‘ทักษิณ’ คืนคุก? #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“สภากาแฟ” ช่วงนี้……

ถกกันเครียดด้วยเรื่อง “ทักษิณ” จะต้องกลับเข้าคุกหรือไม่?

ฝ่ายหนึ่งว่า “ไม่” เพราะการนอนป่วยอยู่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ถือว่าติดคุกแล้ว

อีกฝ่ายก็แย้งว่า “ทักษิณต้องกลับไปเข้าคุก” เพราะที่ป่วยนั้น เป็นการร่วมกันทำเป็นขบวนการ “จัดฉาก” ให้ป่วยทิพย์ เพื่อไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุก

เมื่อเถียงกันไม่ลงตัว การพนันขันต่อก็เกิดขึ้น มีกาแฟดำยกล้อคนละแก้วเป็นเดิมพัน!

เรื่องนี้ การที่ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” สั่งไต่สวนปมบังคับโทษ “ทักษิณ” ว่าเป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่? นั้น

ต้องบอกว่า กรณีนี้ เป็นเรื่องใหม่ นับเป็นการ “สังคายนา” กระบวนการยุติธรรมที่น่าสนใจ

และเป็นเรื่องแรกที่จะเป็น “ต้นแบบมาตรฐาน” ในทางปฏิบัติต่อไป

เพื่อความเข้าใจเรื่องแต่ต้น ผมจะนำคำสั่ง “ศาลฎีกาฯ” เมื่อ ๓๐ เมษา.มาให้อ่านทบทวนกันอีกครั้ง ดังนี้

………………………………

“ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”  ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บ.ค.1/2568

ระหว่าง อัยการสูงสุด คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน  โจทก์ “นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ซึ่งเป็นผู้ร้อง

“พ.ต.ท.ทักษิณ” หรือ “นายทักษิณ ชินวัตร” เป็นจำเลย

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ “เพิกถอนคำสั่งศาล” เมื่อ ๑๙ ธ.ค.๖๖  และ ๑๕ ก.พ.๖๗

กับขอให้ไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม ๔/๒๕๕๑ จำเลยที่ ๑

ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.๑๐/๒๕๕๒ และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม ๕/๒๕๕๑ ของศาลนี้

ตามคำร้อง ฉบับลงวันที่ ๑๐ ม.ค.๖๘

ศาลพิเคราะห์คำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้ว เห็นว่า

ผู้ร้อง “ไม่ใช่คู่ความ” ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.๔/๒๕๕๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม.๑๐/๒๕๕๒ และคดีหมายเลขแดงที่ อม.๕/๒๕๕๑ ของศาลนี้

อีกทั้ง “ไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อน” หรือเสียหายจากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีดังกล่าว

เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ในชั้นบังคับตามคำพิพากษาจึง “ไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง” ต่อศาลนี้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า ……….

อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้

ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร

จึงเห็นควร “ส่งสำเนาคำร้อง” ให้โจทก์และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.๔/๒๕๕๑ จำเลยที่ ๑ ในคดีหมายเลขแดงที่ อม ๑๐/๒๕๕๒ และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.๕/๒๕๕๑ของศาลนี้

แล้วให้ “โจทก์” และ “จำเลย” ดังกล่าว แจ้งต่อศาลว่า มีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง หรือไม่ อย่างไร?

กับสำเนาคำร้องให้ ….

ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ

เพื่อให้ชี้แจงข้อประกอบการพิจารณาของศาลว่า…..

“การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร ตาม “พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๖”

โดยให้โจทก์ จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ

พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล

ศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ ๑๓ มิ.ย. เวลา ๐๙.๓๐ น.

พร้อมกันนี้ “นายอรพงษ์ ศิริกานต์นนท์” ประธานเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา

ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง “องค์คณะผู้พิพากษา” ขึ้นมาพิจารณาคำร้องจำนวน ๕ ราย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และผู้พิพากษาศาลฎีกา ประกอบไปด้วย

๑.นายฉัตรชัย ไทรโชต ๒.นายอดุลย์ อุดมผล ๓.นายไตรรัตน์ แก้วศรีนวล ๔.นางสุพิชญ์ กรอบคำ และ ๕.นายพัฒนไชย ยอดพยุง

…………………………………………

ก็เข้าใจความเป็นมา-เป็นไปกันแล้วนะครับ คือทักษิณหนีคดีทุจริต-คอร์รัปชันไปอยู่นอกประเทศ ๑๗ ปี

กลับเข้ามาก็ถูกนำตัวส่งศาล ยอมรับสารภาพว่าทุจริต-คอร์รัปชันใน ๓ คดี ศาลฎีกาฯ ตัดสินลงโทษจำคุกรวม ๘ ปี

ทักษิณยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา “ขอพระราชทานอภัยโทษ” และได้รับพระราชทานอภัยโทษ จาก ๘ ปี เหลือโทษจำคุก ๑ ปี

พอเข้าเรือนจำ ยังไม่ทันเข้าที่คุมขังนักโทษด้วยซ้ำ…..

กรมราชทัณฑ์ ทั้งอธิบดี ทั้งแพทย์ นั่งเป็นแผงแถลงข่าวทักษิณป่วย ๔ โรคร้ายแรง ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต

พอตกค่ำ ทักษิณกลายเป็นนักโทษเทวดา เหาะจากเรือนจำไปนอนอยู่ห้องรอยัล สวีท ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ

หมอโรงพยาบาลตำรวจ รักษาครึ่ง-ค่อนปี โรคนอกจากไม่หายแล้ว แค่ทุเลาก็ยังไม่มี นอนอยู่รอยัล สวีทนั้น จนได้พักโทษออกไปรักษาอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า

อยู่โรงพยาบาลรักษาครึ่งปี มีแต่รายงานว่า อาการอาจอันตรายต่อชีวิตได้ถ้าห่างแพทย์ แต่พอได้พักโทษ ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านเท่านั้นแหละ

นักโทษป่วยปางตาย กระดี๊-กระด๊า เหมือนไก่จะบิน ทุกโรคที่ว่าปางตาย เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย กลับต่อติดสนิทแน่นยิ่งกว่าเอ็นหนังควายซะด้วยซ้ำ

ก็เลยเป็นที่สงสัยของชาวบ้าน วิจารณ์กันว่า “ทักษิณป่วยทิพย์” บ้าง “ทักษิณนักโทษเทวดา” บ้าง

“นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” จึงไปยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งศาล กับให้ไต่สวน “การบังคับโทษ” จำคุกแก่ทักษิณ

ศาลท่าน “ไม่รับคำร้อง” เพราะนายชาญชัย ไม่ใช่เป็นผู้มีส่วนได้-ส่วนเสีย

แต่จากความที่ปรากฏ ศาลท่านเห็นว่า…..

“กรณีนี้ อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ “ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก” เมื่อคดีถึงที่สุดของศาล

ดังนั้น ศาลมีอำนาจไต่สวน จึงมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร” โดยสั่งให้ “โจทก์-จำเลย”

ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ

แจ้งต่อศาลว่า “มีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง”  หรือไม่ อย่างไร?

“การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยคือ “ทักษิณ” เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร ตาม “พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๖”

ให้ส่ง “หลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” ต่อศาล ภายใน ๓๐ วัน คือภายใน ๓๐ พฤษภา. เอกสารหลักฐาน คำชี้แจงอะไรทั้งหมดต้อง “ส่งถึงศาล”

ศาลท่านจะใช้เวลา ๑๐ กว่าวันพิจารณาเอกสารหลักฐาน คำชี้แจงเหล่านั้น

และมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ ๑๓ มิถุนายน. เวลา ๐๙.๓๐ น.

เรื่องนี้ ไม่ใช่ศาลนำคดีมาพิจารณาใหม่ หากแต่ศาลท่านต้องการตรวจสอบว่า การที่ราชทัณฑ์รับหมายจำคุกนักโทษไปแล้ว เรือนจำหรือราชทัณฑ์ ได้ปฏิบัติตามหมายศาลหรือไม่?”

ต้องไม่ลืม การนำคนไปขังคุก ราชทัณฑ์ขังเองไม่ได้ ต้องมีหมายศาลสั่งให้ขัง

ครั้นจะนำคนออกจากคุก ราชทัณฑ์จะนำออกไปเองก็ไม่ได้ ต้องมีหมายปล่อยจากศาล

อีกเรื่องที่ควรทราบ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” ใช้ระบบไต่สวน

นั่นคือศาลมีสิทธิ์รวบรวมพยานหลักฐานและสืบหาข้อเท็จจริงได้เอง ต่างจากศาลอาญาที่ใช้ระบบกล่าวหา

ฉะนั้น เรื่องนี้ ในข้อเท็จจริง ทักษิณรับโทษคุกแล้ว หรือยังไม่ได้รับโทษคุกตามคำพิพากษา

ศาลท่านจะดู ๒ ประเด็นหลัก คือ………..

๑.ระเบียบราชทัณฑ์ที่ใช้กับทักษิณขัดกับ “วิธีพิจารณาความอาญา” หรือไม่?

๒.ทักษิณป่วยขั้นร้ายแรงปางตายจริงหรือว่า “ป่วยทิพย์”?

ทุกวันนี้ ระเบียบราชทัณฑ์และกฎกระทรวง ดูจะใหญ่กว่ากฎหมายแม่บท จนพูดกันว่า “ศาลสั่งจำ” เดี๋ยว “ราชทัณฑ์ก็สั่งปล่อย”!

จากกรณีนี้ ศาลฎีกาฯ ก็จะได้สังคายนากันให้ลงตัวเสียทีว่า “ระเบียบราชทัณฑ์ที่ใช้กับทักษิณขัดกับวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่?”

วันที่ ๑๓ มิถุนา.ก็จะได้รู้ว่า ศาลตรวจเอกสารหลักฐานแล้ว ท่านจะมีคำสั่งในขั้นต่อไปอย่างไร แต่คงยังไม่ถึงขั้นชี้ขาดหรอก!

ผมต่อ “โกปี๊ยกล้อ” ๒ แก้ว ต่อ ๑

“กลับคุก” ใครรอง จองโต๊ะรอได้เลย!

เปลว สีเงิน

๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
0 replies on “‘ทักษิณ’ คืนคุก? #เปลวสีเงิน”