เปลว สีเงิน
“อดีต” คือ “DNA ของปัจจุบัน” และปัจจุบันคือ “DNA ของอนาคต”
-๑๖ ธันวา.๖๗ “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกฯ มาเลเซีย ตั้ง “ทักษิณ ชินวัตร” จำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว “ประธานอาเซียน”
-๒ กุมภา.๖๘ ทักษิณเดินทางไปพบนายอันวาร์ นายกฯ และประธานอาเซียน ที่มาเลเซีย
-๑๘-๑๙ กุมภา.๖๘ ทักษิณเดินทางไปบรูไน โดยนายอันวาร์ เชิญไปหารือต่อเนื่องจากพบกันครั้งก่อน
-๒๓ กุมภา.๖๘ ทักษิณใช้ฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ตรวจราชการที่นราธิวาส
-นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม
-พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ตามไปเป็นวอลเปเปอร์
โดยมี….
-นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา
-ฉัตรชัย บางชวด เลขาสมช.
-พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาฯศอ.บต.
พร้อมด้วยข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พินอบค้อมรับ
-๖ มีนา.๖๘ ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
หลังจากทักษิณยื่นคำร้องขอเดินทางไปอินโดฯ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนอีก
-๘ มีนา.๖๘ เดือนรอมฎอน อยู่ในช่วงถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม
กลุ่มก่อการชายแดนใต้ ยิง,วางระเบิดในนราธิวาส ๔ จุด ปัตตานี ๒ จุด เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิต ๕ นาย บาดเจ็บ ๑๓ นาย
เสียงจากสังคมไทยวันนี้ คือ….
ถุ้ยยยย….ประธานที่ปรึกษาอาเซียน!
กาสิโน-เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แมนเมดน่ะ เปิดหาส้น ในกรุงเทพฯ ที่พัทยา ที่ภูเก็ต ที่เชียงใหม่ ซึ่งขายตัวมันเองได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องพึ่งกาสิโน
อยากเปิด โน่น…ไปเปิดนำร่อง “แห่งเดียว” ก่อน เป็นการศึกษาผลที่ “๓ จังหวัดใต้”
พิษต้องแก้ด้วยพิษ ฉันใด
ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมชายแดนใต้ มันก็ต้องด้วยเอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ฉันนั้น!
นายกฯ Gen Y กลับจากไปผลาญงบที่เยอรมันมาแล้วมิใช่หรือ ไปถามพ่อซิ
ไหนคุยว่า ไปมาเลย์ฯ ได้พูดคุยกับผู้เห็นต่างทั้งในมาเลย์และในไทยแล้วไง?
ไปนราธิวาส ท่ามกลาง ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ-ทหาร นักการเมือง ที่ตามพินอบจนกระดูกสันหลังคด
ก็โม้น้ำลายฟุ้ง…
“ผมมาในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
อยากมาดูสถานการณ์เอง….
เพราะในช่วงที่ผมเป็นนายกฯ ได้ทำงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาคใต้ไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาที่ต้องการการแก้ไข เชื่อว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน เราสามารถหาทางออกได้”
ไหนล่ะ…ทางออก…
ทางบึ้มและกราดยิงไม่เว้นกระทั่งพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนรอมฎอนเนี่ยนะ…ทางออก?
แล้วพูดไปด้ายยย….
“ช่วงผมเป็นนายกฯ แก้ปัญหาภาคใต้ไปแล้ว”!
ที่บึ้ม-ฆ่าทุกวันนี้ มิใช่ผลจากทักษิณทำไว้สมัยเป็นนายกฯ แล้วปัญหานั้น มันตกทอดมาถึงทุกวันนี้ดอกหรือ?
มันแก้ไปแล้วยังไง ช่วยอธิบายที่บึ้มถี่ๆ ช่วงนี้ให้ฟังหน่อยซิ ท่านสทร.?
ถ้าแก้ไปแล้ว มันจะยังเหยงๆ ทั้งในสภา-นอกสภา บึ้ม-ฆ่าตามถนน ตามสถานที่ราชการดังเห็นตำตาอย่างนี้หรือ?
ใน “ตำราพิชัยสงคราม” ของ “ปราชญ์ซุนวู” มีบทที่นำมาสะท้อนภาวะผู้นำได้ ประมาณว่า
“ใต้ธงรบผู้นำที่อ่อนแอและโง่เขลา ย่อมไม่มีผู้ตามที่เข้มแข็งและชาญฉลาด”
แบบนี้ รบร้อยครั้ง ก็แพ้ทั้งร้อยครั้ง สามารถประยุกต์มองภาวะปัจจุบันได้ว่า…
น่าเสียดาย “งบประมาณ-กำลังพล-ศักยภาพประเทศ” มีล้น แต่เมื่อถูกนำด้วย Gen Y ไร้เดียงสา
ผลของมันคือ
“ระส่ำสุข-ทุกข์เข็ญทุกหย่อมหญ้า” เพราะเอาเด็กไม่รู้ประสามาเป็น Puppet!
ปัญหาประชาชน ปัญหาบ้านเมือง แก้ไม่ได้ ถึงแก้ ยิ่งกลายก็เป็นเงื่อนปมถมทับ
เมื่อผู้นำทั้งไร้เดียงสา ทั้งอ่อนแอ ความแตกแยกสามัคคีในชาติก็ตามมา
บ้านเมืองที่ยุ่งเหยิง ถูกปัญหาการเมือง ว่าด้วยการชิงเมืองซ้ำเติม ทุกข์ซ้ำ-กรรมซัด วิบัติเป็นจึงระงม!
นี่… “เรื่องไม่เป็นเรื่อง” ก็เป็นเรื่องขึ้นอีก
ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ แพทองธาร ของฝ่ายค้าน ที่ยื่นประธานวันนอร์ไปแล้วแต่ ๒๗ กุมภา.
ผ่านไป ๗ วัน จู่ๆ ประธานวันนอร์ ทำหนังสือด่วน “ยื่นคำขาด” ถึงผู้นำฝ่ายค้าน
“ให้แก้ญัตติ ตัดชื่อนายทักษิณออกไป เพราะเป็นคนนอก” พร้อมขู่สำทับ
“ถ้าอยากจะอภิปรายก็ต้องแก้ ถ้าไม่แก้ เราก็ไม่บรรจุ”!
นายณัฐพงศ์ “ผู้นำฝ่ายค้าน” บอก “เราไม่แก้”
“ขิงรา-ข่าแรง” มันก็บรรลัย
ผมไม่อยากให้บรรลัย (เร็ว) จึงอยากบอกทั้ง ๒ ฝ่ายว่า
ประธานวันนอร์ จับด้ามมีด ฝ่ายค้านจับปลายมีด คุณณัฐพงศ์-ผู้นำค้าน สนองอำนาจท่านประธาน ตัดชื่อทักษิณออกไปเถอะ
ใช้ นายสทร. นักโทษเทวดา, คนชั้น ๑๔ หรือกะล่อนเลี้ยงหลาน แทนในการอภิปรายก็ได้ หรือจะบัญญัติขึ้นใหม่ คนฟังเข้าใจอยู่แล้ว
ในญัตติที่ส่งไป ที่ประธานวันนอร์ต้องการให้ตัด ก็ตรง
“นายกรัฐมนตรี สมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองด เว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง
ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”
ก็เปลี่ยนเอาชื่อ “นายทักษิณ” ออก แล้วใส่ชื่อ “นายสทร.” หรือ “นายหัวหน้าคอกหมา” เข้าไป ก็จบ!
ตรงนี้ เนื้อหาตามญัตติอภิปรายได้โดยไม่ต้องเอ่ยชื่อทักษิณ เพราะมันเข้าตามมาตรา ๒๘ และ ๒๙ ของพรป.พรรคการเมือง เป็นที่ประจักษ์
ว่าด้วย “พรรคการเมือง” ยอมให้ “คนนอกพรรค” ควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค
และว่าด้วย “คนนอกพรรค” กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรค มันชัดอยู่แล้ว
หลักฐานยืนยัน เยอะแยะ……..
อย่างเช่นพูดเรื่องปรับครม.ใครฟังก็เข้าใจว่านี่คือ “หัวหน้าพรรค-หัวหน้ารัฐบาล” ตัวจริง
ไปพูดหาเสียงที่บึงกาฬ ที่หนองคาย และอีกหลายที่
ชัดเจนว่า ทั้งพรรคยอมให้คนนอกครอบงำ-สั่งการ ทั้งชัดว่า “คนนอก” เข้าไปครอบงำ-สั่งการคนในพรรค!
ความจริง เรื่องให้ฝ่ายค้าน “แก้ญัตติ” ตัดชื่อทักษิณนี่ ท่านประธานวันนอร์ “เสียแต้ม” เยอะนะ
ผมว่า ท่านไม่ได้กลัวเรื่องถูกฟ้อง ท่านถูก force จากใครบางคนมากกว่า!?
ท่านองอาจ ผึ่งผาย กล้าหาญ จนได้รับเสียงชื่นชมมาตลอด แต่เรื่องนี้ ทำให้ท่านดูไหล่ห่อ-คอตก ไปมากทีเดียว
อภิปรายไม่ไว้วางใจ เขาบีบจะให้อภิปรายวันเดียว ประชาธิปไตยขี้ขลาด ดูท่านก็จะยอม
นี่รุกคืบให้เขาแก้ญัตติ เจตนา “บีบ-ล้มกระดาน” ไม่ให้มีการซักฟอกนายกฯ เบบี๋ หรือว่าไม่จริง?
ทำไป-ทำมา “ฝ่ายบริหาร” กับ “ฝ่ายนิติญัตติ” ขัดกัน “อย่างรุนแรง” ผลของมัน ถ้าถอยหลังไป ๓๐-๔๐ ปีก่อน
ถ้ารัฐบาลไม่ “ยุบสภา”…
ก็ถูกกองทัพทำ “รัฐประหาร” ตัดปัญหา “การเมืองพาบ้านเมืองพัง” ไปแล้ว มีสองสถานนี้เท่านั้น เป็นทางเลือก!
แล้วตอนนี้ ญัตติซักฟอกนายกฯ เพียงยื่นถึงประธานสภาเท่านั้น ยังไม่ได้บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม
นั่นหมายถึงว่า ถ้าฝ่ายค้านยืนกราน “ไม่ตัด” ฝ่ายรัฐบาลถือเป็นข้ออ้าง “ชิงยุบสภา” ปกป้องคุณหนูเป็นหมูหันบนเขียงได้เลย
ก็จะอดกินโต๊ะ “นายกฯ Gen Y” ซึ่งน่าเสียดาย เนื้อนุ่มๆ เกรดพรีเมียม!
หรือไม่อีกทาง เพื่อไทยยังเสียดาย “อำนาจฝ่ายรัฐบาล”
ให้นายกฯ Gen Y ลาออก
แล้วให้คน Gen X ในพรรคร่วมขึ้นแทน นี่ก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ ในวันนี้หรือวันหน้า!?
ฉะนั้น ประธานวันนอร์คะยั้นคะยอให้แก้ คุณณัฐพงศ์ ก็แก้ให้ท่านซะเถอะ!
ข้อบังคับการประชุุม ข้อที่ ๖๙ มีว่า……
“การอภิปรายต้องอยู่ในประเด็นหรือเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังปรึกษากันอยู่ต้องไม่ฟุ่มเฟือย วนเวียน ซ้ำซาก หรือซ้ำ กับผู้อื่น
และห้ามไม่ให้นำเอกสารใดๆ มาอ่านให้ที่ประชุมฟังโดยไม่จำเป็น และห้ามไม่ให้นำวัตถุใดๆ เข้ามาแสดงในที่ประชุม เว้นแต่ประธานจะอนุญาต
ห้ามผู้อภิปรายแสดงกิริยาหรือใช้วาจาอันไม่สุภาพ ใส่ร้าย หรือเสียดสีบุคคลใด
และห้ามกล่าวถึงพระมหากษัตริย์ หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น”
ท่านประธานเห็นมั้ย….
ข้อบังคับการอภิปรายมีเพียงว่า “….ห้ามออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น”
ก็ตรงตัว…ถ้า “จำเป็น” ก็ออกได้ ไม่ได้ห้าม
อย่างที่ให้ตัดชื่อทักษิณ ถ้าท่านประธานและฝ่ายค้าน ใช้สปิริตแห่งวิญญูชนทำหน้าที่ในสภา
ชื่อทักษิณ “ตอนไหนเอ่ยได้-ตอนไหนไม่ควรเอ่ย” จิตวิญญูชน “เหนือกฎกติกา” รู้ได้อยู่แล้ว!
ทุกวันนี้ ทักษิณเหนือรัฐบาล เหนือนายกฯ เหนือพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เป็นไร (วะ)
ยังเหลืออีกตั้ ง”๒ สถาบันอำนาจ” ที่เหนือทักษิณ
แต่บทบาทประธาน “นิติบัญญัติ” ของท่านวันนอร์ในเรื่องนี้
น่าจะเหลือ “อำนาจตุลาการ” อำนาจเดียวซะแล้วมั้ง
ที่ทักษิณ “ยังเหนือไม่ได้”!
เปลว สีเงิน
๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘
