัมพูชา ปัญหาที่คุณไปพูดด้อยค่าทหารในวันนั้น มันเป็นปฐมบทในสถานการณ์สงครามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดระยะเวลาที่กองทัพได้ใช้ความอดทน เพราะต้องการยึดหลักความชอบธรรม เมื่อกัมพูชาลงมือก่อนความชอบธรรมอยู่ข้างประเทศไทย ดังนั้นประชาชนทั้งหลาย ผมคาดหวังว่าการสำแดงพลังของพลังประชาชนรวมพระรามแผ่นดินปกป้องอธิปไตยจะไม่มีพรรคการเมืองใดออกมาแถลงการณ์เรียกร้องให้คนถอนตัวออกจากที่ชุมนุมอีก
นับแต่การปะทะกันที่ช่องบกเราไม่ได้เห็นรัฐบาลมีการเตรียมการ ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีแนวความคิดจะต้องป้องกันเหตุมีมาตรการในการรองรับ จนกระทั่ง ณ.บัดนี้ ในช่วงเช้ารักษาการนายกฯยังมีหน้ามาบอกกับสื่อมวลชนว่าอย่าเรียกว่าเป็นการ”ปะทะ”จะให้เรียกว่าเป็นหม้อสุกี้หรืออย่างไร ถ้าพูดแล้วไม่สบายรูหูคนไทยขอให้เงียบปากไป”ไอ้บิ๊กอ้วน”
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ทุกคนที่อยู่แห่งนี้ไม่มีใครกระหายสงคราม แต่เราต้องมีหน้าที่ปกป้องมาตุภูมิของเรา วันนี้รัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพคิดแต่เรื่องงบประมาณว่าจะแบ่งกันอย่างไร ไม่ได้คิดเรื่องดินแดน วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนถ้าคนไทยไม่แสดงพลังเราจะรักษาความเป็นชาติบ้านเมืองอย่างยากที่สุด ฉะนั้นจึงเป็นการปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบ การนัดหมายที่มีความเร่งด่วน และมีการพูดคุยกันแล้วมีความเห็นว่าจะเปิดบัญชีเฉพาะ ในการชุมนุมรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ต้องการใช้เงินสำหรับในการชุมนุมในวันที่ 27 ก.ค.นี้เท่านั้น เราไม่รู้ว่าคนจะมากจะน้อยเรารู้อย่างเดียวว่าเราเกิดเป็นคนไทยยอมรับสภาพความตายของคนไทยไม่ได้ นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงขอให้ประชาชนมาร่วมกันให้เต็มอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้มากกว่าวันที่ 28 มิถุนายน อย่าให้เขมรเขาเห็นว่าก่อนรบมาเต็มหลังรบหายไปกับตา นี่คือการสำแดงพลังของพี่น้องประชาชนคนไทย
ที่มา เว็บไซต์ ไทยโพสต์ https://www.thaipost.net/politics-news/830160/