เปลว สีเงิน
เมื่อวาน…
รัฐบาลเพื่อไทยแจกรอบ ๒ คนละ ๑ หมื่น จำนวน ๓ ล้านคน ใช้เงินไป ๓ หมื่นล้านบาท
ผมไม่ถามหรอกว่า….
“สอดประสานขานรับที่ทักษิณเดินสายหาเสียงเลือกตั้ง “นายกอบจ.” ให้คนเพื่อไทย ป่าวประกาศแจกใช่หรือไม่?
หากแต่เพียงสงสัยว่า…
เมื่อธันวา.๖๗ “รอบแรก” แจกคนละ ๑ หมื่นไปแล้ว ๑๔,๔๕๐,๑๖๘ คน เป็นเงิน ๑๑๔,๕๐๑.๖๘ ล้านบาท
รวม ๒ แจก รัฐบาลเพื่อไทย ใช้เงินไปแล้วร่วม ๑ แสน ๕ หมื่นล้านบาท
ประกาศจะแจกรอบ ๓ ในเดือนมีนา.อีก ๑ หมื่นคน คนละ ๑ หมื่นบาท
เท่ากับว่า เดือนมีนา.ยังต้องใช้เงินแจกอีกประมาณ ๑ หมื่นล้านบาท
ผมก็ไม่ถามอีกเหมือนกันว่า “ไหนล่ะ..ที่ว่าแจกแล้วจะได้เห็นพายุหมุนเศรษฐกิจ?”
แต่จะถามว่า เงินแจกร่วม ๒ แสนล้านบาทนี้ รัฐบาลไปเอามาจากไหน เพราะไม่ใช่จากเงิน “งบประมาณ” ทั้งหมดแน่
ไป “กู้สถาบันการเงิน” มาแจกใช่มั้ย?
รัฐบาล โดยรัฐมนตรีคลัง “นายพิชัย ชุณหวชิร” คุณต้องบอกให้ชาวบ้านรู้
เพราะการ “กู้มาแจก” น่ะ พรรคเพื่อไทย “ได้คะแนนนิยม” แต่ชาวบ้านทุกคน “ได้หนี้” ต้องจ่ายแทนพรรคเพื่อไทย
ทั้งหมดร่วม ๒ แสนล้าน เรียกว่า “ได้กระดูกแขวนคอ” โดยไม่รู้ตัว
ยังไม่รวมที่จะกู้มาแจก ๔-๕ แสนล้าน ตามนโยบายประชานิยม “โกงมาแบ่งกัน”!
คิดแล้วก็สะใจคนไทย…
รัฐบาลมีเป็นแสนๆ ล้านแจกซื้อเสียง “แถมหนี้” ยันโคตร
มี ๑๔๐ ล้าน แจกเจ้าของรถไฟฟ้า ให้คนนั่งฟรี อ้างแก้ฝุ่น
มี ๕ พันล้าน ให้อุุ๊งอิ๊งผลาญโครงการ “ซอฟต์ พาวเวอร์”
มีอีกไม่รู้กี่ร้อย-กี่พันล้าน จะทำป้ายรถเมล์ติดแอร์แก้ฝุ่น
แต่แค่ ๖๐๐ ล้าน…..
ให้ “กรมฝนหลวง” ทำฝนเทียมแก้แล้งและดับฝุ่น pm2.5 รัฐบาลบอกไม่มี!
แต่ก็ถือเป็นบุญคุณคุ้มหัวคนไทยสุดที่จะเปรียบแล้ว ที่รัฐบาลเพื่อไทย ยังให้แบบเสียไม่ได้ตั้ง ๓๐๐ ล้าน กับงานแก้แล้ง ๗๗ จังหวัด!
ก็คนส่วนใหญ่เลือกมากะมือ-กะตีนให้เป็นรัฐบาลมิใช่หรือ ส่วนหนึ่งก็สะใจ-สมน้ำหน้า แต่ก็สงสาร-เห็นใจ คนอีกส่วน ที่ไม่ได้เลือก
ก็ต้องทนเถลือกไถลกันไป อยู่ได้-ก็อยู่, อยู่ไม่ได้ อยากไปไหน-ก็ไป แต่ไปอเมริกาตอนนี้ ถูกทรัมป์ถีบหัวคะมำกลับประเทศไม่ทันนะ จะบอกให้!
คนมีที่ไป เป็นที่ “หวังได้” แน่ๆ ตอนนี้ ผมว่า ไม่มีใครน่าอิจฉาเกิน “ทักษิณ”
เพราะเขามีตั้ง ๓ ทางเลือก
๑.อยู่จันทร์ส่องหล้า คอยกระตุกโซ่หมาในคอก
๒.กลับไปทำสมาธิในคุก และ
๓.มาช่องธรรมชาติ ก็กลับออกไปทางช่องธรรมชาติ
ก็อย่างที่บอกไป ๒-๓ ครั้งนั่นแหละว่า กฎหมาย “มียกเว้น” ได้ แต่ “กฎกรรม” ไม่มียกเว้น!
ตอนนี้ “กฎกรรม” ค่อยๆ บีบรัด “กระชับบ่วง” เข้ามาเรื่อยๆ หลายคนบอกเอื่อยช้า…ไม่ทันใจ
ที่ว่า “ช้างกระดิกหู-งูแลบลิ้น” ว่าเร็วแล้วนั้น ยังช้ากว่าใจคน สังเกตมั้ย อะไรที่ชอบ จะผ่านไปเร็ว แต่อะไรที่ชัง ผ่านไปช้าเหลือเกิน
ลองไปถามทักษิณซีว่า “ช้าหรือเร็ว” ที่ “นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ไปยื่นคำร้อง
ขอให้ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ไต่สวนฯ และออกหมายจับทักษิณมาขังไว้ตามหมายของศาลฯ
เนื่องจากที่ผ่านมา…….
“นายทักษิณ” ไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา ด้วยแทกติกส่งตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ
และศาลฯ นัดนายชาญชัย ให้ไปฟังคำสั่งเมื่อวาน (๒๗ ม.ค.๖๘)นั้น
นายชาญชัยไปฟังคำสั่งแล้ว ออกมาแจ้งสื่อมวลชน
“ศาลฯ อ่านคำสั่งว่า คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ จึงให้เลื่อนฟังคำสั่ง
และเมื่อมีคำสั่งเพิ่มเติมแล้ว ศาลฯ จะแจ้งให้ผู้ร้องมาฟังคำสั่งเพิ่มเติมในภายหลัง
โดยไม่ได้ระบุว่าจะมีคำสั่งในวันใด
และยังห้ามไม่ให้ผู้ร้องเผยแพร่หรือถ่ายภาพคำร้องฯ ใดๆ เพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี”
เราๆ ชาวบ้านฟังแล้ว อาจร้องเฮ้อ….ด้วยมะลำในหัวใจ แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผมเป็นทักษิณ พินิจแต่ละคำที่ศาลสั่ง
-คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ก็ดี
-ให้เลื่อนฟังคำสั่ง ก็ดี
-มีคำสั่งเพิ่มเติมแล้วศาลฯจะแจ้งให้ผู้ร้องมาฟัง “คำสั่งเพิ่มเติม” ในภายหลัง ก็ดี
-ห้ามไม่ให้นายชาญชัยเผยแพร่หรือถ่ายภาพคำร้องใดๆ เพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ก็ดี
บอกได้คำเดียวว่า……..
“ไข้ขึ้น”!
ยิ่งนายชาญชัยบอก “ศาลไม่ได้ระบุว่าจะมีคำสั่งวันใด”
ประโยคนี้ จะทำให้เจ้าตัวมีอาการเดียวกับนักโทษถูกตรึงเข้าหลักประหาร และถูกผ้าผูกตา
หรืออาการเดียวกับคนกลัวเข็มฉีดยา เหยียดแขนให้นางพยาบาลที่เตรียมเข็มแหลมๆ จ่อ พลางเบือนหน้าหนี
วินาทีที่รอคอย….
ว่าเมื่อไหร่ จะได้ยินคำสั่งว่า…ยิง
ว่าเมื่อไหร่เข็มแหลมในมือพยาบาลจะพุ่งจึ๊กใส่แขน
มันปวดร้าวทรมานหัวใจในการรอคอยยิ่งนัก ครึ่งเสี้ยววินาทีนั้น มันยาวนานในความรู้สึกกว่า “ครึ่งชีวิตคน” ซะอีก!
นี่ก็ไม่ต่างกัน ทุกเรื่องราว มันก็ไปตามเหตุปัจจัยแห่งเวลากรรม บางคนบอก..ช้าจัง
แต่ทักษิณและคนในครอบครัวรวมทั้งในคอกของเขาอาจบอกว่า…ทำไมมาถึงเร็วจัง ก็เป็นได้!
ผมจะไม่ “ถอดรหัส” แต่ละประโยคในคำสั่งศาลหรอก
แต่ขอบอกว่า…..
ถ้าผมเป็นทักษิณ “ไข้จับ” นอนคลุมโปง เส้นเอ็นหัวใจเปื่อยยุ่ย รักษา ๖ เดือนหรือ ๑ ปี ก็ไม่หาย ขนาดนั้นเลยแหละ!
และก็ช่างประเด-ประดัง….
เมื่อวาน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส” ไปให้การเพิ่มเติมกับป.ป.ช.ยืนยันถึงการป่วยทิพย์ของทักษิณ ตามที่เห็นตอนขึ้นไปเยี่ยมในห้องบนชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ
ตอนหนึ่ง ท่านให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงประเด็นนี้ ผมจะคัดลอกมาให้อ่านกัน
“วันนี้ยังมีประเด็นที่ว่า “ศาลฎีกาฯ” จะมีความเห็นให้ไต่สวนหรือเกี่ยวกับเรื่องที่กรมราชทัณฑ์หรือกระทรวงยุติธรรมส่งผู้ป่วยออกไปโดยไม่ขออนุญาตศาล มันผิดกฎหมายหรือไม่?
ศาลจะไต่สวน จะมีคําสั่งวันนี้ (๒๗ ม.ค.๖๘)
ลองไปติดตามกัน อันนั้นจะตื่นเต้นกว่าตรงนี้ ตรงนี้ยังไม่มีอะไรหรอก
“ตรงนี้พี่ก็มาให้ข้อมูล แล้วเดี๋ยวกรรมการต้องรวบรวมข้อมูลอีกเยอะเลย ต้องใช้เวลาอีกนาน
แต่ถ้าวันนี้ ถ้าสมมติศาลฎีกาฯ ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่าให้ไต่สวนแล้ว…โอ้โห เป็นเรื่องใหญ่เลย
เพราะถ้าศาลให้ไต่สวนนะ ศาลก็จะตั้งคณะผู้ไต่สวนขึ้นมา แล้วก็มีหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาเลย ว่าเอ๊ะ…การที่คุณส่งตัวคุณทักษิณไปเนี่ย คุณทําตามกฎหมายไหม?
“วิฯ อาญา มาตรา 246 ที่ผู้ที่ถูกหมายขังเนี่ยนะ ในกรณีที่ต้อง…เขาเรียกอะไร…ที่ต้องขอคุ้มครองชั่วคราว
เช่น ป่วยหรือจะคลอดลูกเนี่ย ไม่สามารถติดคุกได้ ตามหมายเนี่ย ต้องร้องขอต่อศาลเค้า
ไม่ใช่ไปส่งกันเอง-ทํากันเองใช่มั้ย ถ้าศาลเห็นว่า คุณไม่ขอศาลผิดกฎหมาย ศาลจําคุกได้เลย
ละเมิดอํานาจศาล เหมือนถุงขนมอ่ะ ล่อไปก่อน ก็ไต่สวน มีใครบ้างอ่ะที่ส่ง ใครที่ส่งผู้ป่วยไป โดยที่ไม่ขอศาลอ่ะ
กรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชัดเจน นายแพทย์ใช่มั้ย แล้วก็รัฐมนตรีเกี่ยวข้องหรือไม่ ก็ว่าไป
อยู่ที่ศาลจะไต่สวนแล้วได้ข้อเท็จจริงมาไหม อันนั้น สามารถจําคุกได้เลยนะ ๖ เดือน ฐานละเมิดอํานาจศาล
“แล้วยังไม่เกี่ยวกับป่วย-ไม่ป่วยด้วยนะ ข้อหาที่ไม่ขอศาลน่ะ เสร็จแล้ว เมื่อไต่สวน สมมติลงโทษไปแล้วนะ
อ้าว…แสดงว่าคุณทักษิณยังไม่ได้ถูกจําคุกนี่ ก็ออกหมายจําคุกใหม่ได้เลย ๑ ปี
ไม่เกี่ยวกับคดีที่ ป.ป.ช.จะสอบวันนี้ ป.ป.ช.จะสอบวันนี้ ก็ต้องรวบรวมแนวทางอีกเยอะ”
“ข้อมูลแพทย์ที่ได้เพิ่มเติมมาทักษิณป่วยวิกฤตถึงขั้นต้องต้องย้ายออกมามั้ย?”
นักข่าวถาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า
“จะป่วยวิกฤติได้อย่างไร ป่วยวิกฤติต้องมีการตรวจสมอง ตรวจหัวใจ ตรวจปอด ทุกอย่าง
แล้วมีไหม หนังสือยืนยันก็ไม่มี แค่อยากมาโรงพยาบาล ราชทัณฑ์ก็ไม่มี พอไปถึงโรงพยาบาลตํารวจนะ ป่วยฉุกเฉินหรือป่วยวิกฤต เขาก็ต้องยังไม่ส่งไปชั้น ๑๔ หรอก…ใช่มั้ย
ชั้น ๑๔ ต้องว่า รักษาเสร็จแล้วไปพัก เขาต้องเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงบาลตํารวจอีก ตรวจสมอง ตรวจหัวใจ นู่นนี่นั่น มีไหม ไม่มี ไม่มีก็ไปว่ากันดิ ใช่ไหม”
“ตอนที่ท่านเสรีพิศุทธ์ไปเยี่ยม นายทักษิณอาการเป็นอย่างไรบ้าง ฟิตมั้ย?” นักข่าวถาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า
“ฟิต…ฟิตกว่าผมตอนนี้อีก”!
…………………………….
ฟังคำสั่งศาลและฟังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ไปเป็นพยานยืนยัน “ป่วยทิพย์” กับป.ป.ช.อย่างนี้แล้ว
ชักไม่แน่ใจ ๒๙-๓๐ มกรา.นี้
ทักษิณจะไปยืนปราศรัยเป่าตูดคนเชียงราย-ลำพูน-เชียงใหม่ ให้เลือกคนเพื่อไทย เป็น “นายกอบจ.” ไหวมั้ย?
เพราะต่อให้ฟิตขนาดไหน พอรู้ว่า “ฎีกาคุก” จะมา “แข็ง-ขา” มันจะอ่อนเปลี้ยไปทันที
เหมือนเจอเมีย “ยืนถืออีโต้” ตอนหนีเที่ยว ยังไงก็ยังงั้น เชียวแหละ..คุณเอ้ย!
เปลว สีเงิน
๒๘ มกราคม ๒๕๖๘
