‘ทักษิณ’ จะหนีตอนไหน #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

หนีเถอะ…ยังพอมีเวลา
จะทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ ทางหมาลอด ก็ลองดู ถ้าไม่อยากติดคุก

มันมาถึงจุดที่ “ทักษิณ” ต้องรีบตัดสินใจ ไม่ต้องรอคดี ม.๑๑๒ แล้ว ขืนรอ คงได้เข้าไปรอในคุก

อย่างน้อยๆ นี่คือกฎแห่งกรรม

เมื่อวางแผนทำกรรม เอารัดเอาเปรียบนักโทษคนอื่นๆ ไม่ยอมติดคุกตามที่ศาลสั่ง สุดท้ายทางเลือกของ “ทักษิณ” จึงมีแค่ ๒ ทาง

หนี
ติดคุก

ก็ยังไม่รู้ว่าต้องติด ๑ ปี
หรือ ๘ ปี!

เพราะเมื่อแพทย์แก๊งนี้ถูกแพทยสภาชี้ว่ามีความผิด หลังจากนี้ขบวนการช่วยนักโทษเด็ดขาดคดีคอร์รัปชันไม่ต้องติดคุกจะต้องชดใช้ในความผิดที่กระทำ

กรมราชทัณฑ์ จะต้องรับผิดชอบ

บุคคลที่ยืนยันว่า “ทักษิณ” ป่วยจริง เพราะได้เข้าพบ หากเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ จะต้องรับผิดชอบเช่นกัน

หนึ่งในนั้นคือ “แพทองธาร ชินวัตร”

ขบวนการสร้างความเท็จหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ จะต้องได้รับโทษอย่างสาสม

แม้ “แพทองธาร” จะอ้างว่าตอนไปเยี่ยมพ่อเป็นแค่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่อย่าลืมนะครับว่า เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ไปพูดอะไรเอาไว้ที่ไหนบ้าง

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “แพทองธาร” ตอบฝ่ายค้านประเด็นชั้น ๑๔ เจ้าตัวคงจะจำได้ อยากถามว่ายังยืนยันในคำพูดเดิมอยู่หรือไม่

“…ถ้าจะพูดเรื่องว่าท่านป่วย ป่วยจริง หรือป่วยหลอก เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณพ่อมีอาการป่วย การรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน…”

นี่เป็นการยืนยันขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยอ้างแพทย์ แต่ตัวเองรู้อยู่แล้วว่าป่วยจริงหรือป่วยหลอกชาวบ้าน

“แพทองธาร” ยังตอบเรื่องแพทยสภาด้วย

“…เราก็มีการยื่นเรื่องต่อแพทยสภา เชื่อว่าผลสรุปออกมาได้อีกไม่นานนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะยอมรับ เพราะถามจากดิฉัน และดิฉันตอบไป ท่านก็ไม่เชื่ออยู่ดี ซึ่งก็ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร…”

ทุกคนยอมรับครับ “แพทองธาร” ยอมรับหรือเปล่า

ครับ…วานนี้ (๘ พฤษภาคม) แพทยสภาแถลงผลการประชุมที่คนไทยรอคอยมานานหลายเดือน

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ ๑ เป็นผู้แถลงข่าว

“…ที่ประชุมมีมติลงโทษแพทย์ ๓ ท่าน โดยตักเตือน ๑ คน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ๒ ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง หลังจากนี้จะนำเสนอมติต่อสภานายกพิเศษ คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความเห็นชอบก่อนจะดำเนินการตามมติ
ดังนั้นทั้งหมดจึงต้องรอความเห็นจากรัฐมนตรีสาธารณสุข เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.๒๕๒๕…”
ในการตอบข้อซักถามนักข่าว

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ยืนยันตามผลสอบว่า

“…ขณะนี้ข้อมูลที่เราได้รับไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น…”

พักประเด็น “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไว้ก่อนครับ เพราะยังไม่ใช่ประเด็นใหญ่ อีกทั้งหากวีโตมติแพทยสภา ก็เตรียมตัวครับ อาจเจอคุกอีกคน

อย่าลืมนะครับว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวนกรณีนี้ด้วย

ถ้ากล้าตายแทนนายใหญ่ที่น่าจะหนีรอบ ๒ ก็เตรียมตัวจบอนาคตทางการเมือง

ประเด็นขณะนี้ชัดเจนนะครับ “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วยวิกฤตจริง เพราะแพทย์ก๊วนนี้หาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนรักษา

การเอาผู้ป่วยไม่วิกฤตไปนอนตากแอร์ห้องวีไอพีทำคนเดียวไม่ได้ครับ มันเป็นขบวนการ

สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้คือ การบังคับโทษจำคุก ๑ ปี ไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล

นอกจากแพทย์ ๓ คนที่เป็นสารตั้งต้นแล้ว กรมราชทัณฑ์จะหนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น เพราะมิได้ตามไปควบคุมดูแลนักโทษที่ออกไปนอกคุกตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.๒๕๖๖ เลย

“ทักษิณ” ย่ามใจ จนเกิดความผิดพลาดในหลายจุด

ย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่ “ทักษิณ” เดินทางกลับประเทศไทย คือวันที่ ๒๒ และเข้าไปแดน ๗ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

สิ่งที่สังคมรับรู้คือการแถลงข่าวของ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถึงโรคที่เฝ้าระวังของ “ทักษิณ”

โรคหัวใจ คือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อยู่ระหว่างการติดตามการรักษา ทานยาละลายลิ่มเลือด

มีปัญหาทางปอด เนื่องจากมีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-๑๙ แม้จะหายแล้ว แต่ยังมีพังผืดในปอด ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย โดยทั้ง ๒ โรคจำเป็นต้องเฝ้าระวังและการดูแล

ความดันโลหิตสูง รักษาโดยการรับประทานยา มีความดันโลหิตที่ผิดปกติ
ภาวะเสื่อมตามอายุ มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ มีการกดทับเส้นประสาท ทำให้มีการปวดเรื้อรัง การเดิน ทรงตัวผิดปกติ

เป็นกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของเรือนจำ ที่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ปลอดภัย หากเจ็บป่วยสามารถเข้ารักษาได้ทันท่วงที

เริ่มมีเค้าว่า “ทักษิณ” จะเป็นผู้ป่วยวิกฤตเป็นตายเท่ากัน

แต่คนที่แถลงข่าวถัดมาคือ นัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

“…อาการของคุณทักษิณนั้นปกติ ไม่มีอาการวิตกกังวล ไม่ได้ร้องขออะไรพิเศษ…”

เหลือเชื่อครับ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง

“ทักษิณ” ได้รับการวินิจฉัยว่าอาจตายได้หากยังปล่อยให้อยู่ในเรือนจำ เพราะเกินกำลังโรงพยาบาลในคุก จะต้องส่งโรงพยาบาลนอกคุกอย่างเร่งด่วน

คนเขียนพล็อตเรื่องอาจไม่ทันระวังว่า มีช่องว่างช่องโหว่ที่แสดงให้เห็นว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วยวิกฤตจริงๆ อยู่มากมาย

ช้างตายทั้งตัวยังจะเอาใบบัวมาปิด และคิดว่าปิดมิดแล้ว ถึงได้หลอกชาวบ้านชาวช่องต่อว่าป่วยวิกฤตจริง

ทั้งพ่อทั้งลูก สับปลับมาตลอด ไม่อายชาวบ้านบ้างหรือครับ

ไม่คิดหรือว่าวันหนึ่งความจริงจะปรากฏ
หรือเพราะสันดานเดิมคิดว่ามีอำนาจแล้วชี้นิ้วสั่งได้หมด แม้เรื่องนั้นจะมีความเลวทรามเป็นที่ประจักษ์

ก็ช่างบังเอิญนะครับ “ทักษิณ” ไปศาลยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรอีกครั้ง

คงอยากจะออกไปแบบเท่ๆ

แต่…มันจบแล้ว หลังจากนี้ต่อให้คนเชิญเป็นรัฐบาลต่างประเทศ โอกาสของ “ทักษิณ” เป็นศูนย์

เพราะมีความเสี่ยงที่จำเลยคดี ม.๑๑๒ คนนี้ไปแล้วจะไปลับไม่กลับมา

จากนี้ต้องโฟกัสไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการไต่สวนเนื้อหาจะกว้างกว่าแพทยสภา เพราะกรมราชทัณฑ์ต้องชี้แจงด้วย
แต่ที่หลายคนอยากรู้มากกว่าคือ…

“ทักษิณ” จะหนีตอนไหน.

 

Written By
More from pp
“เมืองสุขสยาม” จัดงานเทศกาลมหากุศล “อิ่มบุญ อิ่มเจ 4 ภาค” สุดยิ่งใหญ่
“เมืองสุขสยาม” จัดงานเทศกาลมหากุศล “อิ่มบุญ อิ่มเจ 4 ภาค” สุดยิ่งใหญ่  ยกขบวนร้านอาหารเจในตำนานกว่า 100 เมนู ร่วมสักการะขอพรเจ้าแม่กวนอิม เสริมสิริมงคล ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 7 ตุลาคมศกนี้ ชั้น G เมืองสุขสยาม ณ...
Read More
0 replies on “‘ทักษิณ’ จะหนีตอนไหน #ผักกาดหอม”