‘ทักษิณ’ คนไม่สำนึก #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เข็มขัดสั้นกันเป็นแถว…

คาดไม่ถึง!

“ทักษิณ” กลับมาแล้ว

กลับมาฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดี “นักโทษเทวดา”

ถือเป็นมิติใหม่ของ “ทักษิณ”

จากคนที่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว วันนี้พร้อมเผชิญหน้าหากต้องกลับเข้าคุก

แต่ข่าวคราวของ “ทักษิณ” มักมีเรื่องดีลเกี่ยวข้องเสมอ การกลับมาครั้งนี้จะมีดีลอีกหรือไม่ช่างน่าสนใจจริงๆ

จะมีหรือไม่ยังไม่ทราบครับ แต่โดยข้อเท็จจริง “ทักษิณ” อาจประเมินว่า ยอมกลับมาติดคุกจริงๆ ดีกว่า เพราะมีแนวโน้มว่า อยู่ในเรือนจำไม่กี่เดือน ก็สามารถย้ายไปขังนอกเรือนจำได้

นั่นก็คือจันทร์ส่องหล้า

เพราะการเลือกแนวทางนี้ มหาเศรษฐีจะทุกข์ยากแค่ไม่กี่เดือน ต่างกับหนี ที่ต้องหนีไปตลอดชีวิต

และการหนีจะส่งผลเสียร้ายแรงกับพรรคเพื่อไทย

อาจถึงขั้นล่มสลาย

ที่สำคัญจะกระทบกับตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะธุรกิจในเครือข่ายตระกูลชินวัตรที่อ้างอิงกับอำนาจทางการเมืองมาอย่างยาวนาน

การที่ “พจมาน ดามาพงศ์” ส่งคนหิ้วแจกันดอกไม้ ไปแสดงความยินดีกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่พรรคภูมิใจไทย คือการส่งสัญญาณแทน “ทักษิณ”

อย่างน้อยๆ ให้เห็นว่ายังมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

แม้พรรคเพื่อไทยมิได้ร่วมแสดงความยินดีด้วย แต่นั่นมิใช่สาระสำคัญ เพราะพรรคเพื่อไทย อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “พจมาน”

“ทักษิณ” หมอบมิใช่เพราะกลัว

แต่เพื่ออนาคต ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกแนวทางนี้ “ทักษิณ” ยังไม่คิดวางมือ

การกลับมาของ “ทักษิณ” เพื่อการันตีว่า ระบอบทักษิณยังไม่ตาย

พรรคเพื่อไทยยังไม่ถึงกับล่มสลาย

มาเพื่อให้คนในพรรคเพื่อไทยได้อุ่นใจว่า “นายใหญ่” ยังอยู่ แม้จะต้องติดคุกก็เป็นเรื่องชั่วคราว ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

เบื้องต้นก็พอสรุปได้ว่า “ทักษิณ” ยังไม่ยอม!

วันนี้ (๙ กันยายน) จะรอดหรือไม่

ย้อนกลับไปสรุปข้อมูลการไต่สวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและทรวงอก ซึ่งเป็นเหตุที่ใช้อ้างส่งตัว “ทักษิณ” ออกจากเรือนจำด้วย “อาการฉุกเฉิน” จำนวน ๓ ปาก ประกอบด้วย

ศ.เกียรติคุณ ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา และอดีตคณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ (การผ่าตัดทรวงอก ช่องท้อง ทางเดินหายใจ)

ศ. นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล กรรมการแพทยสภา และประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน

ศ. นพ.กีรติ เจริญชลวานิช กรรมการแพทยสภา และประธานราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ

ในการไต่สวนศาลได้ให้ อาจารย์หมอทั้ง ๓ ท่าน ดูเอกสารทางการแพทย์หลายฉบับ

จากนั้นขอความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

กลุ่มอาการและโรคของนายทักษิณที่พบเมื่อกลางดึกของวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ เข้าเกณฑ์ วิกฤต ฉุกเฉิน เฉียบพลัน หรือไม่

แนวทางและมาตรฐานในการปฏิบัติต่อผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นอย่างไร

รายการยาที่ใช้รักษานายทักษิณตามที่ปรากฏใน progress note และ doctor order sheet มียาเกี่ยวกับอาการที่ส่งตัวออกจากเรือนจำหรือไม่

อาการบาดเจ็บข้อและกระดูกที่ “ทักษิณ” เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นภาวะ “เร่งด่วน” หรือไม่

และจำเป็นต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องใน รพ.หรือไม่?

สิ่งที่ได้จากการเบิกความของอาจารย์แพทย์ทั้ง ๓ คือ

พิจารณาจากเอกสาร “ทักษิณ” เป็น โรคเรื้อรัง แต่มีบางโรคที่อาการอาจกำเริบและเกิดภาวะเฉียบพลันได้ ทว่าต้องมีสิ่งบ่งชี้และต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์พิสูจน์อาการก่อนวินิจฉัยโรค

ไม่ใช่เพียงฟังจากคำบอกเล่า!

อาการที่เป็นต้นเหตุในการส่งตัวออกจากเรือนจำด้วยภาวะฉุกเฉิน ๒ โรค เมื่อถึงโรงพยาบาลตำรวจ กลับไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรคนั้นมาตรวจ

ไม่ปรากฏการให้ยา

และการรักษาอาการดังกล่าวซึ่งควรทำภายใน ๑๐ นาทีที่ไปถึงโรงพยาบาล อีกทั้งเมื่อแพทย์เฉพาะทางมาตรวจในวันที่ ๒๔ และ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ก็ไม่พบความผิดปกติเกี่ยวกับอาการฉุกเฉินที่ว่าแล้ว

เช่นเดียวกับการผ่าตัด ๒ ครั้ง ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์เห็นว่าไม่ใช่การรักษาแบบเร่งด่วน สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้

กรณีผ่าตัดบริเวณนิ้ว สามารถทำแบบไปเช้า-เย็นกลับ

ส่วนกรณีผ่าตัดบริเวณหัวไหล่ เมื่อตัดไหมแล้วก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

สรุปอาการป่วยของ “ทักษิณ” ไม่เข้าขั้น “วิกฤต” ซึ่งหมายถึงมีภาวะเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด

แต่เป็นอาการที่แพทย์เฉพาะทางตรวจติดตามและรักษาอาการแล้ว ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

นั่นคือส่วนหนึ่งในผลของการไต่สวน ส่วนศาลจะสั่งอย่างไร จะสั่งบังคับโทษใหม่หรือไม่ ถ้าสั่งบังคับโทษ “ทักษิณ” ต้องกลับเข้าคุกจริงๆ ตามโทษที่เหลืออยู่ ๑ ปี

แต่หากการนอนชั้น ๑๔ ของ “ทักษิณ” คือการรับโทษแล้ว ก็ไม่มีการบังคับโทษซ้ำอีก

“ทักษิณ” เป็นอิสระ

แต่ก็อาจมีประเด็นต่อเนื่องหากผลออกมาว่า “ทักษิณ” ยังมิได้รับโทษจริง ก็เท่ากับว่า “ทักษิณ” ไม่มีความเคารพยำเกรงและสำนึกใดๆ จากการได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ลดโทษจาก ๘ ปี ใน ๓ คดีทุจริต เหลือเพียง ๑ ปี

ซึ่งขัดแย้งกับในหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษที่ “ทักษิณ” ระบุว่า สำนึกในความผิด

คนไม่สำนึก แถมยังเหิมเกริม ไม่ควรปล่อยผ่านไปง่ายๆ

คุก ๑ ปีอาจน้อยไป

ใครก็ตามที่ยังคิดจะดีลกับ “ทักษิณ” อีก ขอสาปแช่ง

ไม่มีแผ่นดินอยู่.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
“วราวุธ” ห่วงใย กลุ่มเปราะบาง-ประชาชนที่ประสบอุทกภัยหนัก ใน เชียงใหม่-ลำปาง วอน คนไทย ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อประเทศปลอดภัย ย้ำ ไม่ใช่แค่หน้าที่คนหนึ่งคนใด เป็นหน้าที่ทุกคน ทุกกระทรวง
26 กันยายน 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขอส่งความห่วงใยและแสดงความเสียใจไปยังพี่น้องชาวเชียงใหม่และลำปาง...
Read More
0 replies on “‘ทักษิณ’ คนไม่สำนึก #ผักกาดหอม”