รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผยอยากให้เรื่องบุ้ง เป็นอุทาหรณ์ไม่ให้มีใคร ตกเหยื่อทางการเมืองอีก ระบุ พรรคการเมืองไม่ควรดึงเยาวชน มาเป็นเครื่องมือ เคลื่อนไหวเรื่องสถาบัน
17 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมโรงแรมไชยแสง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเปิดงานประชุมใหญ่สาขาพรรคภาคกลาง จังหวัดสิงห์บุรี เวทีประชารัฐร่วมใจเพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ
โดยนายชัยวุฒิ กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมประจำปีของสมาชิกพรรคที่จังหวัดสิงห์บุรีเรียบร้อยดี เป็นการประชุมและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนเพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป
ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนให้ความสนใจอยู่แล้วพยายามแก้ไขอยู่ แต่การเคลื่อนไหวบางเรื่องมันเลยต่อเรื่องการเมืองเป็นการทําผิดกฎหมาย เช่น การผิดมาตรา 112 เป็นการจาบจ้วงสถาบัน อาฆาตมาดร้ายสถาบันนั้นมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งก็ถูกดําเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม
ผมก็เห็นใจผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน หลายคนก็เป็นเหยื่อของขบวนการแก้ไขมาตรา 112 ผมเห็นใจทุกคน เพราะว่าหลายคนผมได้พูดคุยสอบถามก็ไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือถูกกระทำจากสถาบัน แต่ถามว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรไม่มี แต่ถูกยุยงปลุกปุกปั่นให้เกิดความเข้าใจที่ผิด ได้ออกมาเคลื่อนไหวจนตัวเองเดือดร้อนต้องถูกดําเนินคดี ก็เห็นใจทุกคน แต่ไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เพราะว่าเป็นเรื่องของกระบวนการที่มีการดําเนินการในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่เกี่ยวกับการเมือง
และที่สําคัญมีหลายคนไปพูดว่ากระบวนการยุติธรรมเราบิดเบี้ยวไม่ให้ประกันตัว ผมก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ก็เข้าใจว่าทุกคนก็เคยได้รับการประกันตัว เพียงแต่ว่าบางคนมีเงื่อนไขไม่ให้ทำผิดซ้ำ คือไม่ให้ไปกระทำความผิดอีก ซึ่งหลายคนก็ได้รับการประกันตัว แต่กลับไปทําผิดซ้ำอีก ขัดคําสั่งของเรื่องการประกันตัว ก็ต้องถูกจับเข้าไปในคุกใหม่ ซึ่งอันนี้ก็เห็นใจน้องๆ
แต่บางคนที่รับการประกันตัวก็หนีไปแล้ว เช่น ไมค์ระยองก็หนีไปแล้ว ผมว่าหลายสิ่งหลายอย่างขบวนการนี้มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายแล้วก็มีการทําผิดซ้ำ ถ้าเราไม่เข้าใจและปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้ดําเนินการต่อไปเรื่อยๆ ผมว่ามันจะกระทบกับความมั่นคง กระทบกับจิตใจของคนไทยหลายๆคนที่เขารับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้