ทช.เกาะติดสถานการณ์ “สัตว์ทะเลหายาก” เกยตื้น มาเรียมอาการทรงตัว เตรียมแผนเคลื่อนย้ายยื้อชีวิต

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ของ ทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ “มาเรียม” พะยูนน้อยหลงฝูง จนเกิดกระแสการอนุรักษ์พะยูน สัตว์ทะเล รวมถึงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในหมู่คนไทยอย่างแพร่หลาย ขณะที่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเจ้าหน้าที่ยังได้ให้ความช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เช่น พะยูนหลงฝูง “ยามีล”, เต่าทะเลบาดเจ็บ และ “โฮป” ลูกวาฬหัวทุยแคระ ซึ่งถูกพบเกยตื้นพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

ดังนั้น ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้มีการลงพื้นที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา  เพื่อติดตามสถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก และความคืบหน้าการฟื้นฟูสัตว์ทะเลที่ได้รับความช่วยเหลือ

สำหรับลูกพะยูน “มาเรียม” นั้น อายุประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ถูกพบพลัดหลงจากแม่มาเกยตื้นในพื้นที่ ต.คลองม่วง อ.เมือง จ.กระบี่ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2562 โดยขณะนี้ได้รับการดูแลอยู่ที่บริเวณแหล่งหญ้าทะเล ใกล้เขาบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งล่าสุดมาเรียมถูกพะยูนตัวผู้ไล่บริเวณแหลมปันหยัง ซึ่งเป็นช่วงน้ำลง และช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ทำให้มาเรียมเกิดอาการตกใจจนตัวสั่น หรือ ช็อก 2 วันที่ผ่านมา มาเรียมไม่กินนม และกินหญ้านิดหน่อย เมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค.เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น สัตวแพทย์ต้องฉีดยากระตุ้นหัวใจทำให้อาการมาเรียมในตอนนี้อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ท่านรัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้มีการสั่งให้ระดมทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลมาเรียมอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้มาเรียมมีอาการทรงตัวแล้ว สำหรับแนวทางการดูแลมาเรียม คือ 1) บ่อสำหรับดูแลชั่วคราว แต่เรายังไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดนั้นได้เนื่องจากจะต้องดูแลให้อาการคงที่มากที่สุดแล้วค่อยเคลื่อนย้ายมาเรียมได้ ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นเราจะทำการย้ายไปยังส่วนที่ 2 คือ วิทยาลัยราชมงคลในจ.ตรัง และส่วนที่ 3 คือศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ที่เป็นบ่อใหญ่และมีความพร้อมมากพอสมควร ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมช่วยเหลือและให้กำลังใจมาเรียมกันอย่างใกล้ชิด

สำหรับลูกพะยูน “ยามีล” อายุประมาณ 3 เดือน ถูกพบพลัดหลงจากแม่มาเกยตื้นบริเวณบ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ในสภาพอ่อนแรงและมีรอยแผลฉกรรจ์ตามร่างกายกว่า 50% จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทำให้ไม่สามารถส่งไปอนุบาลในพื้นที่เปิดได้เหมือนกรณีของ “มาเรียม” โดยเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้าย “ยามีล” มาดูแลที่บ่อเลี้ยงในระบบปิดของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ศวทม.) จ.ภูเก็ต

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ดูแลทั้งด้านโภชนาการด้วยการให้นม อาหารเสริม และหญ้าทะเลในปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งมีรักษาบาดแผลและตรวจวัดสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ การทำงานของทางเดินอาหาร และการขับถ่าย โดยปัจจุบันพบว่า สุขภาพทั่วไปแข็งแรงขึ้น ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับปกติ รอยด่างขาวบนร่างกายซึ่งเกิดจากภาวะความเครียดลดลง การขับถ่ายและการหายใจปกติ สามารถว่ายน้ำได้ดี อย่างไรก็ตามยังคงต้องได้รับการดูแลและสังเกตการณ์ในระบบปิดต่อไปอีกระยะ ก่อนพิจารณาแนวทางการฟื้นฟูในลำดับต่อไป

ส่วนกรณีลูกวาฬหัวทุยแคระ “โฮป” เจ้าหน้าที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 หลังได้รับแจ้งพบวาฬหัวทุย 2 ตัว มาเกยตื้นบริเวณชายหาดบ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงเข้าให้ความช่วยเหลือ แต่เมื่อไปถึงพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว 1 ตัว เป็นวาฬเพศเมียความยาว 2.40 เมตร หนัก 150 กก. ส่วนอีกตัวคือ “โฮป” คาดว่าเป็นลูกของตัวที่เสียชีวิต เป็นวาฬเพศผู้ความยาว 110 ซ.ม. หนัก 15 กก. จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายมาอนุบาลที่ ศวทม.ภูเก็ต

ทั้งนี้ จากระยะเวลาสิบกว่าวันที่ได้ทำการอนุบาล เบื้องต้นพบว่า “โฮป” อยู่ในสภาพร่างกายที่อ่อนแรงมาก ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับที่ถือว่าผอมกว่าปกติ พบรอยแผลถลอกที่เกิดจากการเกยตื้นหลายแห่งบริเวณส่วนหัวและลำตัว ไม่พบการอุจาระ แต่ยังสามารถปัสสาวะได้ตามปกติ ซึ่งแนวทางการรักษาที่วางไว้ในเบื้องต้น คือ การให้นมทดแทนในปริมาณความเข้มข้น 25% พร้อมทั้งให้วิตามินและอาหารเสริมพลังงาน รวมทั้งมีการให้ยารักษาตามอาการ เช่น การให้ยาปฏิชีวนะรักษาอาการอักเสบ ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน และการแก้ภาวะขาดน้ำ ซึ่งในภาพรวมมีแนวโน้มของอาการที่ดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป” อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว

Written By
More from pp
ธนชาตประกันภัย รับรางวัล Prime Minister Road Safety Awards 2565 ตอกย้ำความมุ่งมั่นโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย”
ธนชาตประกันภัย ได้รับคัดเลือกเป็นองค์กรเอกชนที่มีผลงานดีเด่น ด้านความปลอดภัยทางถนน Prime Minister Road Safety Award ประจำปี 2565 งานสัมมนาวิชาการความปลอดภัยทางถนนระดับชาติ ครั้งที่ 15ตอกย้ำความสำเร็จซึ่งเกิดจากแรงขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องของโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” พร้อมขอบคุณทุกชุมชนและเครือข่าย ร่วมสร้างกลไกจัดการความเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนสายรองได้ตั้งแต่ต้นทาง จนทำให้ปลายทางกว่า 30 ชุมชน สถิติอุบัติเหตุลดลงกลายเป็นศูนย์
Read More
0 replies on “ทช.เกาะติดสถานการณ์ “สัตว์ทะเลหายาก” เกยตื้น มาเรียมอาการทรงตัว เตรียมแผนเคลื่อนย้ายยื้อชีวิต”