เอาบุญมาฝากนายกฯ #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“มฤตยู” ร่วม “พฤหัส”
ตั้งแต่ช่วง “ปลายเดือน” นี้ เป็นต้นไป หมั่น “ถือศีล-บำเพ็ญทาน” กันไว้บ้างก็ดีนะครับ
และอย่าใช้ชีวิตประมาท!
สัปดาห์ที่แล้ว “พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก” ท่านมีกิจนิมนต์ในกรุงเทพฯ มาพักที่ “สวนแสงธรรม” พุทธมณฑล สาย ๓

ผมทราบข่าว ก็ไปนมัสการท่านและกราบเรียนถามถึงความคืบหน้าการสร้าง
“พิพิธภัณฑ์ปฎิปทาพระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ที่วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี

พระอาจารย์ก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า มีญาติโยมปวารณาเพื่อการสร้างไว้ ๕๐๐ ล้านบาท งานก่อสร้างก็ดำเนินไปด้วยดีตามลำดับ
ตอนนี้เงินเหลืออยู่ซัก ๓๐ ล้านบาท แต่งานนี้ กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ต้องใช้งบไม่หนี ๗๐๐-๘๐๐ ล้านบาท

ก็ได้อาศัยจากญาติโยมบริจาคสมทบเรื่อยๆ ก็พอทะยอยจ่ายค่าก่อสร้างหมุนเวียนไปเป็นงวดๆ ไป

สรุปว่า “เสร็จช้า-เร็ว” เป็นไปตามเหตุ-ปัจจัยจากศรัทธาญาติโยม ก็มีบางท่าน เคยปวารณาจะบริจาคไว้

ถ้ายังไม่ได้ไปทำตามที่ปวารณา ก็ถึง “การอันควร” แล้ว การก่อสร้างจะได้ไม่ต้องสะดุดหยุดชะงัก

“หลวงพ่อเป็นเพียงสะพานเชื่อมสร้างเพื่อบูชาคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ รวบรวมคำสอน “หลวงปู่มั่น” และปฎิปทาของท่าน ฝากไว้เป็นมรดกคู่แผ่นดินพระพุทธศาสนาและชาติบ้านเมืองไทยเท่านั้น ส่วนจะสำเร็จเมื่อไหร่ ก็อยู่ที่ญาติโยมนั่นแหละ”

“พระอาจารย์อินทร์ถวาย” ท่านบอกเช่นนี้ ผมก็นำมาถ่ายทอดต่อ และได้ร่วมบริจาคกับพระอาจารย์ไปด้วย

ท่านทั้งหลาย ขอได้ “ร่วมอนุโมทนา” ด้วยกันนะครับ

บางท่านอาจเข้าใจผิดว่า……
“ก็ไม่ได้ควักเงินร่วมถวายด้วย แล้วจะได้บุญ-ได้กุศลอย่างไร” ใครทำ-ใครได้ “มิใช่หรือ?”

ไม่ใช่หรอกครับ เงินทองแค่ “วัตถุ” ตัวแทน “จิตให้” เท่านั้น ไม่ใช่ตัวบุญ บางคนที่ทำบุญแบบเสียไม่ได้ แบบนั้น “เสียเงินเปล่า” ไม่ได้บุญหรอก

“บุญ” เกิดจากใจ “เอื้อเฟื้อ-แบ่งปัน” ด้วยเต็มใจให้ หวังช่วยเหลือเกื้อกูล ยังประโยชน์ให้สำเร็จกับผู้รับ มิได้หมายเฉพาะทางศาสนาเท่านั้น

ทาน คือ “การให้”

การให้นั้น ไม่จำกัดบุคคล-สถานที่ ให้กับใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ให้ความรัก ให้ความปราถนาดี ก็เป็นทาน ไม่จำเป็นต้องเป็นเงิน

ด้วย “ใจ” มุ่งปรารถนาดีนั้นแหละ คือ “ตัวบุญ”

การที่เราไม่ได้ร่วมบริจาคเงิน แต่จิตร่วมอนุโมทนา จิตที่ตั้งนั้น ก็มีพลัง เกิดอานิสงส์สุข เหมือนกัน-เท่ากันทุกประการ

เป็นดัง “พุทธวจนะ” ของ “สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ที่ว่า

“มะโนปุพพังคะมา ธัมมา มะโนเสฏฐา มะโนมะยา มะนะสา เจ ปทุฏเฐนะ ภาสะติ วา กะโรติ วา ตะโต นัง ทุกขะมะเนวะติ จักกังวะ วะหะโต ปะทัง”

ธรรมทั้งหลาย (หมายถึงตัวเรา-เปลว) มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ,

ถ้าบุคคลมีใจร้าย พูดอยู่ก็ดี ทำอยู่ก็ดี, ทุกข์ย่อมไปตามเขา ดุจล้อหมุนไปตามรอยเท้าโค ผู้นำแอกไปอยู่ฉะนั้น”

เห็นมั้ย…..
ทุกอย่างมีใจเป็นประธาน “สำเร็จ-ล้มเหลว” อยู่ที่ใจ!

ฉะนั้น แค่เราเห็นใครทำดี ร่วมยินดีไปกับเขา ใจเราก็เกิดปีติ จิตปีติ ย่อมประกอบด้วยสติ

แวบหนึ่งที่มีสัมมาสติ แวบนั้น เท่ากับอยู่บนสวรรค์

พระอาจารย์อินทร์ถวายบอกกับผมด้วยว่า….
ที่ “สวนแสงธรรม” พุทธมณฑล สาย ๓ เสาร์-อาทิตย์ ที่ ๒๔-๒๕ สิงหา.นี้ จะมีการทอดผ้าป่าสามัคคี

สมทบทุนร่วมสร้าง “พิพิธภัณฑ์ปฎิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ด้วย

โดยพระอาจารย์ เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์

ตอนบ่ายวันเสาร์ สวดมนต์ทำวัตรเย็น ฟังธรรมเทศนาและปฎิบัติภาวนา ๗.๐๐ น.วันอาทิตย์ ๒๕ สิงหา.
คณะสงฆ์ออกบิณฑบาตและถวายภัตตาหาร

๑๐.๐๐ น.ทอดผ้าป่าสามัคคี ถวายผ้าป่าสามัคคี สมทบสร้าง “พิพิธภัณฑ์ปฎิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต”

ผมขอร่วมอนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่ไปปฎิบัติธรรมและบริจาคทรัพย์ในวันนั้นล่วงหน้า

เพราะผมไม่ได้ไป ต้องไปยกฐาน “หลวงพ่อทวด” ส่วนหน้าตักเป็นปฐมฤกษ์ ก่อนยกครึ่งบนขึ้นประกอบเป็นองค์สมบูรณ์ ต้นปีหน้า

ที่ “วัดทรายขาว” ตำบลทุ่งหวัง จังหวัดสงขลา ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

ผมได้เชิญ “พลเอกนิพนธ์ ภารัญนิตย์” อดีตรองผบ.ทบ.และท่าน “บรรพต หงษ์ทอง” อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นประธานในพิธี

ฉะนั้น ต้องไปต้อนรับท่านและร่วมยกส่วนหน้าตักหลวงพ่อทวดกว้าง ๙ เมตร ขึ้นวางบนอาคาร ตอกตรึงให้แน่น ในวันนั้น

ได้คุยเรื่องบุญ-เรื่องทาน ที่ผมเป็นแค่สะพาน ให้ผู้อ่านไทยโพสต์ ควักเงินกว่า ๑๗ ล้านบาท นำไปสร้าง “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์

หลังจาก “หลวงพ่อผัน” เจ้าอาวาสวัดทรายขาวองค์ก่อนสร้างค้างไว้ “ครึ่งองค์” นานกว่า ๒๐ ปี
รู้สึก “บุญเกิด” ทันที เพราะใจปลอดโปร่ง เป็นสุข

ก็ขอแบ่งสุข จากร่วมสร้าง “พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น” และได้หล่อ “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์ครั้งนี้ให้ท่าน “นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร” ด้วย

เพราะขั้นตอน “ฟอร์ม ครม.”
คงต้องใช้ใจเสริมใยเหล็ก เข้มงวด ต่อการคัดกรองประวัติแต่ละคน ที่จะตั้งเป็นรัฐมนตรี ชนิดมาตรฐาน X ๒

จำไว้ให้ขึ้นใจ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ต้องหัด “ขัดใจพ่อ” ไว้บ้าง เพราะผิดพลาดนิดเดียว คนติดคุกหรือตกเก้าอี้ไม่ใช่พ่อ แต่เป็นตัว “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” เอง!

ทำไมผมจึงเน้นเรื่องนี้?

อุ๊งอิ๊งไปหยิบคำวินิจฉัยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคดี “อดีตนายกฯ เศรษฐา” เมื่อ ๑๔ สิงหา.มากางซิ แล้วผมจะชี้ “ลายแทง” สู่เส้นทาง “รอดคุก” ให้ดู

กางแล้วใช่มั้ย ก็จะเห็นที่ศาลฯตั้งเป็น “นะโม” ไว้ก่อนถึงคำวินิจฉัยให้เศรษฐา “ตกเก้าอี้” ว่า

เพราะเศรษฐา……..

-ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
-ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐(๔)
-มีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐(๕)

เนื่องจากเอาคน “ขาดคุณสมบัติ” และมี “ลักษณะต้องห้าม” คือ “นายพิชิต ชื่นบาน” ตั้งเป็นรัฐมนตรี!
ตัว “นะโม” ที่ศาลฯตั้งก่อนประหารนายกฯเศรษฐา มีดังนี้
………………….

“พิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญตามคำปรารภที่ว่า รัฐธรรมนูญนี้ วางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาด

เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล เข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ

จึงบัญญัติคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไว้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐

เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เพิ่มเติมจากลักษณะต้องห้าม ของบุคคลที่จะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๙”
———————

เนี่ย รัฐธรรมนูญฉบับนี้ “ดับเบิล ล็อก”….

เรื่องจริยธรรม คุณธรรม ธรรมาภิบาล ของคนที่จะเป็นรัฐมนตรีไว้ และศาลฯ ท่านเน้นให้เห็น “เป็นพิเศษ”

ฉะนั้น จะตั้งใครเป็นรัฐมนตรีเที่ยวนี้ อุ๊งอิ๊งต้อง “ทริปเปิล ล็อก” ขนาดนั้นเลย ไม่งั้น อาจชักแหงกๆ เอาง่ายๆ

คนประเภท เคยเข้าคุก-เข้าตะราง เพราะค้ายา หรือทุจริตคอร์รัปชันมาก่อน เคยเจอข้อหา “ปริญญาจ้างสอบ” หรือเคยมีพฤติกรรม “โลกะวัชชะ” คือ สังคมรังเกียจ

เหล่านี้ ก่อนจะตั้งใคร ต้องกรองให้ดี อย่าลืม…ตอนนี้ประเทศไทย อยู่ใต้เงา “ดาวมฤตยู” ไม่ใช่ดาวจันทร์ (ส่องหล้า)

“ดาวมฤตยู” เป็นตัวแทนแห่ง ความอาเพท ลึกลับ-ซับซ้อน เรื่องเก่าๆ-กรรมเก่า ถึงคราวให้โทษ

กระทั่งเรื่องราวเกี่ยวกับต่างประเทศ จะตกลงสัญญิงญากับใคร อย่ามุบมิบ-ผลีผลาม ห้ามด่วนตัดสินใจ

ถ้าเชื่อพ่อ-ทำตามพ่อสั่งมากๆ….
จะเจอคำว่า “ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” เอาง่ายๆ!

นี่ก็เพิ่ง “เข้าพรรษา” แต่ “วัดเพื่อไทยาทักษิณาราม” พออุ๊งอิ๊งขึ้นเป็น “เจ้าอาวาสหญิง” เท่านั้นแหละ

ดูข่าว เห็นญาติโยมมีจิตศรัทธาแย่ง “จองกฐิน” กันพรึ่บ
โยม “เรืองไกร” ดูท่า ศรัทธากว่าใครเพื่อน!

เปลว สีเงิน
๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
ฝันที่ (อาจ) เป็นจริงของไทย
“เสน่ห์” ที่ชวนค้นหา……… และเป็น “ยาต่อชีวิต” มนุษย์ได้ดีที่สุด คืออะไร ท่านทราบมั้ย? ไม่ต้องเดา จะบอกให้ “ความหวัง” ไงล่ะ!
Read More
0 replies on “เอาบุญมาฝากนายกฯ #เปลวสีเงิน”