วสท. สร้างต้นแบบ “ตู้ความดันลบ” ให้ รพ. ลดความเสี่ยงแพทย์พยาบาล…รวมพลังฝ่าวิกฤติ COVID-19

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ระดมพลังฝ่าวิกฤติไวรัส COVID-19  พัฒนานวัตกรรมต้นแบบ ตู้ความดันลบ (Negative Pressure Cabinet) สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรการแพทย์และโรงพยาบาลและรองรับผู้ป่วยติดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวันใน 59 จังหวัด

ทั้งนี้ วสท.ได้ส่งมอบตู้ความดันลบต้นแบบแก่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า และโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แล้ว และจะส่งมอบให้โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพพบกและโรงพยาบาลอื่นๆในลำดับต่อๆไป ประหยัดและประกอบติดตั้งได้เร็วภายใน 15 นาที มุ่งลดความเสี่ยงของบุคลากรการแพทย์ ผู้ป่วย และประชาชน ช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 โดยเร็ว และคนไทยสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขต่อไป

ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)  กล่าวว่า ที่มาของโครงการต้นแบบ ตู้ความดันลบ (Negative Pressure Cabinet) EIT-01-1/24032020 วสท.ในฐานะสมาคมวิชาชีพทางด้านวิศวกรรมที่มีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด ได้รับการติดต่อจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในการพัฒนาจัดทำห้องแยกการติดเชื้อทางอากาศความดันลบ  ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังขาดแคลน และสร้างไม่ทันต่อจำนวนผู้ป่วยที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น เพื่อนำร่องใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 มุ่งใช้เป็นห้องอเนกประสงค์บรรเทาความแออัดในสถานพยาบาล และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลุ่มเสี่ยง การกักตัว และใช้ในบ้านสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ วสท.ได้ทำต้นแบบตู้ความดันลบ และคู่มือผู้ใช้ ซึ่งภายในเล่มจะประกอบด้วย ข้อควรระวัง แบบมาตรฐาน วิธีการประกอบ วิธีการใช้งาน วิธีการดูแลบำรุงรักษา และอื่นๆ โดยแบบมาตรฐานนี้หน่วยงานรัฐ เอกชนและประชาชนสามารถนำไปผลิตใช้เองได้

แนวคิดและประโยชน์การใช้งานตู้ความดันลบ

1.เพื่อใช้เป็นห้องแยกความดันลบทั่วไปที่สามารถให้คนนั่งได้ 3 ถึง 4 คน หรือหนึ่งเตียงในสถานพยาบาล  เคหะสถาน และอื่น ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางอากาศ

2.เพื่อใช้ครอบเตียงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีโอกาสแพร่เชื้อ หรือติดเชื้อทางอากาศ 

3. เพื่อลดระยะห่างความปลอดภัยระหว่างเตียงผู้ป่วย และอำนวยความสะดวกแก่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการเข้าตรวจผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นต้องใส่ชุดป้องกันบุคคล

4.เสริมความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และประชาชนที่มาใช้บริการในโรงพยาบาล

5.เพื่อใช้งานทั้งภายในอาคารและในที่ร่มภายนอกอาคาร 

6. เพื่อสนับสนุนการใช้วัสดุภายในประเทศ และวัสดุที่เลือกใช้ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยในการใช้งาน ดูแลบำรุงรักษา และทำความสะอาดห้องได้โดยง่าย 

7. เพื่อเป็นมาตรฐานกลางให้กับหน่วยงานราชการและเอกชนนำไปใช้ในการจัดซื้อต่อไป

คุณบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิศวกรรมสนับสนุนต้านภัย COVID-19 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ตู้ความดันลบ (Negative Pressure Cabinet) ได้ออกแบบให้มีความปลอดภัยทางการแพทย์และวิศวกรรม ในการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั้งในและนอกสถานที่ โดยมีขนาด 1.30 x 2.60 x 2.20 เมตร เพียงพอที่จะใส่เตียงคนไข้ ความกว้าง ประมาณ 0.60 เมตร ยาว 1.90 เมตร และเสาน้ำเกลือสูง 2.10 เมตร หรือสามารถให้คนไข้นั่งได้ ถึง คน ตามระยะห่างความปลอดภัยต่อการแพร่เชื้อ  ห้องมีน้ำหนักเบาและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ใช้เวลาในการติดตั้งเพียง 15 นาที ใช้ต้นทุนประมาณ 8,500 บาท หากต่อเป็น 2 ยูนิตโดยใช้เสากลางร่วมก็จะยิ่งลดต้นทุนให้ต่ำลงอีก

สำหรับระบบโครงสร้างตู้ความดันลบ เป็นวัสดุภายในประเทศ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อการใช้งาน ดูแลบำรุงรักษา และทำความสะอาดห้องได้ง่าย วัสดุส่วนประกอบ ได้แก่ ท่อพีวีซีข้องอ 90 องศาข้อต่อสามทาง, ข้อต่อท่อรูกันซึมเกลียวเร่ง (Turnbuckle),  Clamp รัดสลิงเกลียวปล่อย และลวดสลิง ผนังคลุมด้วยแผ่นพลาสติกใสมาตรฐาน GMP หนา 60 ไมครอน ตู้ความดันลบนี้ต้องผ่านสองเงื่อนไขหลักคือความสะอาด และความดันห้อง ในส่วนความสะอาดของห้องจะมีการนำอากาศจากภายนอกห้องไหลเข้ามาเจือจางอากาศที่ปนเปื้อนภายในห้อง โดยใช้พัดลมดูดอากาศที่ด้านหัวเตียงคนไข้ในอัตราไม่น้อยกว่า 12 ครั้งต่อชั่วโมง(ACH) เพื่อนำอากาศที่เจือจางนี้ทั้งหมด (100%) ไปปล่อยทิ้งนอกอาคารในระยะห่างจากอาคารไม่น้อยกว่า 8.00 เมตร หรือปล่อยทิ้งที่หลังคาให้สูงอย่างน้อย 3.00 เมตร โดยไม่นำอากาศที่เจือจางนี้กลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งจะต้องไมให้อากาศที่เจือจางนี้สามารถไหลกลับเข้ามาในอาคารได้ระบบท่อระบายอากาศทิ้งนี้หากไม่สามารถติดตั้งให้มีระยะห่างจากอาคาร 8.00 เมตร หรือทิ้งที่หลังคาสูง 3.00 เมตรได้ ก็สามารถดัดแปลงให้ใส่เครื่องกรองอากาศประสิทธิภาพสูง(HEPA) ทำการฆ่าเชื้อก่อนระบายทิ้งสู่บรรยากาศได้ สำหรับในส่วนความดันห้องจะรักษาระดับความดันลบภายในห้องให้น้อยกว่า 2.5 ปาสกาล(Pa) เทียบกับความดันอากาศบริเวณโดยรอบ  ส่วนระดับอุณหภูมิอากาศภายนอกและภายในห้องให้แตกต่างกันไม่เกินบวกลบ องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ ผลการทดสอบสมรรถนะผ่านเกณฑ์มาตรฐาน  มีดังนี้

1.ความแตกต่างของอุณหภูมิของอากาศภายในห้องและภายนอกห้อง ก่อนเปิดและปิดพัดลม บวกลบไม่เกิน องศาเซลเซียส ผลการตรวจวัด: ผ่านการทดสอบโดยวัดอุณหภูมิภายนอกและภายในห้องวัดได้  32.4 – 32.5 องศาเซลเซียสใกล้เคียงกัน

2.การตรวจวัดการรั่วของอากาศที่รอยต่อผนังห้อง ผ่านการทดสอบโดยค่าความเร็วลมอ่านได้ศูนย์ และควันธูปไม่ไหลเข้าห้อง 

3. การตรวจวัดอัตราการไหลของอากาศเพื่อระบายอากาศภายในห้องไม่น้อยกว่า 12 ACH ผลการตรวจวัด: ผ่านการทดสอบอ่านค่าได้ 147.02 ลูกบาศ์กเมตรต่อชั่วโมง เท่ากับ 19 ACH

4. การตรวจสอบความดันลบของห้องไม่น้อยกว่า 2.50 ปาสกาล (Pa) อ่านค่าความดันลบภายในห้องได้ ถึง 12 Pa

ผู้ประสงค์จะรับแบบรายละเอียด ตู้ความดันลบ (Negative Pressure Cabinet) สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ วสท.www.eit.or.th หรือติดต่อได้ที่ คุณอรัญญา  ขาวสุวรรณ โทรศัพท์ 0-2935-650908-1914-0301  Email : [email protected]

วสท.ขอส่งกำลังใจให้บุคคลากรการแพทย์และประชาชนทุกภาคส่วน หลอมรวมพลังความร่วมมือฝ่าวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ด้วยความรักสามัคคี องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อสังคม

Written By
More from pp
เกษตรกร ให้ความสนใจ เข้าร่วมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีชุมชนต้นแบบ จ.น่าน พร้อมลด ละ เลิก การใช้สารเคมี โดยองค์ความรู้จากโครงการหลวง จัดโดย สวพส.
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ จังหวัดน่าน จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีชุมชนต้นแบบ (Field Day) การลด ละ เลิก การใช้สารเคมี โดยองค์ความรู้จากโครงการหลวง ช่วงระหว่างวันที่...
Read More
0 replies on “วสท. สร้างต้นแบบ “ตู้ความดันลบ” ให้ รพ. ลดความเสี่ยงแพทย์พยาบาล…รวมพลังฝ่าวิกฤติ COVID-19”