“ชัย” ท้าพิสูจน์ ข้าว 10 ปี จากโกดังสุรินทร์ มีสาร Alfa Toxin เกินค่ามาตรฐานจริงหรือไม่

โฆษกรัฐบาลเชิญชวนสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์ความจริง ข้าวในโครงการรับจำนำฯ จากโกดังที่สุรินทร์มีสาร Alfa Toxin จริงหรือ พร้อมตั้งคำถามจากกระบวนการเก็บตัวอย่างข้าว การตรวจสอบข้าว ขอให้นำผลทดสอบที่เป็นทางการมายืนยัน ไม่ต้องการเห็นขบวนการทำลาย ลดคุณค่าข้าวในโกดัง เพราะคือสมบัติของชาติ เชื่อมั่นหากข้าวมีคุณภาพไม่ผ่านพ่อค้าจะไม่ซื้อ

11 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนสื่อมวลชนพิสูจน์ความจริง กรณีการตรวจสอบข้าวโกดังที่สุรินทร์ ว่ามีปริมาณสารพิษ Alfa Toxin เกินค่ามาตรฐานจริงหรือไม่

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ข้อสังเกต จากกรณีที่มีการนำเสนอคลิปแสดงผลการตรวจสอบตัวอย่างข้าวจนเป็นกระแสข่าวว่าข้าวในโครงการรับจำนำฯ ซึ่งเก็บไว้ 10 ปี มีสารพิษ Alfa Toxin ถึง 20 ppb นั้น

โดยขอตั้งคำถามกรณีมีการอ้างอิง จากคำสัมภาษณ์ของอาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด ว่าได้ตรวจตัวอย่างข้าวจากนักข่าวช่อง One และนำมาตรวจสอบซ้ำ 3 รอบแล้วพบว่า มี 1 รอบที่ตรวจเจอสารพิษ Afla Toxin อยู่ในระดับ 20 ppb ดังนี้

1 ขอคำยืนยันว่า เป็นตัวอย่างข้าวที่ได้มาจากโกดังที่สุรินทร์หรือไม่ และท่านได้ตัวอย่างมาอย่างไร เพราะจากการตรวจสอบไม่มีการมาเก็บตัวอย่างข้าวที่โกดัง

2 วิธีการเก็บตัวอย่างข้าว เป็นการเก็บตัวอย่างข้าวจากแหล่งไหน และนำไปตรวจที่ Lab ใด เป็นการสุ่มเก็บ ตัวอย่างที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ หรือไม่

3 กรณีที่กล่าวอ้างว่าตรวจซ้ำ 3 รอบนั้น หมายถึงตรวจจากตัวอย่างเดียวหรือ จาก 3 ตัวอย่าง

4 ผลการตรวจ 1 ใน 3 รอบ พบ Alfa Toxin ในระดับ 20 ppb จริงหรือไม่ แล้วอีก 2 รอบที่ตรวจไม่เจอหมายความว่าอย่างไร

5 ยืนยันไหมว่า Alfa Toxin ที่ระดับ 20 ppb เป็นอันตรายมาก?

พร้อมกันนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ภาพที่ปรากฏในข่าว (ที่อ้างอิงโดยได้แนบภาพมาพร้อมกันนี้) เป็นเทสต์ที่ระบุว่าผลเป็นบวก (Positive) มี Alfa Toxin ระดับ 20 ppb ใช่หรือไม่ เนื่องจากภาพที่แนบคู่มากับข่าวแท้จริงแล้วเป็นภาพผลทดสอบที่เป็นลบ (Negative)

“เชิญชวนให้สื่อมวลชนร่วมกันพิสูจน์ความจริง โดยต้องการให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นผู้ตรวจ การพูดให้ข่าวและใช้กระบวนการทางโซเชียลมีเดียไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย รังแต่จะสร้างความสับสนกังวลใจให้ประชาชน กระบวนการทำลายล้างกันทางการเมืองควรยุติลงได้แล้ว เมื่อข้าวในโกดังนำมาขายได้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะคืนทรัพย์สินของแผ่นดินแปรเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อพัฒนาประเทศ” นายชัย กล่าว

Written By
More from pp
UNESCO ประกาศให้ จ.เพชรบุรี ของไทยเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก ประจำปี 64 (UNESCO Creative Cities Network) ในด้านเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ City of Gastronomy
สำหรับจ.เพชรบุรี ถือเป็นเป็นเมือง 3 รส และเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของประเทศใน 3 อย่างคือ การผลิตเกลือ การปลูกและผลิตน้ำตาลจากตาลโตนด และเป็นแหล่งปลูกมะนาวที่รสชาติที่ดี่สุด
Read More
0 replies on ““ชัย” ท้าพิสูจน์ ข้าว 10 ปี จากโกดังสุรินทร์ มีสาร Alfa Toxin เกินค่ามาตรฐานจริงหรือไม่”