แก้หนี้เสริมรายได้ด้วย “กุหลาบตัดดอก” ทางรอด “กลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา”

ด้วยสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงแห้งแล้งกันดารขาดแหล่งน้ำ ชาวบ้านมีทางเลือกเดียวคือปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นอาชีพหลัก ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง และยางพารา แต่ทว่าปัญหาหนี้สินก็พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับสมาชิกกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย

กระทั่งปี 2563 กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลย เข้าไปช่วยเหลือดำเนินการสนับสนุนขุดสระน้ำเพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จากนั้นคณะกรรมการกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาหารือร่วมกับทีมงานเจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดเลย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่าจะส่งเสริมอาชีพปลูกกุหลาบตัดดอกให้กับสมาชิก เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย ไร้โรคแมลงรบกวน ที่สำคัญความต้องการของตลาดสูงมาก จึงเป็นที่มาของแปลงนำร่องต้นแบบปลูกกุหลาบตัดดอกสายพันธุ์ฮอลแลนด์และฮังการีของนายอัศวิน ศรีบุรินทร์ เลขานุการกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา บนเนื้อที่ 4 ไร่ ๆ ละ 1,000 ต้น เมื่อปลายปี 2563 ปัจจุบันเก็บเกี่ยวผลผลิตตัดดอกทุกวัน มีรายได้เฉลี่ยวันละ 5,000 -20,000 บาท โดยมีพ่อค้าทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดมารับซื้อถึงแปลงปลูก

นางสาววิไลพร พานกระดึง นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลย กล่าวถึงโครงการปลูกกุหลาบตัดดอกของกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา ในฐานะหัวหน้าโครงการที่ดูแลกลุ่มนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นปี 2563 ว่า ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมทั้งสภาพพื้นที่และภูมิอากาศและเป็นไม้ดอกซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ให้ผลตอบแทนเร็ว มีอายุการเก็บเกี่ยวนยาวนานถึง 5 ปี และสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปี จึงได้ปรึกษาทางเกษตรจังหวัดและเกษตรที่สูงและผู้มีความรู้ ต่างเห็นตรงกันว่าปลูกกุหลาบตัดดอกน่าจะเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในพื้นที่อำเภอภูเรือยังไม่มีใครปลูกมาก่อน จะมีก็เพียงกุหลาบหนู ซึ่งจำหน่ายทั้งต้นทั้งดอกเท่านั้น

“กุหลาบตัดดอกส่วนใหญ่จะมีแต่โซนภาคเหนือ ที่อำเภอภูเรือมีกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกที่ปลูกกุหลายตัดดอกขาย ส่วนการตลาดจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงแปลงปลูก มีทั้งพ่อค้ารับซื้อไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่ และจากต่างจังหวัดอุดรฯ ขอนแก่น หนองคาย พ่อค้ากลุ่มนี้จะมีออเดอร์แจ้งมาก่อน ตอนนี้กุหลาบตัดไม่พอขาย ราคาโดยเฉลี่ย 2-5 บาท/ดอก”

หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาปลูกกุหลาบตัดดอกเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้แล้ว ในอนาคตจะพัฒนาเป็นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาชมสวนดอกกุหลาบ ถ่ายรูปเช็คอิน สร้างรายได้เสริมให้กับคนในชุมชนด้วย ส่วนกลุมตกเกรดก็จะไม่ทิ้งแต่จะนำมาแปรรูปเป็นถุงหอมเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

“กุหลาบตกเหรอ เราจะไม่มีทิ้งเลยนำมาแปรรูปขายได้หมด ตอนนี้จะร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในกระทรวงเกษตรฯเอง และหน่วยงานภายนอกมาถ่ายทอดองค์ความรู้เพิ่มเติม เพราะขณะนี้สมาชิกเกษตรกรในพื้นที่เห็นแล้วว่า ปลูกกุหลาบตัดดอกสามารถปลดหนี้ได้จริง” นักวิชาการสหกรณ์ฯคนเดิม กล่าวย้ำ

ขณะที่ นายอภิไท มังธานี สหกรณ์จังหวัดเลย เผยว่าในจังหวัดเลยมีสหกรณ์การเกษตรทั้งหมด 108 แห่ง และมีหนี้คงค้างประมาณหนึ่ง แต่เราได้ดำเนินการแก้ไขมาตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มจากแก้หนี้สหกรณ์ใหญ่ ๆ ก่อน จากนั้นก็ขยายผลไปที่สหกรณ์ขนาดย่อม

“ผมย้ำเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดว่าการแก้ไขหนี้ คือ การสร้างรายได้ ซึ่งการสร้างรายได้ก็มาจากการส่งเสริมอาชีพ อย่างเช่นเลี้ยงหมู เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เป็นต้น เพราะการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มอาชีพเหล่านี้ให้มีรายได้ย่อมนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระต่อไป โดยใช้หลักตลาดนำการผลิต”

สหกรณ์จังหวัดเลยยังได้ยกตัวอย่างกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาที่ทางกลุ่มสนับสนุนให้สมาชิกปลูกกุหลาบตัดดอก แม้จะเป็นอาชีพเสริมแต่ก็สามารถทำรายได้หลักให้กับตัวสมาชิก จนสามารถนำเงินมาชำระหนี้คงค้างได้ 100 % ในวันนี้ ซึ่งจากนี้ไปก็จะขยายผลไปยังสมาชิกสหกรณ์กลุ่มอื่นต่อไป เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ทำเงินและมีรายได้จากการตัดดอกขายได้ทุกวัน

“อำเภอภูเรืออยู่ในหุบเขาอากาศเย็นสบายทั้งปี กุหลาบชอบอากาศเย็นเพียงแต่ว่าที่ผ่านมาขาดน้ำ พอดีมีโครงการสนับสนุนสินเชื่อระบบน้ำ เกษตรกรเขาก็ตอบรับทันที ตอนนี้ปรากฏว่าอาชีพเสริมมาแรงกว่าอาชีพหลักอย่างยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง เพราะรายได้ดีกว่า ส่วนตัวอื่นกำลังหารือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เพื่อมาวิจัยตลาดไม้ดอกไม้ประดับตัวอื่นด้วย แต่ตอนนี้ขอกุหลาบเป็นไม้ดอกนำร่องก่อน” นายอภิไทกล่าว

สำหรับโครงการส่งเสริมอาชีพการปลูกกุหลาบให้กับสมาชิกกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลยนั้น เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิกเป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งจะเห็นว่าในปี 2564 มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 31 ราย รวมมูลหนี้ทั้งสิ้น 844,522 บาท ทำให้สมาชิกมีรายได้สามารถส่งชำระหนี้ได้จำนวน 15 รายหรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของสมาชิกทั้งหมด ส่งผลให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาได้และยังมีรายได้มีเงินออมเพิ่มขึ้น หนี้สินลดลงและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากนั้นในปี 2565 มีลูกหนี้ผิดนักชำระหนี้ จำนวน 16 ราย เป็นเงิน 1.85 แสนบาท

และในปี 2566 ที่ผ่านมา เหลือลูกหนี้ที่ผิดชำระหนี้เพียง 4 ราย เป็นเงิน 2.5 แสนบาท จนปัจจุบันนี้ (ข้อมูล ณ 1 มี.ค.67) กลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลาสามารถเก็บหนี้ค้างชำระได้เต็มจำนวนคิดเป็นร้อยละ 100 ของหนี้ค้างชำระทั้งหมด

อย่างไรก็ตามกลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลายังได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลยส่งสมัครเข้ารับรางวัลการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ประเภทร่วมใจแก้จนในโครงการรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2567 จัดโดยสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ด้วย

Written By
More from pp
โอซีซี ร่วมงานแถลงข่าว สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 27
วรเทพ อัศวเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กรรมการบริหารและกรรมการบริษัท พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) ร่วมงานแถลงข่าว ‘สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่...
Read More
0 replies on “แก้หนี้เสริมรายได้ด้วย “กุหลาบตัดดอก” ทางรอด “กลุ่มเกษตรกรบ้านท่าศาลา””