สันต์ สะตอแมน
ไฮโซเก๊หลอกจิ้มนักแสดงสาวกลิ่นไปทันจาง..
เอ้า..นั่น นักร้อง-พระเอกดัง “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ก็ถูกแฉยับรับสงกรานต์ ว่านอกใจแฟนนางเอก “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ที่คบเป็นแฟนกันมาหลายปี!
และผู้ที่แฉก็ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็นแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่คุณโตโน่พาลงจากคอนโดตอนตี 2 นั่นเอง
แรกเห็นข่าวก็ไม่เชื่อสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เชื่อสนิทใจแล้วว่าเป็นความจริง ด้วยเจ้าตัวได้ยอมรับกลายๆ ต่อหน้าแฟนเพลงกับประโยค..
“ขอให้เจอรักที่ดีงาม อย่าทำผิดพลาดเหมือนผมเด้อ”
ฉะนั้น..ถ้าแฟนเพลงจะโกรธจะแค้น ก็เชิญบริภาษกันได้ตามแต่ใจ ถือเสียว่าเป็นการระบายความอัดอั้นที่ได้มอบความรักความศรัทธาให้นักร้องมายาวนาน!
ส่วนแฟนสาว คุณณิชา ในฐานะผู้หญิงที่รักเดียว-ใจเดียว ก็ต้องบอกว่าน่าสงสาร-น่าเห็นใจ แต่สุภาษิตที่ว่า “เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” นั้น..
เห็นจะไม่ได้อยู่ในหัวสมองของเธอเป็นแน่ เพราะตั้งแต่ปรากฏข่าวให้ชาวบ้านร้านตลาดตาโต-หูผึ่ง คุณณิชาก็ไม่ได้ร้องแรกแหกกระเชออะไรให้ได้ยิน!
นับว่าเป็นหญิงที่หยิ่งในเกียรติ-ในศักดิ์ศรีหญิง..เมื่อแฟนออกนอกลู่-นอกทาง (รัก) ก็ปล่อยไป ไม่ยื้อยุด ไม่ฟูมฟาย หรือจะแอบร้องไห้รึเปล่านั้น ไม่แน่ใจ!
มีคนพูดใส่หน้า (ผม).. “ผู้ชายก็อย่างงี้แหละ ไม่เคยอิ่มในรสกามา ชอบแสวงหากลิ่นใหม่อยู่ร่ำไป” ซึ่งก็เห็นจะจริง..
แต่จะรวมเหมาไปทั้งหมดก็คงไม่เป็นธรรมนัก เพราะผู้ชายที่รักเดียว-ใจเดียวก็มีอยู่ถมถืด เช่นผมคนหนึ่งล่ะ!
เพื่อนบนโต๊ะข้าวปรารภ.. “งานนี้เห็นทีหนัก-เหนื่อยยิ่งกว่าว่ายน้ำข้ามโขงล่ะนะ หนทางที่จะผ่อนหนักเป็นเบาแทบจะมองไม่เห็น แต่ก็คงไม่กระทบหรือส่งผลต่ออาชีพนักร้อง-ดารา
เพราะยุคสมัยนี้ ศีลข้อกามา ผิดลูก-ผิดเมียของนักร้อง-ดารา แฟนเพลงเขาไม่ถือสา จึงเห็นว่านักร้อง-ดาราบางคนต่อให้มีคลิปล่อกับชู้จะจะตา..
เจ้าตัวยังเชิดหน้ายิ้มภาคภูมิใจ ด้วยมีงานโชว์-งานแสดงและแฟนๆ ให้การต้อนรับอบอุ่นอยู่ดุจเดิม!
เอ้า..ตั้งใจจะเขียนถึงสิ่งประดิษฐ์คิดค้นของมนุษย์ที่เรียกว่า “ปัญญาประดิษฐ์” หรือที่คำย่อฝรั่งว่า AI แต่ดันเฉไฉไปเรื่องใต้เตียงดาราจนเลยเถิด
คือ..ตอนนี้อะไรๆ ก็ดูจะ AI ไปหมด จนมีคนห่วงว่า AI จะเปลี่ยนแปลงและครอบงำโลกทั้งใบ ประมาณว่ามนุษย์จะขาดมันไม่ได้
ทั้งๆ ที่ในหัวกบาลมนุษย์นั้น มีสิ่งที่ถูกยกย่องว่า “สุดประเสริฐ” เป็นพยานวัตถุที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างไร้ข้อกังขาของความเป็นสัตว์ประเสริฐเหนือสัตว์โลกทั้งมวล
และสิ่งที่ในกบาลที่เรียกกันว่า “สมอง” นี้แหละ ถึงได้มีอารยธรรมต่างๆ เกิดและกระจายไปทั่วโลก!
แต่เมื่อโลกของเราดำรงมาจนถึงวันนี้ สิ่งโบราณเหล่านั้นดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่คนในสังคมปัจจุบันใส่ใจกันอีกต่อไป
ที่น่าประหลาดใจคือ มนุษย์หันมาหลงใหลและศรัทธาในสิ่งที่มนุษย์ด้วยกันคิดประดิษฐ์ขึ้น คงจำกันได้กับข่าวชาวบ้านแห่ไปกราบไหว้ แก้บนรูปปั้นออพติมัส ไพร์มเมื่อไม่นานมานี้
ซึ่งเกิดเป็นกระแสดราม่าในโซเชี่ยล ที่มีทั้งผู้ศรัทธาและเห็นตรงข้าม ฝ่ายศรัทธาก็อ้างว่า ผิดตรงไหนกฎหมายห้ามมั้ยก็ไม่ อีกทั้งไม่ได้ไปหนักหัวกบาลใคร
ในเมื่อไม่ผิดกฎหมายแล้วเดือดร้อนเรื่องอะไร ใครจะศรัทธากราบไหว้ต้นไม้ ไหว้พระพุทธรูป แม้แต่กราบควายไหว้ก้อนหิน ย่อมมีสิทธิมั้ย?
เจอสายมูเตลูเข้าอย่างนี้ ฝ่ายที่มองว่าเป็นความงมงาย โง่เขลาเบาปัญญาก็ดูจะจึ้งไปต่อไม่เป็นเอาเหมือนกัน!
ครับ.. AI ทรงก็ประมาณการศรัทธาหุ่นออพติมัส ไพร์มนี้แหละ เพียงแต่ AI มันให้ความรู้สึกว่ามีคลาสกว่าว่างั้นเถอะ
อย่างไรก็ตามในคำว่า “ศรัทธา” คำนี้มันเป็นศัพท์ที่ติดกลิ่นงมงายอยู่เหมือนกันนะ หลงหัวปักหัวปำกันไม่น้อยเลยล่ะ ลองเข้าดูคลิปในยูทูบก็ได้
ไม่มีศรัทธามีหรือคลิปเกี่ยวกับ AI จะมีเกลื่อนขนาดนั้น สินค้าในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ได้ยินคำว่า AI เข้าไปเกี่ยวข้องกันแล้ว
ในมือถือนี่ยี่ห้อไหนไม่มี AI เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็โบราณ-ตกยุคไปทันที!
บางคนสารภาพ วันๆ แทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับใคร เพราะเอาแต่คุยอยู่กับ AI จะถามอะไร มันมีคำตอบให้หมด แม้กระทั่งปัญหาชีวิต เรื่องไร้สาระก็คุยกับมันได้
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า AI จะมีแต่คนนิยมชมชื่น กลุ่มที่เป็นกังวลก็มี ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่ใช้ AI นั่นเองแหละ!
สิ่งที่วิตกกังวลกันก็คือ ความฉลาดอย่างรวดเร็วของโมเดล AI ที่มองว่ามันอาจจะควบคุมมนุษย์เสียเองแทนที่มนุษย์จะควบคุมมัน
พูดง่ายๆ ก็คือเกรงว่า คนจะเอามันไม่อยู่เพราะโง่กว่ามันไงล่ะ!
ว้า..หมดเนื้อที่ เอาไว้พรุ่งนี้มาคุยกันเรื่อง AI ต่อในด้านผลกระทบที่มีต่อวงการภาพยนตร์ ไม่สนุกแต่พอจะมีสาระอยู่บ้าง..
แล้วพบกันครับ!
