นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาปลาหมอคางดำแพร่ระบาดในขณะนี้ว่า ขณะนี้ต้องให้กำลังใจพี่น้องชาวประมงทั้ง 16 จังหวัด สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการสางปัญหา
นายสะถิระ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีทั้ง 2 ท่านก็ได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาปลาหมอคางดำกินระยะเวลามา 8 รัฐมนตรีแล้ว ปัญหามันไม่ได้เกิดขึ้นวันนี้ แต่เราจะแก้ปัญหาอย่างไร อันดับแรกคือ บ่อเกิดของปัญหา นำเข้ามาอย่างไร และผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือใคร ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดย ร.อ.ธรรมนัส จะช้าหรือเร็วจะได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ส่วนสาระของตัวปัญหา ตนพูดถึงเรื่องวิชาการว่า ปลาหมอคางดำมีพฤติกรรมอย่างไร อันนี้คือ หน้าที่ของนักวิชาการที่ต้องมาถอดบทเรียน เพราะปัญหามันไม่ได้เกิดแค่วันนี้ แต่เกิดมา 10 ปี นักวิชาการต้องช่วยกัน รวมถึงภาคเอกชนก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาล ตนขอยกตัวอย่างกรณีศึกษาการจัดการปลาหมอคางดำในต่างประเทศ อย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาใช้สารเคมี
เช่น โรติโนน (Rotenone) เพื่อกำจัด แต่สารเคมีมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ ประเทศออสเตรเลีย ก็ใช้สารเคมี แต่ประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้ผ่อนผันเครื่องมือในการจับปลาหมอคางดำ ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ค.67 ระยเฃะเวลา 6 เดือน จับไปทั้งหมด 370,000 กิโลกรัม และจากข้อมูลที่ตนมียอดการจับปลาหมอคางดำรวมทุกวิธีเวลา 6 เดือน อยู่ที่ 564,789 กิโลกรัม
“ผมเชื่อว่า รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของทุก ๆ ฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งล่าสุดมีการออกกฎกระทรวงห้ามเพาะเลี้ยง ถ้าเพราะเลี้ยงปรับ 2 ล้าน ถามว่า จะมีใครกล้าทำหรือไม่ นี่คือแนวทางการแก้ปัญหาระยะยาวของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ผมมั่นใจว่า ทุกเหตุผล ทุกข้อเสนอ ร.อ.ธรรมนัสและนายอรรถกร พร้อมรับฟังข้อเสนอ และจะนำไปปฎิบัจิแน่นอน ซึ่งผมเชื่อว่า 8 รัฐมนตรีที่ผ่านมา จะมีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในยุคของรัฐมนตรีธรรมนัส และรัฐมนตรีช่วยอรรถกร“นายสะถิระ กล่าว