25 มิถุายน 2567 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สส.จังหวัดพัทลุง กล่าวว่าจากการที่โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนโดยตรง เกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนได้จัดหัวข้อ “ระดมความคิด ผลิตนโยบาย การจัดการน้ำ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภาคอีสาน“ ที่ จ.อุดรธานี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้สะท้อนปัญหาด้านภัยแล้ง ด้านภาวะโลกร้อนต่อพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ถือเป็นครั้งที่ 3 ของโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน โดยก่อนหน้านี้ได้จัดที่จังหวัดเชียงใหม่ในประเด็นฝุ่นควันภาคเหนือ และที่จังหวัดสงขลาในประเด็นเศรษฐกิจภาคใต้และทะเลสาบสงขลา
ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง ทั้งความร้อน ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลัน และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ปัญหาเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อประเทศทั้งในเรื่องความเป็นอยู่และเศรษฐกิจไทย ซึ่งแม้รัฐบาลจะแถลงนโยบายในประเด็นนี้ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรม และงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็อยู่ในสัดส่วนที่น้อยที่สุด สะท้อนว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร
ปัญหานี้จะยิ่งทวีคูณ หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไข โดยเฉพาะมีการคาดการณ์ว่าโลกจะร้อนขึ้น และรวนขึ้นอีก ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการบูรณาการหน่วยงาน เร่งผลักดันพรบ.สภาพภูมิอากาศเพื่อเป็นกลไกด้านกฎหมาย และจัดสรรงบประมาณด้านนี้ให้เพียงพอ โดยแนวทางที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ
1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เศรษฐกิจสีเขียว กลไกคาร์บอนเดรดิต และสนับสนุนการปลูหต้นไม้ โดยให้ประชาชนได้ผลประโยชน์มากที่สุด
2. ปรับตัวและรับมือโลกร้อน โลกรวน รัฐบาลต้องเร่งผลักดันแผนการปรับตัวในกรณีที่โลกจะร้อนขึ้น เพื่อรับมือและลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน เช่น การบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดเล็กที่ต้องกระจายไปทุกพื้นที่ การจัดการพื้นที่เกษตรกรรม และริมชายฝั่ง โดยต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
โครงการดังกล่าว ตนได้รับมอบหมายจากท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมโครงการในครั้งนี้ และได้รับข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนในหลากหลายประเด็น โดยจะนำไปผลักดันในกลไกของสภาฯ และในการกำหนดนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
