'หมูเด้ง-อุ๊งอิ๊ง' #ผักกาดหอม -

ผักกาดหอม

ถ้าไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะหาว่าเชย

นิตยสารไทม์ ประกาศรายชื่อ ๑๐๐ บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต Time 100 Next ไปเรียบร้อยแล้ว

แยกออกเป็น ๕ หมวดหมู่ ประกอบด้วย ศิลปิน (Artists), ผู้สร้างปรากฏการณ์ (Phenoms), ผู้สร้างนวัตกรรม (Innovators), ผู้นำ (Leaders) และผู้ให้การสนับสนุน (Advocates)

ที่น่าสนใจคือในประเภทผู้นำนั้น มีชื่อของ “แพทองธาร ชินวัตร” รวมอยู่ด้วย

นิตยสารไทม์ ได้ระบุสรรพคุณของ “นายกฯ อิ๊งค์” ไว้พอกล้อมแกล้มว่า เธอได้สร้างประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคมที่ผ่านมา ไม่กี่วันก่อนวันเกิดปีที่ ๓๘ ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

และยังเป็นนายกฯ ผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดในเอเชียที่เคยมีมา

ไทม์บอกว่าการขึ้นดำรงตำแหน่งของเธอ ไม่ได้เป็นเรื่องน่าตกใจนัก เพราะเป็นลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร มหาเศรษฐี อดีตนายกฯ ไทยในปีที่ถูกโค่นอำนาจเมื่อปี ๒๕๔๙

นับแต่นั้น ลุง และ อาของเธอ ก็ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในประเทศไทย แต่ถูกแทรกแซงด้วยศาลและทหาร

ไทม์ว่าไว้แบบนั้น

แต่ที่ไทยเขาเรียกนายกฯ สืบสันดาน

ก็เป็นเรื่องปกติของสื่อตะวันตก อยากจะยกใครขึ้นมาก็จิ้มเอาตามใจนึก

ถ้าพูดถึงเมียนมาก็ต้อง อองซาน ซูจี

ถ้าพูดถึงจีนก็ยกผู้นำไต้หวันขึ้นมาชูให้ดูเหนือกว่า

สำหรับประเทศไทย ไทม์ก็เคยยกให้ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” “อานนท์ นำภา” เป็นผู้ทรงอิทธิพลมาแล้ว

ทิศทางมันเป็นแบบนี้

ก็อย่าไปว่าอะไรเขาเลย

แต่ถ้าจะติงก็มีนิดเดียว “มาดามแพ” เพิ่งเป็นนายกฯ ได้เดือนกว่า แทบไม่มีบทบาทอะไรเลย แต่ก็ยกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต อย่างเหลือเชื่อ

แปลตรงตัว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ต้องหมายถึง อนาคตอันไกลพอสมควร หมายถึง ๕ ปี ๑๐ ปี ไม่ใช่แค่ปีสองปีก็หายวับ

คำถามคือเป็นไปได้หรือที่ “มาดามแพ” จะเป็นผู้ทรงอิทธิพลในอีก ๕-๑๐ ปีข้างหน้า

ไม่ใช่ดูถูกนะครับ กับแค่เดินทางไปประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ ๓ ที่กรุงโดฮา กาตาร์ กลับมาแถลงข่าวที่ไทยนั่งเขี่ยไอแพดแล้วอ่านว่า ไปไหนมาบ้าง คุยกับใครบ้าง เรื่องอะไร

ปีหน้าจะอยู่รอดหรือเปล่า?

เห็นด้วยกับ “จตุพร พรหมพันธุ์” ที่บอกว่า

“…นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทยได้รับยกย่องมาแล้ว ๓ คน นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปี ๒๕๖๔ นายอานนท์ นำภา และปี ๒๕๖๖ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้วมาปี ๒๕๖๗ แพทองธาร ชินวัตร

สิ่งสำคัญคือ แต่ละคนที่กล่าวมามีใครรอดคดีการเมืองกันบ้าง ที่พูดเพื่อหวังให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งสบายใจขึ้นมาบ้างกับผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต

ธนาธร พรรคถูกยุบและถูกตัดสิทธิทางการเมือง ๑๐ ปี และยังมีคดีทางอาญา ถ้าเจอคำพิพากษาแล้วอนาคตก็สูญสิ้น

ส่วนอานนท์ นำภา ปัจจุบันอยู่ในเรือนจำและในอนาคตคงถูกโทษจำคุกเพิ่มหนักขึ้นอีก

และพิธา พรรคถูกยุบ ถูกตัดสิทธิการเมือง ๑๐ ปี ในอนาคตยังต้องคดีมีโทษตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิตรออยู่

สำหรับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง มีอะไรที่น่าดีใจหรือไม่ เพราะนิตยสารไทม์ยกย่องใครเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตล้วนมีเหตุทำให้ย่อยยับกันทุกคน

ดังนั้น ความภาคภูมิใจย่อมเหมือนชื่นชมคนป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งร่างกายจะดูเปล่งปลั่งจนเข้าใจว่าหายแล้ว ดังนั้น ในทางการเมืองเช่นเดียวกัน ไทม์ยกย่องใคร คนนั้นฉิบหายหมด…”

ก็ไม่ทราบว่าเป็นอาถรรพ์หรือไรกัน

แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

วันนี้ “มาดามแพ” ถูกนักร้องลากขึ้นเขียงก็หลายคดีอยู่

อนาคตไม่มีใครรู้ได้ครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เหมือนกรณี นายกฯ เศรษฐา อยู่ดีไม่ว่าดีตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี กลายเป็นตัวเองต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เป็นการร่วมรับผิดชอบกรณีไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรม

ฉะนั้นโอกาสที่ “มาดามแพ” จะตกเก้าอี้นายกฯ ในปีหน้าหรือปีถัดไปก็มีความเป็นไปได้

แต่จะให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตดูท่าจะยาก

อีกทั้งอิทธิพล-บารมี ในปัจจุบัน ก็ล้วนเป็นของพ่อทั้งนั้น

เหมือนที่โลกโซเชียลเขาแชร์กัน “หมูเด้ง” ลูกพ่อโทนี่ ดังไปทั่วโลกด้วยตัวเอง

ไม่ต้องใช้บารมีพ่อ

แต่สำหรับ “อุ๊งอิ๊ง” นั้น “พ่อโทนี่” จัดการให้แทบทุกอย่าง

ยกเว้นเลี้ยงหลาน!

จนเชื่อกันว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี ๒ คน

ไม่มีใครเชื่อครับว่า “อุ๊งอิ๊ง” จะสามารถบริหารประเทศโดยปราศจากการบงการของผู้เป็นพ่อได้

การครอบงำจะดำเนินต่อไปจนกว่า “อุ๊งอิ๊ง” จะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผิดกับ “หมูเด้ง” ราวฟ้ากับเหว

วันนี้ “หมูเด้ง” เข้าไปครอบงำแทบทุกวงการในโลกนี้