เปลว สีเงิน
เห็นมั้ย…
บ้านเมืองไทยตอนนี้ มีอะไรแปลกๆ อย่างที่พูดไม่ผิด
ที่ไม่คิดจะมีให้เห็น มันก็มี อย่างเช่น
ไทย-เขมร
พอผู้ยิ่งใหญ่กลับเข้ามา ผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทย ตรงพื้นที่อ้างสิทธิ์ระหว่าง “เกาะกง-เกาะกูด” ของไทย
เป็น “ปัญหาไวไฟ” ระหว่างประเทศทันที
ไทย-พม่า
ก้าวไกล ใช้เวที “รัฐสภาไทย” เป็นแบรนด์ประทับวงสัมนา ลากเชื้อความขัดแย้งในพม่า เข้ามาจุดไฟในประเทศ
กลายเป็นปัญหา “พม่าเคืองใจ” ไทยไปอีก
ที่ภูเก็ตก็มีปัญหา….
คนพื้นที่ต้องถอยร่น ให้คนต่างชาติร้อยพ่อ-พันแม่เข้ามา “ยึดหาด-ครองเมือง” ทั้งแย่งอาชีพคนไทยไปทำมาหากิน
แถมกร่าง… “ฝรั่ง-ชาวสวิสฯ” ถีบหมอคนไทย แค่นั่งตรงบันไดที่มันสร้างรุกล้ำลงไปชายหาดสาธารณะ
และเรื่อง “วิปริต-วิปลาส” ที่ไม่คิด-ไม่คาด จะเกิดขึ้นได้ วันนี้ มันก็เกิด….
กะเทยฟิลิปปินส์ “ยกกองทัพก้น” บุกเข้ามายึด “สุขุมวิท ซอย ๑๑” เป็นแหล่งทำมาหากิน
“กะเทยไทย” แหยมเข้าไป ถูกรุมกระทืบ!
สงคราม “กะเทยแห่งชาติ” จึงเกิดขึ้น เมื่อคืนวาน
เพราะ “กะเทยไทย” ยอมไม่ได้
ที่กะเทยฟิลิปปินส์หยามหมิ่นศักดิ์ศรี กะทืบแล้วยังไลฟ์สดไปอวดอัปรีย์ในฟิลิปปินส์ ว่ามารุกถิ่น-กินแดน
แถมได้รุมกะทืบ “กะเทยไทย” คาถิ่น ซะน่วมตีน!
เลือดเนื้อชาติเชื้อกะเทยไทย จึงระเบิด…..
รวมตัวกันโดยไม่มีใครนัดหมาย แล้วยกทัพไปเปิดศึกกับกะเทยฟิลิปปินส์ ฐานบังอาจหมิ่นศักดิ์ศรีกะเทยไทย
เรื่องนี้ ต้องถึงพรรคก้าวไกลแน่ๆ
ไม่งั้นเสียยี่ห้อพรรคส้มหมด ฐานมีสส. “หลากหลายทางเพศ” เป็นดอกไม้ประดับสภา จนนายกฯ เศรษฐาบอกว่าจะดึงงาน LGBTQ ระดับโลก มาจัดที่ไทย
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงอะไร?
อย่าไปโทษนโยบายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาไทยของเศรษฐาเลย
นั่นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหาที่โยนเข้าไปหมักหมมในกองขยะประเทศ ว่าด้วย “โครงสร้างสังคมไทย”
ซึ่งมันตกผลึกทางความชั่วร้าย จนเลยจุด “รื้อโครงสร้าง-วางระบบใหม่” ไปตั้งนานแล้ว
จนทุกวันนี้ กลายเป็น “เทรดดิชั่นไทย” ที่คนต่างชาติรู้กันทั่วว่า…เมืองไทย อะไรก็ได้ ถ้ามีเงิน!
ซื้อได้ทั้งนั้น ไม่ว่าในระบบรัฐ-ระบบราษฎร์!
ในระบบประชาธิปไตยเลือกตั้ง “เงินมา-กาเป็น”
ในระบบบริหาร “งบมา-มุบมิบไป”
ในระบบการเมือง “เปอร์เซนต์มา-โครงการไป”
ในระบบปกครอง “ใต้โต๊ะมา-อนุมัติไป”
ในระบบผู้รักษากฎหมาย “ส่วยมา-ตามองไม่เห็น”
ในระบบสื่อ….
ใครก็ซื้อไม่ได้ แต่ว่า…เท่าไหร่ล่ะ พูดให้ชัด?
เนี่ย….
เรื่องระยำเหล่านี้ มันหมักหมมจนกลายเป็นทัศนคติฝังรากสมองสังคมไทยว่า “ใครๆ เขาก็ทำกัน”
คนไม่ทำอย่างนั้น เพราะมัน “โง่”!
แล้วเราจะปล่อยให้มันเป็น “รากวัฒนธรรม” สังคมและปกครอง “ประเทศไทย” โดยไม่มีใครคิดจะแก้ไขกันเลยหรือ?
ผมก็ถามไปงั้น
เพราะผมเองก็ตอบไม่ได้ เท่าที่สังเกต พอมีปัญหาอะไรหนักๆ ในบ้านเมือง คนก็จะร้องหาทหาร
ซึ่งความจริงมันไม่ใช่เรื่อง-ไม่ใช่หน้าที่ของทหารที่จะมาทำ
แต่พอทหารออกมาทำ คนที่เรียกร้องให้ทหารออกมา คือชาวบ้านนั่นแหละ
ก็ด่า “ทหาร-เผด็จการอำนาจ” ให้ออกไป คืนอำนาจประชาธิปไตย เอานักการเมืองจากเลือกตั้งเข้ามา
ซักพัก…
ไม่ถูกใจรัฐบาลเลือกตั้งที่ “ดีแต่โกงกับโม้” ก็เรียกหาทหาร ให้เข้ามาจัดการอีก!?
คนไทยนี่ เข้าใจง่ายหรือเข้าใจยาก ตอบยาก
แต่กุญแจไขโจทย์คนไทย มีอยู่ดอก ที่ใช้ไขได้แน่
คือ “เงิน”!
“คนดีแบบนี้หาไม่ได้แล้วในบ้านเรา หาไม่ได้จริงๆ ถึงท่านจะโกง แต่ประชาชนคนไทยกินได้ ได้อยู่-ได้กิน”
ได้ยินใช่มั้ย…
“ทัศนคติเชิงค่านิยมของคนไทย” จากปากชาวบ้าน สวมเสื้อแดง ยืนกล่าวสดุดี ตอนเทวดาเหาะจากชั้น ๑๔ ลงที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ปัญหา “เชิงโครงสร้าง” ประเทศ นั้น…
ใครก็อย่าไปคิดแก้ที่นักการเมือง ที่ทหาร ที่ระบบราชการเลย นั่นแค่ “ปลายเหตุ”
วิวัฒนาการทาง “ทัศนคติ-ความคิด” ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้ง นั่นตะหาก คือ “ต้นเหตุ”
ทางแพทย์โภชาการบอก “คุณกินอาหารแบบไหน คุณก็เป็นแบบนั้น”
ทางการบริหารประเทศก็แบบเดียวกัน “คุณเลือกคนแบบไหน-คุณก็ได้คนแบบนั้นเป็นรัฐบาล”
จากคำสดุดีของป้าเสื้อแดง ยังจะมีอะไรให้สงสัยอีกล่ะว่า รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมา เป็นรัฐบาลแบบไหน?
ช่วงนี้ เพื่อไทยดวงขึ้น
ศาล “ยกฟ้อง” ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ๒ คดีติดๆ ทั้งคดีถวิล เปลี่ยนศรี ล่าสุด เรื่องโรดโชว์ เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ
ข่าว “ยิ่งลักษณ์กลับบ้าน”…
หวังขอพระราชทานอภัยโทษ “คุก ๕ ปี” จากคดีปล่อยปละให้มีการทุจริตจำนำข้าว
รวมแล้วมูลค่ากว่า ๗-๘ แสนล้านบาท ที่ต้องนำเงินภาษีประชาชน “ไปใช้หนี้แทน” จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่หมด นั้น
เมื่อวาน (๕ มี.ค.๖๗) นักข่าวถาม “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรัฐมนตรีพาณิชย์ ถึงการกลับของยิ่งลักษณ์
นายภูมิธรรมตอบว่า….
“ผมตอบแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ว่าจะกลับมาประเทศไทย หรือจะยังอยู่ต่างประเทศต่อ เพราะลูกชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ
ก็แล้วแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่คิดว่าปัญหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ “เบาที่สุด”
เพราะเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเรื่องจำนำข้าว ซึ่งต้องรอการพิสูจน์อีกหลายอย่าง
และไม่ใช่เรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุจริต แต่เป็นเรื่องที่โดนกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗…..”
………….“ขอให้กำลังใจนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และอยากให้กลับ ถ้ากลับมาได้ก็จะเป็นเรื่องดี
เพราะแฟนคลับ ประชาชน ที่เคยเห็นผลงานของท่าน ก็อยากให้กลับมาโดยเร็ว
ผมเองก็รอต้อนรับท่านอย่างเต็มที่เหมือนกันในฐานะอดีตนายกฯ ซึ่งเป็นที่เคารพรักของทุกคน และเป็นที่รักของผมด้วย”
แหม…ท่านก็ เป็นที่รักของท่านคนเดียวซะที่ไหนล่ะ
ก็ “เป็นที่รักของผม” ด้วยเหมือนกัน บางครั้ง ยังฝันถึงด้วยซ้ำ
ในเมื่อพี่ชายกลับนำร่องมาแล้ว แล้วทำไมน้องสาวจะกลับอย่างเท่ๆเหมือนพี่ชายบ้างไม่ได้ จริงมั้ย?
ท่านภูมิธรรมบอก ปัญหาของยิ่งลักษณ์เบาที่สุด เพราะเรื่องจำนำข้าวที่โดนโทษคุก ๕ ปี แล้วหนีไป ไม่ใช่เรื่องทุจริต แต่เป็นเรื่องตามมาตรา ๑๕๗ นั้น
มันก็ “กึ่งใช่-กึ่งไม่ใช่” อยู่นะท่าน อ่านประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ดูก่อน แล้วค่อยสรุปก็ได้
มาตรา ๑๕๗ บัญญัติไว้ว่า….
“ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ ๑ ปี ถึง ๑๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๒,๐๐๐ บาท ถึง ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
คำว่า “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
ชัดอยู่นะครับ…ท่านรองนายกฯ
จะพูดว่า คุก ๕ ปี ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่เรื่องทุจริต ก็ได้
แต่คงปฎิเสธไม่ได้กระมัง ว่า…
ที่ยิ่งลักษณ์เปล่าทุจริตนั่นน่ะ ทำให้รัฐมนตรีพาณิชย์บุญทรง และรองรัฐมนตรีภูมิ รวมถึงข้าราชการพาณิชย์และใครต่อใครอีกหลายคน
ยังอยู่ในคุกถึงทุกวันนี้!
ฐาน “ทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ” (จีทูจี)!
ทางนิตินัย พูดได้ ยิ่งลักษณ์ “เปล่า-รู้เห็น”
แต่ทางพฤตินัย ถ้าไม่ด้านจริง ยากปฎิเสธว่า “เปล่า-รู้เห็น” ท่านภูมิธรรมเห็นด้วยในประเด็นนี้มั้ย?
แต่เอาเถอะ ท่านภูมิธรรมบอก กรณียิ่งลักษณ์ “เบาสุด”
“จะหนัก-จะเบา” ก็ช่าง
ยิ่งลักษณ์อยากกลับวันไหน ก็กลับมาเลย นายเศรษฐา ในฐานะนายกฯ เพื่อไทย คอย Welcome all day all night อยู่แล้ว
แต่กลับมา แล้วตีตั๋ว “ป่วยขั้นวิกฤต” ไปสถิต ณ วิมานชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ แทนคุก เหมือนพี่ชายที่ได้เครดิตผู้สูงอายุเป็นแต้มต่อ คงยาก
เพราะยิ่งลักษณ์ ต่อให้อายุ ๙๐ บอกว่าแก่ ใครก็ไม่เชื่อ เพราะไม่ว่ามองมุมไหน สาว ๒,๐๐๐ ปี ไปทุกมุม!
เรื่อง “ขอพระราชทานอภัยโทษ” น่ะ
ยังไม่ทันรับโทษเลย เพราะเอาแต่หนี แล้วจะมีโทษตรงไหนที่จะอภัยให้ได้ล่ะ?
มาเข้าคุกเป็น “ขวัญใจเรือนจำ” ก่อนเหอะ จากนั้น ค่อยพูดถึงเรื่องอภัยโทษ
ถ้าน้องปู เดินตามรอยพี่ปูได้ กลับเมืองไทย ไม่ต้องเข้าคุก เป็นคนที่สอง ของตระกูลชินวัตร ละก็
“อุกกาบาต” อาจตก
เกิดไฟไหม้ เป็นมหัศจรรย์แผ่นดิน ก็อาจเป็นได้นะ!?
เปลว สีเงิน
๖ มีนาคม ๒๕๖๗
