โฆษก มท. เผย มหาดไทยออกประกาศ 2 ฉบับ เปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท) จ.สระแก้ว พร้อมขยายเวลาเปิดด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ เพิ่มสัมพันธ์ หนุนมูลค่าการค้า ท่องเที่ยว 2 ประเทศ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ ระหว่างไทย – กัมพูชา ให้มีความใกล้ชิด แน่นแฟ้น และสนับสนุนมูลค่าการค้า การท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น
ฉบับแรกเป็นประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท) ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ลงนามโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.67 เป็นต้นไป
มีสาระสำคัญเป็นการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชาฯ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสตึงบท เมืองปอยเปต จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย กัมพูชา เปิดทำการระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น.ของทุกวัน ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก หรือด่านอรัญประเทศ สนับสนุนการขนส่งสินค้า เพิ่มมูลค่าการค้า การท่องเที่ยวชายแดนระหว่างกันมากขึ้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถารช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ลงนามโดย น.ส.แพทองธาร และ นายอนุทิน และมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 67 เช่นเดียวกับฉบับแรก มีสาระสำคัญ เป็นการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำเพิ่มอีก 2 ชั่วโมงต่อวัน จากเดิม 7.00 -20.00 น. เป็น 7.00 – 22.00 น. ของทุกวัน ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจการค้าในจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่เติบโตมากขึ้น
“การเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ รวมถึงขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรปัจจุบัน ทั้ง 2 แห่งข้างต้น สะท้อนถึงการเติบโตด้านการค้าและท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ต้องมีการขยายศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับ และยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติซึ่งจะยังประโยชน์ไปถึงประชาชนทั้ง 2 ประเทศในระยะยาว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว