เปลว สีเงิน
ถอดรหัสคำทำนาย “วันสงกรานต์ ปี ๒๕๖๘” ไปเมื่อวานแหมบๆ ว่า ปีนี้ “ดินจะเขยื้อนน้ำ” ตามสมทบด้วยลมและไฟ
ยังไม่ทันขาดคำ
กลางดึก ๑๓ เมษา ๖๘ เขยื้อนกันในช่วงสงกรานต์นี่เลย
น้ำป่าพุ่งพรวดเข้าพังสองหมู่บ้านที่แม่ทา ลำพูน ชนิดไม่มีปี่-มีขลุ่ย กระชากชีวิตสองพี่น้องไปกับกระแสน้ำฉับพลัน!
นี่…ที่เหนือนะ
ขณะที่นายกฯ และพ่อนายกฯ “สีแดง” เล่นสาดน้ำสงกรานต์สนุกลืมโลกอยู่เชียงใหม่และผู้นำฝ่ายค้าน “สีส้ม”ฉ่ำแฉะอยู่ลำพูน
ที่ภาคใต้
๑๔.๒๗ น. วันที่ ๑๔ เมษา. “ดินเขยื้อนน้ำ” แผ่นดินไหว ระดับ ๓.๕ ริกเตอร์ ความลึก ๒ กม. รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ที่อำเภอเหนือคลอง กระบี่!
นี่คือการ “ส่งสัญญาน” จากธรรมชาติถึงมนุษย์ยุค “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว-เชิดชูคนชั่วเป็นเทวดา”
ยังไม่ใช่การมาของ “วันสิ้นโลก” หรอก
แต่เป็นการมาของวัน ยมทูตเปิดบัญชีชำระกรรม “ล้างคนระยำโฉดชั่ว-คืนสังคมธรรมให้โลกมนุษย์”!
เราไม่ต้องมองทั้งโลกหรอก มองเฉพาะในบ้านเมืองเราก็พอ เพราะลัคนาดวงโลกกับดวงเมืองไทย อยู่ราศีเดียวกัน คือที่ “ราศีเมษ”
มันเข้าสู่ระยะสุดท้ายของยุค “คนชั่วครองเมือง” มัวเมา ลุ่มหลง เห็นผิดเป็นชอบ
อย่างในบ้านเรา รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ-สังคมตามที่โม้ไว้ตอนหาสียงไม่ได้
ก็หันใช้ “อบายมุข-เส้นทางสีดำ” เป็นทางแก้
จะแปลงเมืองพุทธพิสุทธิ์สะอาดเป็นเมืองกาสิโน แหล่งเพาะอาชญากรรม มาเฟีย แมงดา ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน-จากเงินคอร์รัปชันเป็นเงินถูกกฎหมายผ่านบ่อน
ตามแผนที่เป็นข่าวกระเซ็นกระสายไปทั่ว งุบงิบใบอนุญาตไปแล้ว จะตั้งกระจายไปทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
แม้หมู่มุขอำมาตย์ราชบัณฑิต พระสงฆ์องคเจ้า ครู-อาจารย์ แพทย์ มหาประชาชน รวมทั้งสว.สีน้ำเงินออกมาติติง ให้สติ
มันก็ไม่ฟัง!
ถือดีเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ก็จะหักหาญใช้เสียงข้างมากในสภาเป็น “ตรายาง” ประทับรับรอง “อบายมุข” เป็นความ “ถูกต้องชอบธรรม”
เมื่อกาลกิณีมีอำนาจ โลกย่อมวิปริต-วิปลาสเข้าทำนอง “ทุกข์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น” สมทบเหตุเป็น “อาเพศทางธรรมชาติ” ซ้ำ
อุบัติภัยต่างๆ ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุถล่ม ภูเขาไฟระเบิด สงคราม การใช้ความรุนแรง การก่อวินาศกรรม ความขัดแย้งขั้นทำลายล้าง “เพื่อเกิดสิ่งใหม่”
เป็นเรื่อง “หนีไม่พ้น”!
ทั้งเศรษฐกิจจะย่ำแย่ การเงิน การค้า การกิน การอยู่ของผู้คน จะลำบากยากแค้นไปทั้งโลก เข้าสู่ยุคที่เรียก “ข้าวยาก-หมากแพง”!
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งอ้าง “กำแพงภาษีสหรัฐฯ” เป็นเหตุให้เลื่อน “พรบ.กาสิโน” ที่กะจะเอาเมื่อ ๙ เมษา.ไปสมัยประชุมหน้า นั้น
ความจริง…ไม่หรอก
คนอย่างอุ๊งอิ๊งน่ะเรอะ จะรู้ความหนักเบาของเรื่องราว
แรกๆ เห็นแต่ คปท., ศปปส, กองทัพธรรม, หมอวรงค์ และ ฯลฯ ออกมาทำหน้าที่พิทักษ์สังคมธรรม ก็หยามว่า พวกหน้าเดิม พวกไดโนเสาร์ หน้าเก่าๆ ไม่มีน้ำยา จุดไม่ติด
ก็เดินหน้าเต็มสูบ “กูจะเอา” ท่าเดียว ทั้งที่เหตุแผ่นดินไหวยังไม่จาง ตึกสตง.ถล่มผังคนเป็นเป็นร้อย การช่วยเหลือคนแทนที่จะเป็นเรื่องเฉพาะหน้าเร่งด่วนของรัฐบาล
ฮึ…แม่ไม่สน (เพราะพ่อสั่ง)
ทำยังกว่า “ตัวพ่อ” ไปดีลเรื่องการตั้งบ่อนกาสิโนไว้แล้วกับใครยังงั้นแหละ ต่อให้ลุยน้ำ-ลุยไฟก็ต้องเอาให้ได้ ไม่งั้นจะผิดข้อตกลงกับเขาประมาณนั้น
แต่พอศาสนจักร, ธรรมจักร คณะ “สังคมคุณธรรม” ทั้งแพทย์ ทั้งนักวิชาการ ทั้งราชบัณฑิต ออกมาต้าน เป็นปรากฎการณ์แห่ง “กำแพงประชาธรรม”
นั่นตะหาก รัฐบาลจาก “อีแร้งเจอศพ” จึงกลายเป็น “ผีเจอแสง” ซีดไปในบัดดล!
ใช่ว่าถอดวิญญานทิ้งซากไปเลยนะ แค่ซ่อนหลบแสงเท่านั้น รอให้โพล้เพล้ มันก็จะฟื้นขึ้นมาอีก
ส่วนเมื่อไหร่นั้น เขาบอกแล้ว เปิดสภา “เดือนกรกฎา” เอาแน่!
ดูสัญญานจากคำพูดทักษิณก็ได้….
“…….เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองโดยตรง
แต่เป็นความไม่เห็นด้วยของคนบางคนโดยใช้คำว่า “กาสิโน” ทั้งที่ไม่ใช่ เพราะ “กาสิโน” เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ใน “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”
ไม่ใช่มี “กาสิโน” เป็นหลัก คนที่ต่อต้านก็จะนำไปพูดว่าเป็นกาสิโนอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่บิดเบือน”
ถามว่า “รัฐบาลจะผ่านไปอย่างไร ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่เห็นด้วย และยังมีสว.ตั้งด่านในเรื่องนี้?”
ทักษิณบอก….
“ไม่เป็นไร สว.เป็นเรื่องสว.เพราะรัฐบาลมีเสียงพออยู่แล้ว”
นี่.. “เผด็จการประชาธิปไตย” คืออย่างนี้!
ตอนนี้ กะโหลกคนเพื่อไทยถูกฝังชิปอันใหม่ ไปไหนให้พูดด้วยคอนเซปต์ว่า “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์…ไม่ใช่กาสิโน”!
นี่มัน พศ.๒๕๖๘ นะ พวกไดโนเสาร์ฝังชิป
ไม่ใช่พศ.๒๕๔๔ ที่ทักษิณบอกกับเสนาะตอนหาเสียง ว่า…
“โธ่…พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ”!
วันนี้ คนตาบอดของทักษิณ-เพื่อไทย ส่วนใหญ่เขา “ตาสว่าง” กันหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่พวกตาต้อหิน แดงส่วนใหญ่แปลงไปเป็นส้มกันแทบหมดแล้ว
เชียงใหม่ที่คุยว่า “ถิ่นเสื้อแดง” ทักษิณ สส.๑๐ คน เหลือแค่ ๓ ถูกก้าวไกลกวาดไปกินซะตั้ง ๗
ลำพูนก็ถูกก้าวไกลแบ่งครึ่ง เลือกตั้งนายกอบจ.ล่าสุด เป็นไง เสียหมาไปเลยมั้ย ก้าวไกลยึดเมืองเป็น “ลำพูนส้ม” ไปเรียบร้อย!
แล้วยังไม่สำนึกว่าเป็น “ไอ้แก่เลี้ยงแกะ” พูดจาอะไรชาวบ้านเขาไม่เชื่อถือแล้ว ก็ยังหลงว่าชาวบ้านเป็นพวกคนตาบอด “หลอกง่าย” อยู่นั่นแหละ ทั้งที่อีกหน่อยเพื่อไทยที่เชียงใหม่ จะไม่เหลือสส.เลยซักคน
เพราะที่หาเสียง ไม่เคยทำได้จริง พูดอะไร หารร้อยแล้วเอาไปใส่ครกตำคั้นน้ำ ก็ยังหาความจริงไม่ได้ซักอย่าง
พูดไปได้….เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล์กซ์ ไม่ใช่กาสิโน!
ถ้าไม่มีกาสิโน ก็ทำไปเลย ไม่มีใครว่า จะมีโรงหนัง โรงละคร มีสวนน้ำ มีสวนไดโนเสาร์ฝังชิปซักกี่ตัว-กี่สวน ก็ทำไป
อุ๊งอิ๊งเป็นประธานวางศิลาฤกษ์พรุ่งนี้ได้เลย SC แอสเสท ของตระกูล มีที่ดินเป็นพัน-เป็นหมื่นไร่
อยากทำตรงไหน-ทำเลย จะโฆษณาให้ฟรีๆ ขอตั๋วใบเดียวพอ อยากไปดู “ไดโนเสาร์ฝังชิป” น่ะ!
“นายสรวงศ์ เทียนทอง” เลขาฯ พรรคเพื่อไทย เป็นถึง รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ เมื่อวาน (๑๔ เม.ย.) ก็ฝังชิปกะเขาด้วย ให้สัมภาษณ์ว่า
“กาสิโนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นแนวทางดึงดูดนักลงทุน ไม่ควรถูกดึงไปเป็นประเด็นหลักของการวิพากษ์……..
……..ภาคการท่องเที่ยวไทยขาดแลนด์มาร์กที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำให้ต้องอาศัยสมบัติเก่ามาตลอด และนี่คือโอกาสสร้างสิ่งใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
อยากถามท่านรัฐมนตรีสรวงศ์คำ
แป้งสาลีนึ่งลูกขาวๆ มันเป็น “ซาลาเปา” ตรงไหน รู้มั้ย?
จะบอกให้ มันเป็นตรง “ไส้”
ถ้าไม่มีไส้ เขาไม่เรียกซาลาเปา เขาเรียก “หมั่นโถว”!
“เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่มีกาสิโน “เป็นไส้” มันก็คือ “บ่อนการพนัน” โดยตรงนั่นแหละ
ฉะนั้น ไม่ต้องเฉไฉ เที่ยวดัดจริตอ้างข้างๆ คูๆ ไปว่า “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไม่ใช่ “กาสิโน” หรอก
เหมือน “ซาลาเปา”….
เพราะมีไส้ จึงเรียกซาลาเปา ถ้าไม่มี เขาเรียก “หมั่นโถว” ไม่มีไอ้เบื๊อกที่ไหนเรียกหมั่นโถวว่าซาลาเปา หรือเรียกซาลาเปาว่าหมั่นโถว!
ฉันใด ก็ฉันนั้น สถานบันเทิงครบวงจรมีกาสิโน มันก็คือ “บ่อนการพนัน” แต่คำว่าบ่อนพนันฟังแล้วเขินนรก จึงดัดจริตเรียกโก้ๆว่า “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”
อยากบอกคุณสรวงศ์ด้วยรักซักคำ
คุณเป็นถึงรัฐมนตรีท่องเที่ยว แต่ประหนึ่งทัพพีที่ไม่รู้รสแกง
คุณไม่รู้เลยว่า ที่ไทยติดอันดับท็อป ๓ ของโลก เป็นประเทศน่าท่องเที่ยว เป็นเพราะตรงไหน?
แล้วคุณก็ให้สัมภาษณ์ว่า….
“ภาคการท่องเที่ยวไทยขาด “แลนด์มาร์ก” ที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำให้ต้องอาศัย “สมบัติเก่า” มาตลอด และนี่คือโอกาสสร้างสิ่งใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
อืมมมม….น่าสงสารนะ
เอาละ บอกเป็นวิทยาทานสำหรับรัฐมนตรีท่องเที่ยวไว้นิด
เมื่อ ๖ ธันวา.๖๖ UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกโลก!
ถ้าท่านจะไปผลักดันให้ UNESCO ขึ้นทะเบียน “ซอฟต์ พาวเวอร์” อุ๊งอิ๊ง เป็นแลนด์มาร์ก มนุษย์สร้างขึ้นเป็น “มรดกโลก” พร้อมกับบ่อนกาสิโน ที่คุยว่าเป็นสิ่งใหม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ก็เชิญเลย
ถามย้ำอีกที กาสิโนเนี่ยนะ คือ “สิ่งใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”!?
สงสัยเพื่อไทยจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ “ไดโนเสาร์ฝังชิป” จริงๆ ซะด้วยแหละ!
เปลว สีเงิน
๑๕ เมษายน ๒๕๖๘
