สันต์ สะตอแมน
ก่อนนู้นลั่น.. “รวยแล้วไม่โกง”!
แต่..โทษที่ทำให้ติดคุก 8 ปี ล้วนแต่เป็น “คดีโกง” และแถมโกงกระทั่งวันติดคุก จนทำให้กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์-หมอ รวมทั้งรมต.ยุติธรรม..
ต้องถูกสังคมมองด้วยสายตารังเกียจเดียจฉันท์ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน!
วันนี้..ด้วยคำพูด “อยากใช้ชีวิตสงบๆ กลับมาเลี้ยงหลาน” ก็เป็นอีกหนึ่ง “คำโกหก” ของนายทักษิณ ชินวัตร เพราะความจริงที่ประจักษ์..
เขากลับมาเพื่อสร้างอำนาจ-บารมีที่จะปกครองประเทศนี้เสียมากกว่า ขนาดคนเป็น “นายกรัฐมนตรี” คุณเศรษฐา ทวีสิน ยังต้องคุกเข่ากราบไหว้ ให้คนทั้งโลกได้ตกใจ..
มายก๊อต..ผู้นำประเทศไทยถึงกับต้องคลานเข่ายกมือไหว้ขอพรจากนักโทษเชียวหรือ?
ก็..เห็นจะหมดความสงสัยล่ะว่าใครคือ “นายกฯตัวจริง” ยิ่งหากการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน ยิ่งเป็นการยืนยัน..
คุณเศรษฐานั้น เป็นเพียง “ตุ๊กตาไขลาน” ไร้บารมี-ไร้อำนาจใดๆที่จะสั่งการ-บริหารประเทศชาติ นอกจากโฉบไป-โฉบมาเอาหน้าออกสื่อ และเป็น “ตัวตลก” ไปวันๆ!
ครับ..พูดถึงหลาน เวลานี้เอียงหูไปทางไหนก็มีแต่คนเขาคุยเรื่อง “หลานม่า” ด้วยความชื่นชม-ยินดี ซึ่งก็ถือหนังไทยอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จจนบริษัทผู้สร้าง-จีดีเอช..
ได้ประกาศอย่างมั่นใจ.. “หลานม่า ขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังทำเงินสูงสุดในรอบปี” ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะฉายไปแค่ 14 วัน ฟันเงินรายได้ไปแล้วถึง 240 ล้านบาท
ผมนั้นยังไม่ได้เห็นกับตา จึงไม่อาจพูดได้เต็มปาก-เต็มคำว่า “หนังดี” แต่เท่าที่สดับตรับฟังคนที่ดูมา ต่างชื่นชม-ชื่นชอบ พูดเป็นเสียงเดียวกัน..
เป็นหนังดีสุดในรอบปี และนานแล้วที่ไม่เคยได้ดูหนังไทยแล้วต้องเสียน้ำตา ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผล..ทำไมผมจึงไม่ยอมเข้าโรง (ดู)!
และผู้ที่ทำให้เสียน้ำตา นอกจากจะปรบมือให้กับคุณพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์-ผู้กำกับแล้ว เขาว่า “คุณอุษา เสมคำ” ที่รับบท “อาม่า” นั่นแหละ..เล่นได้เนียน-ได้ซึ้งซะเหลือเกิน!
แม้วัยจะเกิน “นางเอก” ทั่วไป แต่คุณอุษาในวัย 78 ปี ก็รับบท “นักแสดงนำ” (นางเอก) ได้อย่างไม่ขัดหู-รำคาญตา และเธอเคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่า..
“ดีใจมากๆ เลยค่ะ ที่หนัง หลานม่า ได้เข้าไปอยู่ในใจผู้ชมหลายๆ คน วันที่หนังฉาย มีคนเดินเข้ามาหายาย มาชื่นชมหนัง บางคนเดินเข้ามากอด บ้างก็มาขอจับมือ
มันทำให้ยายรู้ว่า ผู้ชมที่เป็นลูกหลานเมื่อได้ดูหนังแล้ว เขาก็รู้สึกคิดถึงญาติผู้ใหญ่ ส่วนผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่ดูแล้วก็คิดถึงลูกหลาน
มันเป็นหนังที่ทุกคนในครอบครัว ทั้ง 3 เจเนอเรชัน เมื่อมาดูด้วยกันแล้วต่างก็จะได้มองเห็นมุมมองของกันและกัน
หนังเรื่องนี้ทำให้ยายรู้ว่า เวลาที่ลูกหลานทำงานจนอาจไม่มีเวลามาหาเรา ถ้าเราคิดถึงเขา เราก็โทรหา ไม่เห็นต้องรอให้เขาโทรมาเลย
ความรัก ความผูกพันของครอบครัว บอกกันให้รู้ในวันที่ยังมีชีวิตอยู่ดีที่สุด”
นี่..อ่านแล้วหลายท่านอาจจะรู้สึกอยากไปดูขึ้นมาแล้วซิ ก็อยากบอก ไปดูเถอะ หนังค่ายจีดีเอช ส่วนใหญ่จะไม่ผิดหวังหรอก
ยิ่งทำรายได้ 14 วัน 240 ล้าน และยังมีเสียงชื่นชมด้วยแล้ว มั่นใจได้เลยไม่เสียดายค่าตั๋ว ค่าข้าวโพดคั่วแน่นอน+
ส่วน “ตา-ปู่” คนนั้น ถ้าจะหยุดพักพฤติกรรมที่ทำให้คนเขามั่นไส้-เหม็นขี้หน้าลงเสียบ้าง หรือหากจัดวางรมต.เสร็จแล้ว..
ถ้าจะจูงหลานๆ ไปดูหนังหลานม่า ก็น่าจะช่วยส่งเสริม “ซอฟต์พาวเวอร์” ให้ลูกสาวได้..
ให้ดี..จูงมือเศรษฐี เอ๊ย เศรษฐาไปด้วย..สวยเลย!