ผักกาดหอม
ผลของโพยครับ….
“…มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี…”
เดิมทีก็เฉยๆ กับวลีนี้ แต่วันนี้เริ่มรู้สึกรำคาญยังไงก็ไม่รู้
นายกฯ แพทองโพย เธอจะใช้กับทุกงานหรืออย่างไรกัน
ทำให้นึกถึง อาปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รายนั้นก็มีวลีประจำตัวอยู่เหมือนกัน
“…ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ…”
คิดอะไรเพื่อขยายความไม่ออก ก็นี่แหละครับ ต้นน้ำยันปลายน้ำ
“ตัวพ่อ” ก็มีครับ ท่องคาถา กาสิโนแค่ ๑๐% ของ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
พูดซ้ำๆ มาหลายวัน จนพวกสมุนเอาไปอวยนายใหญ่ เป็นสุดยอดผู้กอบกู้เศรษฐกิจชาติ แล้ววันนี้เป็นไงครับ
ตั๊มไบ่!
เพราะรัฐมนตรีช่วยคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พูดไปคนละทาง
“… เรื่องนี้มีการหารือว่าจะเขียนหรือไม่เขียน ซึ่งในการยกร่าง ของกระทรวงการคลัง เราก็รู้ว่าไม่ควรเกิน ๓-๕ % แต่ถ้าถามว่าจะเขียนลงไปหรือไม่นั้น ยอมรับว่ายาก เพราะไม่ได้มีจุดเดียว
เพราะปีนี้หรืออีก ๑๐ ปีข้างหน้ายังไม่รู้สถานการณ์สังคมจะเป็นยังไงบ้าง ซึ่งต้องให้อำนาจกับคณะรัฐมนตรี หรือคนที่กำกับดูแล ในอนาคต ได้คิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง
การไปเขียนกฎหมายเพื่อบังคับปิดกั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นไม่ได้ ซึ่งสุดท้ายกระบวนการทั้งหมดจะต้องโปร่งใส เปิดกว้างในข้อเสนอ…”
เริ่มออกลายแล้วสิครับ
“ทักษิณ” ยืนยันจนเอ็นเปื่อยว่า กาสิโนไม่เกิน ๑๐% แน่นอน
วันนี้ไม่แล้วครับ มากน้อยไปว่ากันในอนาคต
นึกภาพไม่ออกเลยครับ ๑๐ ปีข้างหน้า ที่ไทยมีกาสิโนถูกกฎหมาย พนันออนไลน์เสรี สถานการณ์ทางสังคมจะเป็นเช่นไร
ที่แน่ๆ น่าจะเลวร้ายกว่าปัจจุบันมาก
ถึงวันนั้น ทักษิณ กับ พรรคเพื่อไทย จะยังอยู่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความฉิบหายของสังคมไทยหรือเปล่า
อีกเรื่องเป็นทัศนคติที่เลวร้ายและมักง่าย ซึ่งจะสร้างปัญหาให้แก่ประเทศในอนาคต
รัฐบาลนี้คิดจริงจังมากครับที่จะขุดเอาบรรดาธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน หวังโกยเม็ดเงิน เพิ่มอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้ประเทศ
อยากได้ตัวเลขจีดีพีสวยๆ
ไม่ทราบว่าถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างไร
พฤติกรรมเหมือนพวกอยากรวยทางลัด อะไรที่ได้เงินเอาหมด โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมาในภายหลัง
“…สิ่งที่สื่อและสังคม อาจจะเข้าใจผิด ไปมองเปรียบเทียบ กับสถานที่การพนันหรือกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่ใช่เลย
เพราะของเราคือเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เปรียบเทียบกับสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา
รัฐบาลต้องการสร้างเม็ดเงินเพื่อให้เกิดจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ที่ยังตกหล่น ในเรื่องการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจมายาวนาน ซึ่งประเทศและประชาชนกำลังรอลืมตาอ้าปาก
จึงพยายามผลักดัน เป็นหนึ่งส่วนและตั้งเป้าว่าการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศไทย จะต้องโตอย่างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ ๕%
ดังนั้นกลไกของ ‘เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ จะที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้คนไทยได้รับประโยชน์ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาล บรรจุลงไปในนโยบาย ที่แถลงต่อรัฐสภาไปเรียบร้อยแล้ว
ถือเป็นหนึ่งนโยบายหลักที่ต้องเดินหน้า โดยถือเป็นเรื่องดีที่ได้ไปชี้แจงกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ถือว่าเข้าใจตรงกัน…”
น่ากังวลครับ!
ประเทศไทยกำลังจะบริหารโดยเจ้ามือบ่อน
เชิญชวนประชาชนเล่นการพนันเพื่อเพิ่มจีดีพีของประเทศ
จะได้ลืมตาอ้าปาก
มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี
ประเทศไทยกำลังก้าวข้ามจากประเทศกำลังพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วย “บ่อน”
ถุย! เทียบตัวเองกับ สิงคโปร์ อเมริกา
ปลอดคอร์รัปชันเท่าเขาหรือเปล่า
เรื่องใหญ่นะครับ รัฐบาลที่ไม่รู้ศักยภาพของประเทศตัวเอง คิดว่าประเทศไทยมีทุกอย่างพร้อมเท่าเทียม สิงคโปร์ อเมริกา แต่ใช้นโยบายที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาเศรษฐกิจและสังคมตามอย่างประเทศที่เขามีความพร้อมในทุกด้าน
หลายประเทศในย่านอาเซียนไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย ขณะนี้ใช้นโยบายการค้ากับต่างประเทศ มุ่งสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เป็นนโยบายหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
แต่ไทยจะใช้กาสิโนเป็นจุดเปลี่ยน!
เปลี่ยนอะไรครับ?
อีกประเด็นจากปาก “จุลพันธ์”
“…กระบวนการทางกฎหมาย ผ่านการทำประชาพิจารณ์มาเรียบร้อยแล้ว พบว่าเห็นด้วย ๘๐%
เรื่องของโพลที่ออกมา ก็ต้องพูดให้ชัดว่าเขาพูดแค่เรื่องพนันออนไลน์ ซึ่งไม่ใช่เรื่อง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขอให้แยกประเด็นให้ชัด แต่ก็เข้าใจว่าความเห็นคัดค้านในสังคม ไม่ได้เห็นชอบตรงกันหมด
แต่ไม่ใช่สิ่งที่ทำโพลออกมา ย้ำว่าเป็นคนละประเด็น…”
พูดเอาแต่ได้ครับ
ลองไปดูร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรสิครับ ว่าด้วยเรื่องกาสิโนล้วนๆ
แล้วจะให้แยกอย่างไร
อีกอย่างนิด้าโพลเขาตั้งคำถามชัดเจนนะครับ ไม่ได้มั่วแบบที่ “จุลพันธ์” อ้าง
เขาบอกว่า จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๕๙.๑๖ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน
รองลงมา ร้อยละ ๒๘.๙๓ ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน
ร้อยละ ๘.๖๓ ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีกาสิโน
ร้อยละ ๑.๖๘ ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น
และร้อยละ ๑.๖๐ ระบุว่า เห็นด้วยกับกาสิโนเพียงอย่างเดียว
ชัดมั้ยครับ
ที่ไม่ชัดคือ ๘๐% ของทั่นรัฐมนตรี ทั่นได้แต่ใดมา
ขอดูข้อมูลชัดๆ หน่อย
