เปลว สีเงิน
มี “เรื่องใหญ่” ที่ผมต้องเกริ่นให้คนไทยทุกคนตื่นรู้
บัดนี้…ประเทศไทย….
ในความเป็น “ราชอาณาจักรไทย” บนหลักการ “ชาติ-ศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์”
“ไม่แน่นอน” แล้วครับ!
เพราะ “ประธานรัฐสภา” บรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ “พรรคประชาชน” โดยนายพริษฐ์ เป็นผู้เสนอ
เข้าระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว!
เนื้อหาหลัก “แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖” และเพิ่มเติม “หมวด ๑๕/๑”
“ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่”
แปลความตรงตัวคือ…
“พรรคประชาชน-เพื่อไทย” สมคบแก้มาตรา ๒๕๖ เพื่อตัดประเด็นการทำประชามติ, ตัดอำนาจสว.โหวต เพื่อไม่ให้เป็นก้างขวางคอ
แก้…โดยเพิ่มเติมหมวด ๑๕/๑
นี่เท่ากับ “ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน” ทิ้ง ผ่านการ “ตั้งสสร.เขียนใหม่” ทั้งฉบับ
ขอบอกว่า การเพิ่มเติมหมวด ๑๕/๑ มันคือ “เนื้องอกนอกรัฐธรรมนูญ” ชัดๆ
ในรัฐธรรมนูญ บอกเพียง “แก้ไขเพิ่มเติม” ได้เท่านั้น ไม่มีมาตราไหนบอกแก้เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับว่าทำได้
และไม่มีตรงไหนบอก “ให้ตั้งสสร.” เขียนใหม่ได้เลย
มีแต่บอกไว้ในมาตรา ๑๕๖ ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมให้ทำโดยรัฐสภาเท่านั้น
การที่ “ประธานรัฐสภา” นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคประชาชนบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา
ก็ไม่ต่างสนับสนุนการตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งเท่ากับสนับสนุน-ส่งเสริมให้ “ฉีกรัฐธรรมนูญ” ฉบับปัจจุบันทิ้งดีๆนี่เอง
ถ้าร่างแก้ไขเพิ่มเติมนี้ผ่าน ก็เท่ากับรัฐสภา “สนับสนุน-ส่งเสริม” ให้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ผลของมันคือ
หมวด ๑ บททั่วไป “ราชอาณาจักรไทย” สู่การ “แบ่งแยกได้”!
“หมวด ๒ พระมหากษัตริย์” ผู้ใดจะละเมิดมิได้ จะกล่าวหาหรือฟ้องร้องมิได้
ก็จะละเมิดได้ กล่าวหาและฟ้องร้องได้!
และหมวด ๑๕ กฎเกณฑ์และกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่นคุณสมบัติ/ลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ
หรือเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่-อำนาจของศาล ขององค์กรอิสระ ก็จะต้องถูกเปลี่ยนไป
เหล่านี้ ล้วนเป็น “หลักการสำคัญ” ที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคุ้มครองป้องกันไว้
ใครจะแก้ไข-เปลี่ยนแปลงไม่ได้!
แต่ที่กำลังทำกัน คล้ายสมคบกันใช้เล่ห์ “แก้กฎหมาย”
เพื่อ “ฉีกกฎหมาย” คือ “รัฐธรรมนูญ” ทิ้ง!
มันอาจเข้าข่าย “ล้มล้างรัฐธรรมนูญ” และผิดมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ หมวด ๑ เกือบทั้งหมวด ถือว่าร้ายแรงมาก
“เพราะร่างเพิ่มเติมหมวด ๑๕/๑ ของพรรคประชาชนนี้ ถ้าผ่านรัฐสภา….
เท่ากับรัฐสภามอบ “เช็คเปล่า” ให้ตัวแทนขบวนการล้มล้าง ในทีนี้คือ “สสร.”
“กรอกตัวเลข” ได้เองตามใจชอบ!
การที่ “ประธานวันนอร์” บรรจุร่างลักษณะนี้เข้าที่ประชุมรัฐสภา ทั้งที่เคย “ปฎิเสธ” มาก่อน ผมเดาเจตนาท่านไม่ถูก
๘ มกรา.นี้ ท่านนัดวิป ๓ ฝ่ายหารือ เพื่อเตรียมวาระการพิจารณา
ตามตารางที่เขาวาง “๑๔-๑๕ มกรา.” ไปถึงชั้นพิจารณาขั้น “รับหลักการ” ในวาระที่ ๑
พรรคประชาชน เขาประกาศ “ชนะยกแรก” ไปแล้ว
เท่ากับเวลานี้ “พรรคส้ม” คบคิด “พรรคแดง” ใช้รัฐสภาเป็นเครื่องมือเปิดประตู “กัดกร่อนบ่อนเซาะ” ไปสู่เป้าหมายล้มล้างสำเร็จแล้ว
ทะลวงไปสู่ด่านที่ ๒
“ฉีกรัฐธรรมนูญ” ฉบับปัจจุบันทิ้ง อ้าซ่าเจตนา “รื้อ-ล้าง-ล้ม” โครงสร้างประเทศปัจจุบันทิ้ง
ถ้าไปถึงขั้น “ตั้งสสร.” เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ นั่นถือว่าขบวนการล่มชาติ บรรลุ “ด่านที่ ๓” สุดท้ายแล้ว
-รูปแบบประเทศไทย ในความเป็น “ราชอาณาจักร” ที่ใครจะแบ่งแยกมิได้
ก็จะ “แบ่งแยก” ได้
-องค์พระมหากษัตริย์ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ก็จะละเมิดได้
“โครงสร้าง ๓ สถาบันอำนาจประเทศ” มีความน่าจะเป็นในด้าน ถูกจัดวางและกำหนดใหม่ ทั้ง “รูปแบบ” และ “อำนาจ”
พรบ. “ประชามติ” ที่สว. “สีน้ำเงิน” เป็นก้างขวางคอสส.ที่จะเอาชั้นเดียวแต่ไม่สำเร็จ จนต้องแขวนไว้ ๑๘๐ วัน นั้น
ก็ถูก “ร่างแก้ไขเพิ่มเติม” ฉบับพรรคประชาชน” นี้เตะกระเด็นไป!
อยากรู้กันละซี ว่า……..
ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับ “แยกกันอยู่-รวมกันตี” ระหว่างพรรคประชาชนกับเพื่อไทย ที่ประธานวันนอร์บรรจุเข้ารัฐสภา มีเนื้อหาสาระอย่างไร?
ปูพื้นคร่าวๆ ก็พอนะ เพราะมันจะยาวเกิน
“สำนักงานเลขาธิการสภาฯ” เผยแพร่เอกสารร่างแก้ไขนี้ ด้วยถ้อยสำนวน “เปิดเผยเจตนา” ผิดวิสัยสถาบันรัฐสภาพึงมี
ก็ดูสาระสำคัญที่เขาระบุเป็นเหตุผลซี….
“รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เพราะเชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร
ถูกรับรองโดยกระบวนการประชามติที่ไม่เสรีและเป็นธรรม รวมถึงมีบทบัญญัติหลายประการ ที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย
จึงสมควรแก้ไข โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่”
สาระสำคัญที่เขาแก้ ก็เห็นชัด มาตราไหนเป็นอุปสรรคต่อการไปสู่เป้าหมายล้มล้าง เขาแก้มาตรานั้นเลย
มาตรา ๒๕๖ หลักเกณฑ์การออกเสียงรับหลักการ “วาระแรก” และเสียงเห็นชอบใน “วาระสาม”
ที่กำหนดให้ใช้เสียงเห็นชอบ “ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง” ของสมาชิก “รัฐสภา” ที่มีอยู่
ก็แก้ โดยตัดเสียงเห็นร่วมด้วย “ของสว.” ไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ทิ้งไป เปลี่ยนเป็น “เสียงเห็นชอบจากสส.” ไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ แทน!?
ตัดเงื่อนไขการออกเสียง “ประชามติ” ก่อนทูลเกล้าฯ ถวาย ในมาตรา ๒๕๖(๘)
กรณี แก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์
-เรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรรมนูญ
-เรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออำนาจศาลหรือองค์กรอิสระ เรื่องที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้
รวมถึงแก้ความในมาตรา ๒๕๖(๙) …..
ที่ให้ สส.,สว.หรือสมาชิกทั้ง ๒ สภารวมกันเข้าชื่อ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ชี้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขัดต่อมาตรา ๒๕๕ หรือมีลักษณะตาม (๘)
เดิมใช้เกณฑ์เสียงไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐
ก็ปรับลดเหลือ ๑ ใน ๕ คือเอาให้สtดวกและชัวร์ ว่างั้นเถอะ
หมวด ๑๕/๑ ที่เพิ่มใหม่เป็นเนื้องอกในรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มี สสร. ๒๐๐ คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนด้วยกติกา บัตร ๒ ใบ
แบ่งเป็นเลือกแบบเขต โดยสมัครในนามบุคคล ๑๐๐ คน ให้ใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง
และเลือกแบบบัญชีรายชื่อ ๑๐๐ คน ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง
การเลือกแบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครต้องลงสมัครเป็นทีม ทีมละไม่น้อยกว่า ๒๐ คน แต่ไม่เกิน ๑๐๐ คน
คุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสสร.อายุตั้งแต่ ๑๘ ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย
ที่น่าสนใจเอามากๆ ตรง “ลักษณะต้องห้าม” ของผู้ลงสมัครเป็นสสร.
พรรคประชาชน นำบทบัญญัติการห้ามลงสมัคร สส.มาบังคับใช้ แต่มี “ข้อยกเว้น”
ตรง “ข้อยกเว้น” นี้ เห็นปุ๊บ…ขำปัสสาวะราด
มันร่างกากๆ ประจานเจตนาตัวเอง ทั้งตลก ทั้งขำ ทั้งทุเรศ เหมือนคนบ้าใส่สูท แต่แก้ผ้า แล้วรำกลางตลาด
คือ ร่าง “ยกเว้น” ให้….
-คนที่อยู่ระหว่างต้องห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
-คนที่อยู่ระหว่างถูกระงับ “การใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง” เป็นการชั่วคราว
-คนที่ “ถูกเพิกถอนสิทธิ” สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ได้รบการ “ยกเว้น” ด้านคุณสมบัติผู้สมัครเป็นสสร.
คือ คนเหล่านั้น ลงสมัครรับเลือกเป็นสสร.ได้!
ก็ “ระบุชื่อ-ระบุตัว” ลงไปเลยก็สิ้นเรื่อง ว่า …..
นายธนาธร, นายปิยบุตร, นางสาวพรรณิการ์ รวมทั้งกก.บห.พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตัดสิทธิลงรับเลือกตั้ง
ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสสร.ได้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน และกก.บห.พรรคก้าวไกล ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสสร.ได้
ครับ…ก็เกริ่นพอให้ “ตื่นรู้” ว่าขณะนี้ “ไอ้เสือสภา” มันกำลังปฎิวัติทางรัฐสภา หวัง “ยึดอำนาจประเทศ” สู่การล้มล้างและสถาปนาใหม่ทุกรูปแบบ!
โดยใช้คำว่า “แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ” เป็นฉากพรางตาการ “ปฎิวัติซ่อนรูป” โดยรัฐสภา สู่การฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง!
เรื่องนี้ ยังต้องคุยกันอีกหลายวัน แต่พรุ่งนี้ ขอแวบวัน แล้วจะกลับมา “คันตรงที่เกาค้าง” ต่อนะครับ!
เปลว สีเงิน
๖ มกราคม ๒๕๖๘