วัน “เริ่มต้น” สู่วัน “สิ้นสุด” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

วันนี้ ๑๘ มิถุนา.
ทุกคนคงส่ายสายตาล่อกแล่กไปที่ “ศาลอาญา” ที “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที

เพราะที่ “ศาลอาญา” ตอนเช้า
อัยการนัดนำตัวทักษิณไปส่งฟ้อง ในคดี ๑๑๒ แฟนานุแฟน จับจ้องกัน ๒ ประเด็น

ประเด็นแรก ทักษิณจะไปพบอัยการมั้ย?
ไปจ้าาา…ไป

ประเด็นที่สอง จะได้ประกันตัวมั้ย?
ได้จ้าาาา…ได้

ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญ มี ๓ เรื่อง เรื่องแรก เป็นเรื่องนายพิธาและพรรคก้าวไกลใน “คดียุบพรรค”

เรื่องที่สอง เรื่องจริยธรรมนายกฯ เศรษฐา กรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ตามที่ ๔๐ สว.ยื่นคำร้อง

ทั้งสองเรื่อง เพิ่งจบขั้นตอนให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องยื่นบัญชีพยานหลักฐาน เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาวินิจฉัย
ดังนั้น วันนี้ จะยังไม่มีคำตัดสิน

จะมีก็เพียงคอยฟังว่า ศาลท่านจะสั่งอย่างใดต่อไป เช่น นัดวันไต่สวน หรือนัดวันฟังคำพิจารณาวินิจฉัย เป็นต้น

เห็น “นายกฯเศรษฐา” ลาป่วย ๑๗-๑๘ มิ.ย.รวม ๒ วัน นัยว่าป่วยเป็นโควิด สายพันธุ์โคสิน

ก็ดีเหมือนกัน จะได้ใช้เวลา ๒ วันนี้ นอนทบทวนตัวเอง ว่าเป็น “เศรษฐา ทวีสิน” เศรษฐีขายบ้านจัดสรรอย่างเดิมดี หรือเป็น “เศรษฐา ม้าทรงสิน” สิ้นศักดิ์ศรี อย่างเป็นอยู่ตอนนี้ดี?

“สติมา…ปัญญาเกิด” นะท่านนะ!

เรื่องเดียว ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำพิจารณาวินิจฉัยวันนี้ คือ “พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๒ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๗ หรือไม่” เท่านั้น

สรุป….”วันนี้…ไม่มีอะไร”
“ฟันธง”!

แต่พรุ่งนี้ จะมีอะไรหรือไม่?
ไม่ “ฟันธง” ครับ!

พรุ่งนี้ ผมหมายถึง ตั้งแต่ ๑๘ มิ.ย. หลังทราบทิศทางแต่ละคดีทางศาลเป็นต้นไปแล้ว ถึงเดือนกรกฎา.ผ่อนผันให้จนถึงเดือนกันยา.

“อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ”

ท่านทั้งหลาย จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด”!

นี่พูดกันโดยปรมัตถ์เลยนะ “พรุ่งนี้” มันไม่มีอยู่ในโลกนี้หรือโลกไหนๆ ทั้งสิ้น
ที่มีอยู่จริง-มีอยู่แน่ๆ คือ “วันนี้”

ฉะนั้น ใครก็ไม่ต้องตะเง้อ-ตะเหงิ่งรอวันพรุ่งนี้หรอก รอจนตาย ก็ไม่มีวันพรุ่งนี้มาถึง

ที่มีแน่ พบแน่ ก็มีแต่ “ปัจจุบันขณะ “คือวันนี้ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ที่เป็นอยู่นี้เท่านั้น
ส่วนพรุ่งนี้ ไม่เคยมีมาถึงใครเลย!?

ฉะนั้น เราจงอยู่ดูโลกปัจจุบันให้มันโสภิณเถอะ ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ทุกขณะ ทุกนาที

นั่งคุยกันอยู่หลัดๆ แค่ลุกไปเข้าห้องน้ำ มอไซค์แหกโค้งพุ่งเข้ามาชนโครม เสร็จเลย ดังนั้น ประมาทอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น

เราคร่ำเคร่งกันอยู่แต่กับเรื่องทักษิณ เรื่องเก้าอี้นายกฯ เรื่องยุบพรรคก้าวไกล แล้วรู้มั้ย ว่าขณะที่เรามัวแต่จดจ่อกันอยู่นี่
“หายนะโลก” มันกรายมาใกล้ถึงหัวเราแล้ว!

คำว่า “เศรษฐกิจ” ไม่เคยมาเดี่ยว
มันจะมาคู่กับคำว่า “สงคราม” เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่มีคำว่า “สังคมโลก” แล้ว

เมื่อวาน (๑๗ มิ.ย.) หุ้นไทยยุครัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” ปิดตลาดที่ ๑,๒๙๖.๕๙ จุด ไหลรูดลงต่ำสุด

จากที่เคยขึ้นสูงระดับ ๑,๗๐๐ จุด ในยุครัฐบาลประยุทธ์ เมื่อวาน เป็นการตกลงไปต่ำกว่า ๑,๓๐๐ จุด เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษก็ว่าได้!

นักวิเคราะห์ตลาดเขาบอกว่า….
“นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการกลับเข้ามาซื้อในระยะใกล้ๆ นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศยังเป็นแรงกดดันอยู่”

คำว่า ขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย”
คำว่า “หุ้นไทยหมดเสน่ห์”……..

เพราะธุรกิจอุตสาหกรรมไทย “ตกยุค” พัฒนาไม่ทันทิศทางโลกด้านเทคโนโลยีไอที, ดิจิทัล และพลังงานสะอาด

และคำว่า ไทย…ประชาธิปไตยเลือกตั้ง ระบบคอร์รัปชันนิยม

แค่ ๑๐ เดือน “เพื่อไทยบริหาร” ทำให้คำเหล่านี้กลายเป็นสัญลักษณ์ “ประเทศไทย” ไปแล้ว ในตลาดการลงทุน!!!

นโยบายหลัก “รัฐบาลเศรษฐา” เพื่อการพัฒนาประเทศ ยุคดิสรัปท์ คือ
“กู้ ๕ แสนล้าน” ไปแจก!

แค่นั้นไม่พอ ยังเบียดบัง “งบลงทุน” ไปสมทบแจก

เมื่อไม่มีการลงทุน สภาพคล่องในระบบจึงเกิดภาวะ “ไฟตัน-น้ำมันช็อต”

หนี้พุ่ง โรงงานเจ๊ง คนตกงาน ของแพงทั้งแผ่นดิน ชาวบ้านไม่มีจะกิน แต่นักการเมืองพุงโร

เอาข้าวเก่าเก็บ ๑๐ ปี ยุคยิ่งลักษณ์รับจำนำและโกงกันทุกเมล็ดมาประมูลขายเพื่อส่งออก ทำลายมูลค่าภาพลักษณ์ข้าวไทย

บีบ “แบงก์ชาติ” ให้ลดดอกเบี้ย เป็นการแทรกแซงนโยบายการเงิน เขี่ยหนี้สาธารณะบางก้อนให้แบงก์ชาติเพื่อเปิดช่องให้รัฐบาลกู้เพิ่ม

ทั้งหลาย-ทั้งปวง เมื่ออยู่ภายใต้แบรนด์ “ทักษิณ” เจ้าของนโยบาย “โกงเอามาแบ่งกัน”

คำว่า Trust จึงหมดไป แค่ ๑๐ เดือนรัฐบาลเพื่อไทยบริหาร “ทุนไทย” ขนออก “ทุนนอก” ไม่มีเข้า
แล้วแบบนี้ ประเทศไทย “อนาคตอยู่ตรงไหน” ใครรู้ ช่วยตอบที!

มีสินค้าตัวเดียวที่รัฐบาลเพื่อไทยน่าจะผลิตขายคนสิบล้านได้ นอกจาก “ข้าว ๑๐ ปี” บรรจุถุงแล้ว น่าจะเป็น
“ประชาธิปไตย” ใส่ถุง!

รัฐบาลภาวะ “ลิงแก้แห” ไม่ทราบว่า ลืมตาดูความเป็นไปในสังคมโลกชั่วโมงนี้บ้างมั้ย?

ถ้าดู ไทยมีท่าทีตอบสนองอย่างไร ปรึกษาหารือ วางรูปแบบ-แนวทางรับมือกันหรือยัง?

และส่งสัญญานให้ชาวบ้านตระหนัก ก่อนที่จะตระหนกเมื่อมันตูมตามขึ้นมาฉับพลัน “อาจจะ” ภายในครึ่งปีหลังนี้ก็เป็นได้

สงครามเย็น “รัสเซีย” กับ “ยุโรป” ซึ่งมี “ยูเครน” เป็นสนามประลอง ขณะนี้ อุณหภูมิระดับ “ปรอทแตก” ใกล้จะถึงแล้ว!

ทั้งอาวุธระดับนิวเคลียร์ ทั้งเงิน “สหรัฐ-อังกฤษ” ขณะนี้ ทุ่มเต็มอัตรา ถ้าเป็นธนู น้าวคันศรเต็มล้าแล้ว

กลุ่มนาโตจัดทัพ….
รอเพียงคำสั่งเคลื่อน รัสเซียคือเป้าหมาย ๑๐ รุม ๑ ประเทศในยุโรป ประกาศระดมพล “เกณฑ์ทหาร” เข้าประจำการ ส่งสัญญานถึงประชาชนให้เตรียมตุนเสบียง!

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไทย-บ้านเราล่ะ?

เราน่ะ…ไม่เกี่ยวหรอก

แต่คำว่า มึงจะอยู่ฝ่ายไหน…จงบอกมา ข้าไม่ต้องการได้ยินคำว่า “เป็นกลาง” จากพวกมึง”!!!!

“พวกมึง” ก็ประเทศ”กระจ้อยร่อย-กระจิดริด” อย่างไทยเราด้วยนี่แหละ เราไม่เกี่ยวกับเขา แต่เขาจะมาเกี่ยวเรา นี่…โลกวันนี้ มันมาถึงจุดนี้แล้ว

ยิ่งใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกา.เท่าไหร่ “ทรัมป์-ไบเดน” ไม่เพียงจุดเป็น-จุดตายของสหรัฐฯเท่านั้น
ยังเป็น “จุดตาย” ยุโรปด้วย!

ยุโรปกลัวขี้ขึ้นสมอง กลัวว่า ถ้าปล่อยยูเครนแพ้ รัสเซีย “ยุคปูติน” จะไม่หยุดแค่นั้น จะต้องฟื้นอาณาจักรที่ล่มสลายกลับคืนแน่

ดังนั้น นาโต ๒๖ ประเทศ จึงต้องกั้นรั้วด้วยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ ส่งทหาร-ส่งเสบียง หวังอาศัยยูเครน “เป็นด่านหน้า” สกัดรัสเซีย ไม่ให้รุกคืบ

ยุโรปล่ม สหรัฐฯ ก็ล่ม ฉะนั้น ทั้งสองต้องกอดกันกลมงานนี้

วานซืน นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงมอบเงินให้นาย “เซเลนสกี” ผู้นำยูเครนอีกกว่า ๕ หมื่นล้านบาท ในวงประชุม “สุดยอดสันติภาพ” ที่เมืองลูเซิร์น สวิส!

ตอนนี้ ทั้ง “รัสเซีย-สหรัฐ” ต่างเดินสาย “สะสมพวก” ซึ่งก็บอกแล้วว่า “การค้า” มันคู่กับ “การสงคราม”

ไทยเป็นประเทศผลิต “สินค้าส่งออก” จะเล่นบท “สงครามไม่ยุ่ง มุ่งแต่ค้ากับทุกฝ่าย” ขืนพูดไปแบบนี้ เจอเกี๊ยะแน่!

แล้วรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อมองปร๊าดดดเข้าไป……..
เสียวแทนประเทศครับ!

ก็หวังว่า “พระสยามเทวาธิราช” จะสถิตอยู่กับ “คนกระทรวงต่างประเทศ” ในยามนี้ เป็นกรณีพิเศษ

วันนี้ คุยแค่นี้ และคงไม่ได้คุยกะท่านอีกซัก ๒ วัน เพราะจะไปนอนเกาหิดเล่นที่ห้อง “รอยัล สวีท” น่ะครับ

วานซืน มีพระบรมราชโองการ
ประกาศ “พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าและเหรียญรัตนภรณ์”

ขอแสดงความยินดีกับรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล”
ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “ทุติยจุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า”

ทั้งได้รับพระราชทาน “เหรียญรัตนภรณ์” ชั้นที่ ๓ ซึ่งมี ๒ ท่าน ที่ได้รับพระราชทาน

๑.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
๒.นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ศุกรที่ ๒๑ มิถุนา.ออกจาก “รอยัล สวีท” แล้ว ค่อยมาคุยกันนะครับ!

เปลว สีเงิน
๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๗

 

Written By
More from plew
อุตสาหกรรมภาพยนต์-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “ป่วย-เป็นโรค ๓ แข็ง” “ไหล่แข็ง-คอแข็ง-บ่าแข็ง” ร้าวลามลงไปถึงสันหลัง นอกนั้น “นิ่มป๋อย” ทั้งเนื้อ-ทั้งตัว เหมือนยางรถแตก ยังดีนะ...
Read More
0 replies on “วัน “เริ่มต้น” สู่วัน “สิ้นสุด” #เปลวสีเงิน”