ผักกาดหอม
สงสัยต้องถอนคำพูด…
ที่บอกว่าฝ่ายค้านอ่อนหัด!
วันนี้ต้องยกนิ้วให้
“นิ้วโป้ง” ครับ ต้องยกให้ “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” สส.พรรคส้ม
จะถือว่าเป็นการประเดิม ชิมลาง หรือโหมโรง ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองโพยก็ว่าได้
วานนี้ (๒๐ มีนาคม) “ไอติม” ตั้งถามกระทู้สดเรื่องนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ต่อนายกฯ แพทองโพย แต่เธอไม่ตอบหรอกครับ สั่งให้ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นคนตอบกระทู้แทน
ไปดูคำอภิปรายของ “ไอติม” ครับ
“…ภารกิจทั้งหมดของซอฟต์พาวเวอร์ถูกขับเคลื่อนผ่านกลไกสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ หรือทักก้า ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ทักก้าแถลงประกาศโครงการใหม่ที่เป็นความร่วมมือกับบริษัทเอกชนชื่อว่า Melco Resorts & Entertainment
โดยความร่วมมือนี้คงเป็นความร่วมมือที่รัฐบาลมีความภาคภูมิใจ ว่าประเทศเราจะได้รับผลประโยชน์ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมไปแล้ว ๒ กิจกรรม
จึงอยากสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า ความร่วมมือระหว่างทักก้ากับบริษัท เมลโคฯ นั้น มีกิจกรรมอะไรบ้าง มีการเซ็นสัญญาหรือไม่
งบประมาณของกิจกรรมที่เคยจัดมานั้นเป็นเท่าไหร่ ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่าย
กิจกรรมที่จะตามมาในปีนี้นั้นจะมีอะไรอีกบ้าง ค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่ ใครเป็นคนออก…”
ที่จริง นายกฯ แพทองโพยน่าจะมาตอบคำถามด้วยตัวเอง เพราะถูกยกให้เป็นเจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์ เห็นชวนคณะรัฐมนตรีใส่กางเกงช้างในทำเนียบรัฐบาล ก็ยิ่งเห็นแนวคิด
อึ้งกันทั้งโลก!
นายกฯ เจนวายวอดของแท้
“ไอติม” อภิปรายต่อว่า
“…รายละเอียดหนึ่งในการร่วมมือของทักก้ากับบริษัท เมลโคฯ นั้นยังไม่มีการพูดถึง เป็นเหมือนช้างในห้องที่ยังไม่มีใครพูดถึง
คือบริษัท เมลโคฯ นั้น ความจริงเป็นบริษัทกาสิโน แต่ไม่ได้บอกว่าบริษัทกาสิโนนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ตราบใดที่เป็นการประกอบกิจการที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และดำเนินกิจการตามกฎหมาย
เพื่อทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปของโครงการ และพอคาดการณ์ได้ว่าบริษัทต่างๆ ที่สนใจจะมาร่วมมือกับทักก้า เพราะรัฐบาลไทยมีแผนที่จะออกใบอนุญาตให้กับกาสิโนในประเทศ…”
เริ่มเห็นอะไรแล้วใช่มั้ยครับ ซอฟต์พาวเวอร์มันไปเกี่ยวกับบริษัทกาสิโนได้อย่างไร
ไปดูคำอภิปรายของ “ไอติม” ต่อ
“…ต้องยอมรับว่าบริษัท เมลโคฯ มีธุรกิจกาสิโนเป็นธุรกิจหลัก และดำเนินการเปิด ๕ แห่งใน ๓ ประเทศ กำลังจะมีแห่งที่ ๖ ในประเทศที่ ๔
นอกจากนี้ กรณีที่รัฐบาลเลือกทำความร่วมมือแบบพิเศษกับบริษัทที่ทำธุรกิจกาสิโน จะมีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจร่วมมือกับบริษัทดังกล่าวต่อการออกใบอนุญาตให้ทำกาสิโน ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดต่อการออกกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือไม่
ทั้งนี้ หากระบุว่าต้องร่วมมือเพราะเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรที่มีชื่อเสียงได้ จะพูดได้หรือไม่ว่ารัฐบาลไม่สามารถขอความร่วมมือจากบริษัทอื่นได้ และหากยืนยันว่าต้องร่วมมือกับบริษัทดังกล่าวจริง เคยศึกษาละเอียดหรือไม่ว่า บริษัทที่ทักก้าร่วมมือนั้น เขาทำธุรกิจที่น่ากังวล…”
“…แม้ว่าไม่เคยพิสูจน์ว่าทำผิด แต่การค้นหาจากอินเทอร์เน็ตมีการรายงานข่าว ว่าถูกสอบสวนจากหน่วยงานที่ประเทศออสเตรเลีย ที่พบซื้อหุ้นในกาสิโนที่มีปัญหาการฟอกเงิน และเคยร่วมธุรกิจกับนายหน้าที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมในจีน
และบริษัทดังกล่าวเคยถูกสอบสวนจากหน่วยงานญี่ปุ่น ที่นักการเมืองญี่ปุ่นไปรับสินบนจากอีกบริษัทหนึ่ง…”
ครับ…พ่อลูก บุคคลในครอบครัวชินวัตร คิดอะไรอยู่?
โจ่งครึ่มขนาดนี้เลยหรือ
กฎหมายกาสิโนตั้งไข่อยู่ รัฐบาลไม่ยอมเอาเข้า ครม.ก่อนที่ฝ่ายค้านจะซักฟอกนายกฯ ก็เพราะกลัวโดนถล่มในสภาใช่หรือไม่
จึงต้องดองไว้ชั่วคราว เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็น
ไปดูว่า “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ตอบกระทู้ว่าอย่างไร
“…บริษัทดังกล่าวเป็นผู้สนับสนุนงานด้านศิลปะและซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์
ดังนั้น กรณีที่เมลโคให้ความสนับสนุนและทำงานร่วมกับทักก้าจึงไม่แปลก เพราะมีกิจกรรมและมีลักษณะของภารกิจที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เมลโคฯ และไม่เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตกาสิโน…”
คำตอบนี้ คอขาดครับ!
คิดว่าประชาชนกินหญ้าหรือไงครับ
“ลอว์เรนซ์ โฮ” ซีอีโอของ Melco Resorts & Entertainment เขาประกาศตั้งแต่วันที่เกลือกกลั้วกับรัฐบาลเพื่อไทยแล้วว่า สนใจทำกาสิโนในไทย
แก้ผ้าล่อนจ้อนตั้งแต่กฎหมายยังไม่ผ่านสภา
กลิ่นผลประโยชน์ทับซ้อนโชยมาแต่ไกล
ก็คงไม่แปลกเหมือนที่รัฐบาลทักษิณให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลเมียนมาวงเงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของเมียนมา
ดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาต้นทุนของธนาคาร
หวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่สั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัท ชินแซทเทลไลท์ บริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร
ไม่แปลกที่คดีนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก “ทักษิณ” เป็นเวลา ๓ ปี
รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดปัญหาทุจริตเชิงนโยบาย และผลประโยชน์ทับซ้อน
ก็ยังทำหน้าตาเฉย
บุคคลในครอบครัวชินวัตร ไม่สรุปบทเรียนกันบ้างหรือไร
ครับ…หวยออกแล้ว “ลุงป้อม” จะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองโพย เป็นเวลา ๑๘ นาที
จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่การเมืองไทยครับ
เพราะขณะที่ “ลุงป้อม” เป็นรัฐบาลและถูกซักฟอก ลุกขึ้นตอบฝ่านค้านสั้นจู๋
“สิ่งที่ท่านพูดมาไม่เป็นความจริง”
คราวนี้ “ลุงป้อม” จะอภิปรายตั้ง ๑๘ นาที
นึกภาพไม่ออกจริงๆ “แพทองโพย” จะโดนอะไรบ้าง
แต่การถูก “ลุงป้อม” ซักฟอก คือมลทินที่ติดตัวไปตลอดชีวิต.
เพราะไม่เคยมีใครคิดว่า “ลุงป้อม” จะทำหน้าที่ซักฟอกรัฐบาล
