มะเร็งผิวหนังเป็นโรคที่พบได้บ่อยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งหรือได้รับแสงแดดจัดโดยไม่ป้องกัน รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดและแหล่งอื่น ๆ เช่น เตียงอาบแดด (tanning bed) ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้
นายแพทย์ศิวัตม์ เสรีโรดม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายว่า ชนิดของมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อย ได้แก่
Basal Cell Carcinoma (BCC): โตช้า มักไม่แพร่กระจาย แต่หากปล่อยไว้สามารถทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้
Squamous Cell Carcinoma (SCC): โตเร็วกว่าชนิด BCC และมีโอกาสแพร่กระจาย
Melanoma: เป็นชนิดที่รุนแรงที่สุดและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากตรวจพบในระยะลุกลาม
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
ผู้ที่มีผิวขาว ผิวไหม้ง่าย มีไฝหรือปานจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ ล้วนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะหากต้องสัมผัสแสงแดดจัดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน
การตรวจพบระยะเริ่มต้นสำคัญที่สุด
มะเร็งผิวหนังมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก อาจดูเหมือนเพียงรอยแผลที่ไม่หายหรือไฝที่มีลักษณะเปลี่ยนไป การตรวจพบและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นช่วยเพิ่มโอกาสหายขาด ลดการสูญเสียผิวหนัง และหลีกเลี่ยงการลุกลามไปสู่อวัยวะอื่น
Mohs Micrographic Surgery – การผ่าตัดที่แม่นยำสูง
หนึ่งในเทคนิคการรักษามะเร็งผิวหนังที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกคือ Mohs Micrographic Surgery ซึ่งผสมผสานการผ่าตัดและการตรวจชิ้นเนื้อแบบเรียลไทม์ ศัลยแพทย์จะตัดชั้นเนื้อเยื่อที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งออกทีละชั้น และตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ทันที หากยังพบเซลล์มะเร็ง จะตัดเฉพาะบริเวณที่มีเซลล์ผิดปกติเพิ่มจนแน่ใจว่ากำจัดได้หมด วิธีนี้จึงสามารถรักษาเนื้อเยื่อปกติไว้ได้มากที่สุด
จุดเด่นของ Mohs Surgery
ให้อัตราการหายสูงถึงกว่า 99% ในมะเร็งผิวหนังบางชนิด
ลดการสูญเสียเนื้อเยื่อที่ไม่จำเป็น เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องคงความสวยงาม เช่น ใบหน้า รอบตา หรือริมฝีปาก
ใช้ได้ดีในกรณีที่มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำหรือมีขอบเขตไม่ชัดเจน
มะเร็งผิวหนังแม้ดูเหมือนโรคที่ไกลตัว แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่กลางแดดเป็นประจำ หากพบรอยโรคที่ไม่หายหรือไฝที่เปลี่ยนแปลงไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะการตรวจพบเร็วและรักษาอย่างถูกวิธี คือกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้ผลการรักษาดีที่สุด.
