ผักกาดหอม
เอาที่สบายใจเลยครับคุณพี่
วานนี้ (๒๑ ตุลาคม) เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย บอกว่า นักร้องจะทำให้เศรษฐกิจชาติพัง
“…ผมไม่อยากทำให้เรื่องนี้มาทำให้เสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลเสียหาย เพราะเศรษฐกิจกำลังจะพลิกฟื้น พอมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ชะงัก ถ้าหากเป็นเช่นนี้ผมคิดว่าเศรษฐกิจประเทศพังแน่ จึงอยากให้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย
หากทำอะไรผิดก็ว่ากันไปตามผิด และพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้กังวลใจ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ…”
เอาชัดๆ นะครับ ขณะนี้เศรษฐกิจประเทศไม่ได้อยู่ในวิกฤตแล้วใช่หรือไม่
ถ้าใช่รัฐบาลยกเลิกแจกเงินหมื่นได้แล้ว
ไม่จำเป็นต้องสร้างพายุหมุนอะไรกันอีก
ไม่ใช่ว่าถึงเวลาอยากใช้นโยบายประชานิยม แจกเงินชาวบ้าน ก็อ้างเศรษฐกิจกำลังอยู่ในวิกฤต ต้องเร่งอัดฉีดโดยด่วน
แต่ถึงเวลาถูกตรวจสอบ ก็อ้างว่ามาฉุดแข้งฉุดขา
แบบนี้จะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวต้องพังพินาศแน่ๆ
ตกลงอะไรคือความจริง
พรรคเพื่อไทยเพิ่งจะผ่านการเป็นฝ่ายค้านมาหยกๆ และทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลประยุทธ์อย่างขยันขันแข็ง
ขนาดประเทศอยู่ในวิกฤตโควิด ก็ยังซัดกันไม่เลี้ยง
ไม่เห็นหน้าไหนจะบอกว่า ต้องหยุดตรวจสอบรัฐบาลไว้ก่อน เพราะเกรงจะกระทบเศรษฐกิจชาติ
พรรคเพื่อไทยไม่ใช่หรือที่เปิดยุทธการ “เด็ดหัวสอยนั่งร้าน”
ไม่คิดบ้างหรือว่า จั่วหัวดุเดือดขนาดนั้นจะกระทบเศรษฐกิจประเทศหรือไม่
ฉะนั้นอย่าเอาเรื่องที่บรรดานักร้อง ไปร้องให้ตรวจสอบรัฐบาลมากล่าวอ้าง ว่าเป็นการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล
ไม่มีอะไรต้องหยุดชะงักครับ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศก็บริหารต่อไป
นักร้องก็ทำหน้าที่ของนักร้องไป
เช่นเดียวกับศาล ท่านก็มีหน้าของท่าน
ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่
และต่างฝ่ายต่างต้องรับผิดชอบในการทำหน้าที่ของตนเอง
นักร้อง ร้องมั่ว ร้องทุกเรื่อง รับจ้างร้อง สุดท้ายความจริงก็จะปรากฏ นักร้องประเภทนี้ ดับมาหลายคนแล้ว
ขณะเดียวกันพรรคการเมืองดับสูญเพราะนักร้อง ก็มีมาแล้วหลายพรรค
แล้วรัฐบาลทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีหรือยัง
บางเรื่องที่ทำ หรือจะทำ พร้อมที่จะรับผิดชอบแล้วหรือยัง
การเป็นรัฐบาลที่พรรคอันดับสองมีอำนาจต่อรองสูง ไม่ง่ายที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมาจากพรรคอันดับหนึ่งจะทุบโต๊ะทำอะไรได้ง่ายๆ
“มาดามแพ” นั่งหัวโต๊ะดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลคืนวานนี้ ไม่ทราบว่า “พ่อ” บังคับมาหรือไม่ แต่โดยช่วงเวลา ไม่คุยอาจจะเกิดปัญหา
บริหารประเทศมาแค่เดือนเศษๆ เริ่มเห็นรอยปริในพรรคร่วมรัฐบาล
เป็นรอยปริที่เกิดจากพรรคเพื่อไทย
เพราะพรรคเพื่อไทยยังคงถูกครอบงำจากบุคคลภายนอก
และยังต้องยึดตามความต้องการของบุคคลภายนอกอยู่
ให้พื้นที่ฝ่ายค้านเขาสักหน่อยครับ
“ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” ตั้งคำถาม ๖ ข้อให้รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยตอบ
๑.รัฐบาลจะเดินหน้าให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร. เสร็จทันก่อนเลือกตั้งครั้งหน้า ตามที่เคยได้สัญญาไว้หรือไม่
จะมีการมอบหมายพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนหรือไม่ ให้ไปหารือกับ สว. ให้สนับสนุนหลักการสำคัญในร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ของสภาฯ
จะมีการมอบหมายพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนหรือไม่ ให้ไปโน้มน้าวให้ประธานสภาฯ เห็นว่าการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่อง ส.ส.ร. เพื่อลดจำนวนประชามติจาก ๓ เหลือ ๒ ครั้ง ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ?
๒.รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไรเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง
พรรคเพื่อไทยจะยืนยันหรือไม่ว่าจะเดินหน้าลงมติเห็นชอบกับรายงานของ กมธ. (ที่ สส.จากพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน) เนื่องจากเป็นรายงานที่เพียงเสนอทางเลือกเชิงนโยบายต่างๆ โดยไม่ได้ผูกมัด ครม.ให้เลือกทางใดทางหนึ่ง?
เมื่อผ่านพ้นการพิจารณารายงานไปแล้ว จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในนามของ ครม. หรือในนามของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เมื่อไหร่ และมีเนื้อหาที่วางแนวทางเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดี ๑๑๒ ไว้อย่างไร
๓.รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไรเรื่องนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสสอง
ตกลงรัฐบาลจะเดินหน้าหรือไม่ ในการแจกเงินหมื่นในเฟสสอง ให้แก่คนอีกหลายสิบล้านคนที่ลงทะเบียนแต่ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ๑๔.๕ ล้านคนจากเฟสแรก
หากเดินหน้า งบประมาณที่จะต้องถูกจัดสรรมา จะไปเบียดบังงบประมาณที่พรรคร่วมรัฐบาลอยากใช้ผลักดันโครงการของกระทรวงที่แต่ละพรรครับผิดชอบอยู่หรือไม่?
๔.รัฐบาลจะตกลงกันได้หรือไม่ ว่าร่างกฎหมายของใครจะเป็นร่างหลัก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ซึ่งจะต้องมีการลงมติกันในสัปดาห์หน้า
เราจะเห็นพรรคเพื่อไทย มีความพยายามกดดัน สส. พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นหรือไม่ ให้หันมาโหวตให้ร่างของเพื่อไทยเป็นร่างหลัก (แทนร่างของ ครม.) ทั้งที่ร่างของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างที่พรรคประชาชนมองว่ามีกลไกคุ้มครองผู้ใช้บริการและกลไกตรวจสอบน้อยที่สุด รวมถึงมีช่องโหว่ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนมากที่สุด (ติดตามรายละเอียดได้จากการอภิปรายของ สส.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ)
รัฐบาลจะหารือกันเรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบ หรือไม่
พรรคร่วมรัฐบาลที่มีฐานในพื้นที่ชายแดนใต้ (และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องดังกล่าวใน กมธ. กฎหมาย) จะมีข้อเสนออย่างไรต่อนายกฯ ในการดำเนินการให้มีการนำตัวจำเลยและผู้ต้องหาทุกคนมาขึ้นศาลให้ทันก่อนอายุความจะหมดลงในอีก ๕ วัน?
๖.รัฐบาลจะมีความชัดเจนขึ้นหรือไม่ เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินนโยบายที่เคยมีความเห็นต่างกันระหว่างสองพรรคใหญ่สุดในขั้วรัฐบาล (เช่น นโยบายกัญชา/นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร)?
ครับ…เป็นประเด็นน้ำจิ้ม และบางประเด็นก็เกี่ยวพันไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร” เช่น นิรโทษกรรม ม.๑๑๒ ที่พรรคเพื่อไทยยังกั๊กอยู่
ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ก็น่าจับตา เพราะอาจนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอย่างมโหฬาร
รวมถึงการแก้สัญญา “ไฮสปีดเทรน ๓ สนามบิน” สุดท้ายปลายทางอาจถึงคุก
จะมีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนยินดีร่วมรับผิดชอบกับพรรคเพื่อไทยบ้าง
เอาที่สบายใจ!
