ยังมีคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงไก่ในปัจจุบัน ว่า การเลี้ยงไก่สมัยนี้ใช้เวลาแค่ 42 วัน ไก่ก็โตเต็มที่พร้อมจะจำหน่ายได้แล้วนั้น มันเป็นไปได้ด้วยหรือ?
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โดยระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไก่โตเร็วด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากทั้งการคัดเลือกสายพันธุ์ไก่ที่ดีขึ้น การพัฒนาอาหารไก่ให้ดีขึ้น รวมถึงกระบวนการเลี้ยงที่ดีขึ้น ทำให้ไก่โตเร็วขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเร่งโต
อาจารย์เจษฎ์ ยังได้พาไปหาคำตอบโดยตรงที่ฟาร์มไก่กรอกสมบูรณ์ จังหวัดปราจีนบุรี ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เพื่อให้เห็นวิธีการเลี้ยงไก่ในปัจจุบันทุกกระบวนการ ว่าการเลี้ยงไก่สมัยนี้ทำกันอย่างไร ยังมีการใช้ยาและฮอร์โมนต่างๆ อยู่หรือไม่ ทำไมไก่ถึงโตเร็ว เพียงแค่ 42 วัน ก็พร้อมส่งไปจำหน่ายได้แล้วทั้งที่ไม่ได้ใช่ฮอร์โมนเร่งโต
เริ่มจากการเข้าไปในฟาร์ม ทุกคนจะต้องต้องสเปรย์ยาฆ่าเชื้อโรค และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก่อน รวมทั้งต้องใส่ชุดปลอดเชื้อ ที่ทางฟาร์มจัดไว้ให้เท่านั้น ห้ามสัมผัสสัตว์ปีกก่อนเข้าฟาร์ม 72 ชั่วโมง และห้ามนำอาหารที่มีส่วนผสมของไก่และไข่เข้าไปในฟาร์ม
ไก่ที่เลี้ยงไว้ในโรงเรือนไม่ได้แยกเข้ากรงเป็นตัวๆ แต่จะเลี้ยงแบบ Cage free (ไม่มีกรง) มีอิสระเต็มที่ในโรงเรือนแบบปิด สามารถนอนเหยียดขาได้ตามสบาย เลี้ยงตามมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) 1 ตัว ไม่เกิน 39 กิโลกรัมต่อ 1 ตารางเมตร ใช้ระบบมอนิเตอร์ดูแลสุขภาพไก่ ทั้งตัวของไก่ ลักษณะการไอจาม การบริโภค อัตราการสูญเสียในแต่ละวัน มีทีมเดินดูตลอดเวลา ฯลฯ ที่สำคัญคือ ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู ไม่มีการฉีดฮอร์โมนและไม่ใช้ฮอร์โมนละลายน้ำ ใช้แค่วัคซีนปัองกันโรคที่ให้ไก่ตั้งแต่ที่โรงฟักลูกไก่แล้ว
ส่วนวิธีการที่ทำให้ไก่ที่เลี้ยงในฟาร์มโตเร็วและแข็งแรงโดยไม่ได้ใช้ฮอร์โมนนั้น ก็คล้ายกับการคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งโอลิมปิก ที่ต้องหาคนที่สุขภาพดีตั้งแต่เกิด มาพัฒนาให้เป็นนักกีฬาที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ด้วยการได้รับอาหารที่ดี เหมาะสมครบถ้วนตามวัย อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เอื้อต่อการเติบโตพัฒนาร่างกาย ให้มากที่สุด
ส่วนไก่ของซีพีที่ได้รับมาตรฐานการเลี้ยงไก่ในระดับส่งออก และส่งไปอวกาศได้นั้น มีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง โดยมีนายสัตวแพทย์ ดร.มนูศักดิ์ วงศ์พัชรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ วิจัยด้านชีวโมเลกุลและห้องปฏิบัติการ ผู้ที่อยู่ในโครงการนี้มาตั้งแต่ต้นมาให้ความรู้ ว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่สามารถผลิตไก่เนื้อและส่งออกได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ตามมาตรฐานโลก (global standard) จึงมีความพยายามที่จะสร้าง Inspiration ใหม่ในการพัฒนายิ่งขึ้น แสดงถึงความมุ่งมั่นไม่หยุดที่จะพัฒนา ด้วยคำว่า “ไก่ไทยไปอวกาศ” ซึ่งจะต้องส่งเนื้อไก่ไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร มากกว่า 40 รายการตามหลักเกณฑ์ของ Space Safety Standard ซึ่งประเด็นหลักๆ จะมีเรื่อง “สารตกค้าง” ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบเป็นประจำ และเรื่อง “เชื้อก่อโรค” ที่อาจจะทำให้นักบินอวกาศเจ็บป่วยได้ เช่น เชื้อแซลโมเนลลา ซึ่งต้องตรวจสอบหาเชื้อโรคในทุกการผลิต เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ก่อนถึงมือนักบินอวกาศ
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนานหลายปี เพื่อให้ไก่สด CP ผ่านมาตรฐานอาหารอวกาศ 5 ประการ คือ
1. นวัตกรรมทางการแพทย์ : มีการใช้เครื่องถอดรหัสพันธุกรรม รุ่นใหม่ next-generation DNA sequencer มาศึกษาเรื่องเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในร่างกายของไก่
2. โปรไบโอติกส์พลัส : พัฒนาเลือกสายพันธุ์เชื้อโปรไบโอติก มาเป็นอาหารเสริมในการเลี้้ยงไก่ ร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก หาเชื้อที่ทำงานได้จริงในร่างกายไก่ สร้างภูมิคุ้มให้ไก่จากภายใน และทำให้สำไส้ไก่แข็งแรง สุขภาพแข็งแรงขึ้น
3. นวัตกรรมการตรวจเชื้อโรคและสารตกค้าง : ใช้เครื่องพีซีอาร์ แบบ Real time PCR ที่สามารถตรวจหาเชื้อโรคที่อยู่ในอาหารสัตว์ ไม่ให้มีปนเปื้อนอยู่เลย / ส่วนเรื่องสารตกค้าง ก็จะใช้เครื่อง LC-MS/MS ที่มีความละเอียดถึงระดับ ppb (หนึ่งในพันล้านส่วน) ตรวจสอบทุกล็อตการผลิต
4. นวัตกรรม Farm Lab ที่ทันสมัยที่สุด : ใช้เครื่องวัดเมตาบอลิซึม วัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจที่ออกมาของไก่ เพื่อวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการใช้สารอาหารของไก่ ว่ามีการใช้อย่างเต็มที่หรือไม่ และเพื่อปล่อยเป็นของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้น้อยที่สุด
5. ฟาร์มเลี้ยงระบบปิด ป้องกันโรค 100% : เลี้ยงในโรงเรือนที่มีระบบปรับอากาศ ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความเข้มแสง ฯลฯ ปรับอัตโนมัติทั้งหมด โดยควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ มีกล้องมอนิเตอร์และสัตวบาลช่วยเช็คสุขภาพของไก่
สำหรับคนไทยจะได้รับประทานเนื้อไก่ที่ขายในประเทศไทย ในมาตรฐานแบบเดียวกันกับนักบินอวกาศ จากนวัตกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันในการเลี้ยงการดูแลไก่ ทั้งที่ส่งออกไปและที่ขายในประเทศไทย ทำให้คนไทยสามารถบริโภคได้อย่างมั่นใจ