ในหลวง ทรงวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการสำนักงาน ศาลยุติธรรม

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567  เวลา 15.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดําเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทําการสํานักงาน ศาลยุติธรรม เลขที่ 55 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดย นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสํานักงาน ศาลยุติธรรม พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมชั้นผู้ใหญ่และข้ราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรมประจําสํานักงานศาลยุติธรรม เฝ้า ฯ รับเสด็จ

เมื่อเสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระพุทธยุติธรรมโลกนาถ ประทับพระราชอาสน์ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาส และพระวโรกาสให้ นายภพ เอครพานิช และนายเผ้าพันธ์ ชอบน้ําตาล รองเลขาธิการสํานักงาน ศาลยุติธรรม เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

จากนั้น นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลรายงาน พร้อมขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ฯ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทําการ สํานักงานศาลยุติธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน แผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางลงในหลุม เสด็จฯไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารที่ทําการสํานักงานศาลยุติธรรม

ต่อมาพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กราบบังคมทูลเบิกข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมและผู้มีอุปการคุณ จํานวน 120 ราย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเข็มที่ระลึก

จากนั้น นายไกรสร โสมจันทร์ ผู้พิพากษาศาลอุทธร์ประจําสํานักประธาน ศาลฎีกาเข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายแผ่นศิลาเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย เสร็จแล้วทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ เสด็จออกจากพลับพลาพิธี เข้าห้องประทับรับรองอาคารที่ทำการสํานักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลง พระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก แล้วทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม

ทั้งนี้ สํานักงานศาลยุติธรรมเป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระ มีอํานาจหน้าที่ เกี่ยวกับงานธุรการของศาลยุติธรรม โดยเมื่อศาลได้แยกออกจากกระทรวงยุติธรรมตามบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 แล้ว พระราชบัญญติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มีผลบังคับใช้ จึงได้ก่อตั้งสํานักงานศาลยุติธรรมและเริ่มปฏิบัติภารกิจนับตั้งแต่วันนที่ 20 ส.ค. 2543 เป็นต้นมา โดยภารกิจสําคัญรับผิดชอบงานด้านธุรการของศาลยุติธรรม รวมทั้งการส่งเสริมงานตุลาการ และงานวิชาการเพื่อเสริมสร้างให้การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรมทั่วประเทศเป็นไปด้วยความ สะดวก รวดเร็ว เท่าเทียม เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ แต่เดิมสํานักงานศาลยุติธรรมได้ใช้อาคาร ร่วมกับอาคารที่ทําการศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจุตจักร กรุงเทพมหานคร

กระทั่งวันที่ 11 ม.ค. 2567 สํานักงานศาลยุติธรรมได้ย้ายที่ทําการมายังอาคารสร้างใหม่ ขนาดใหญ่พิเศษ สูง 26 ชั้น เลขที่ 55 ถนนรัชดาภิเษก มีหน่วยงานสังกัดสํานักงานศาลยุติธรรมเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ จํานวน 20 สํานัก/กอง โดยอาคารที่สร้างใหม่มีความกว้างขวาง สง่างาม ผสมผสานองค์ประกอบภูมิสถาปัตยกรรม ที่ทันสมัยแสดงถึงการดํารงอยู่ขององค์กรตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

ทั้งนํารูปแบบของ “ดอกบัวไทย” ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ มาประยุกต์ใช้ในแกนของอาคารเพื่อแสดงออกถึง การคุ้มครองความบริสุทธิ์ ยุติธรรม อันเป็นภารกิจสําคัญของศาลยุติธรรม ขณะที่ด้านหน้าอาคารมีแนวเสาขนาดใหญ่ประดับเรียงกันเหมือน อาคารศาลทั่วไปอันเป็นรูปแบบการเชื่อมโยงกับอาคารศาลหลังอื่น ๆ ที่ล้อมรอบบริเวณข้างเคียงกัน และตรงจุดเชื่อมการสัญจรชั้นล่างกับชั้น 1 ยังได้ออกแบบผนังประดับป้ายชื่ออาคารซึ่งเป็นนลักษณะ อาคารในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพื้นที่ภายในอาคารชั้น 1 มีส่วนที่เป็นลานกว้างเพื่อรองรับผู้ที่มาติดต่อ ราชการและใช้สอยอาคาร ขณะที่ความทันสมัยในการออกแบบยังคํานึงถึงการประหยัดพลังงาน เลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานมีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถหาทดแทนได้ในอนาคตด้วย

Written By
More from pp
“ศุภชัย” ตอกกลับ “ชูวิทย์” ยัน ที่ดินเขากระโดง นับพันแปลงมีเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดิน โดยชอบ ซื้อขายหลายทอด กันเกือบทุกแปลง ไม่ใช่มีเพียง 2 แปลง
13 มีนาคม 2566 นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กรณีกล่าวหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่า
Read More
0 replies on “ในหลวง ทรงวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการสำนักงาน ศาลยุติธรรม”