ขว้าง ‘ตะวัน’ ไม่พ้นคอ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

พูดเอาหล่อกันทั้งนั้น

สส.พรรคก้าวไกล ไม่เข้าใจจริงหรือว่า “การแสดงออก” นั้น มีขอบเขตที่จำกัด

จริงอยู่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่ใช่ว่าจะสามารถแสดงออกได้โดยเสรีในทุกเรื่องที่คิด

กรณี “ตะวัน ทะลุวัง” สร้างคอนเทนต์ป่วนขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อหวังผลทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่คนปกติเขาทำกัน

สส.พรรคก้าวไกลทั้งพรรคก็คงไม่มีใครทำกัน

แต่ “ตะวัน ทะลุวัง” ทำ!

แค่นี้ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่า “การแสดงออก” ของ “ตะวัน ทะลุวัง” นั้นเกินขอบเขตไปมาก

คนมีตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อย่าง “ชัยธวัช ตุลาธน” แยกแยะไม่ถูกเชียวหรือว่า การแสดงออกเพื่อด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

สิ่งที่ ผู้นำฝ่ายค้าน สื่อสารออกมาเมื่อวันเสาร์ ได้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดว่า แทบไม่ต่างไปจาก “ตะวัน ทะลุวัง” เลยแม้แต่น้อย

จะต่างก็เพียงสถานะทางสังคมเท่านั้น

“…ในกรณีกลุ่มทะลุวัง ผมเข้าใจดีถึงความคับข้องใจที่พวกเขาแสดงออก แต่ขณะเดียวกัน ผมเชื่อว่าพวกเราทราบดีว่า เนื้อหาสาระกับวิธีการแสดงออก เป็นสองสิ่งที่สำคัญควบคู่กัน การเลือกวิธีแสดงออกแบบใดแบบหนึ่ง ย่อมมีทั้งฝ่ายที่พอใจ/ไม่พอใจ เข้าใจ/ไม่เข้าใจ จึงพึงพิจารณาว่าการแสดงออกทางการเมืองเช่นนั้น สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและเหตุผลภายในใจไปยังประชาชนกลุ่มอื่นในสังคม ให้รับรู้และเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของผู้แสดงออกได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าวิธีการที่แต่ละคนแต่ละฝ่ายเลือกใช้คืออะไร เส้นที่เรา ‘ต้อง’ ไม่ข้ามไป คือการใช้ความรุนแรงตอบโต้ หรือเจตนาทำลายล้างคนที่คิดไม่เหมือนตนให้หมดไปจากสังคม การกระทำของกลุ่ม ศปปส. ที่สยามพารากอนในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง…”

อ่านกี่เที่ยวก็เห็นว่า “ชัยธวัช” โพสต์เพื่อตำหนิกลุ่มศปปส. ว่าใช้ความรุนแรง

ด้วยความเข้าอกเข้าใจกลุ่มทะลุวัง!

ฉะนั้น กลุ่มทะลุวังมีความคับแค้นใจอะไร ถึงต้องนำประเด็นขบวนเสด็จไปโจมตีในโซเชียล “ธวัชชัย” เข้าใจดี

และการโพสต์ที่มิได้ตำหนิ “ตะวัน ทะลุวัง” แม้แต่คำเดียว จึงไม่ต่างไปจากการให้ท้ายแต่อย่างใด

ก่อนที่ “ชัยธวัช” จะตำหนิผู้อื่นว่าปลุกระดมสร้างความเกลียดชังจนนำมาสู่การใช้ความรุนแรง ได้โปรดพิจารณาสิ่งที่ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ทำมาโดยตลอดเสียก่อน

เพราะ “ตะวัน ทะลุวัง” คือผลิตผลของพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า นั่นเอง

การแสดงออกของ “ตะวัน ทะลุวัง” และพรรคพวก เป็นผลมาจากการปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง เพราะเป็นการแสดงออกเชิงปฏิปักษ์และต้องการทำลายสถาบันฯ มากกว่าการแสดงออกเพื่อนำเสนอแนวคิดที่แตกต่าง

และที่ “รังสิมันต์ โรม” ออกมาปฏิเสธ คนที่เชื่อคงจะมีเพียงคนกันเองและด้อมส้มเท่านั้น

“…ผมยืนยันว่าเราไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใครและใครก็ไม่มาอยู่เบื้องหลังเรา พรรคก้าวไกลก็คือพรรคก้าวไกล ที่ทำหน้าที่โดยมีจุดยืนในเรื่องของสิทธิมนุษยชน

เราเชื่อในศักยภาพในการแสดงออก ส่วนเมื่อเขาแสดงออกไปแล้ว จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะแสดงความคิดเห็นได้

แต่จุดยืนของพรรคก้าวไกลคือเราไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ในการแสดงออกแบบนั้นคือการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว เรามีบทเรียนมาแล้ว และไม่ได้ทำให้สังคมไทยดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย…”

“รังสิมันต์” รู้ใช่หรือไม่ว่าการแสดงออกของ “ตะวัน ทะลุวัง” นั้นมีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมากมายมหาศาล

นี่มันไม่ใช่เรื่อง การโชว์ศักยภาพในการแสดงออกในเรื่องทั่วๆ ไปที่อาจมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วค่อยหาข้อสรุปร่วมกัน

แต่เป็นการสร้างคอนเทนต์โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์

มันไม่ใช่สิทธิในการแสดงออก

ฉะนั้นคำพูดของ “ชัยธวัช” และ “รังสิมันต์” ยิ่งยืนยันให้เห็นถึงที่มาที่ไปของ “ตะวัน ทะลุวัง” ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ปากบอกยึดหลักมนุษยชนที่ถูกต้อง แต่ให้ท้ายการแสดงออกด้วยการคุกคามผู้อื่น พรรคก้าวไกลต้องระวัง

จะเป็นตัวการจุดชนวน จากน้ำผึ้งหยดเดียว กลายเป็นสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่ ได้ในอนาคต

หยุดใช้เด็กเป็นเครื่องมือได้แล้ว

ก็ถามตรงๆ ในเมื่อ “ชัยธวัช” และ “รังสิมันต์” ไม่ตำหนิ “ตะวัน ทะลุวัง” เลย ทั้งคู่ลองไปขัดขวางขบวนเสด็จบ้าง จะเอามั้ย!

ก็คงไม่ทำ เพราะรู้ดีถึงผลกระทบที่จะตามมา

แต่ก็ไม่คิดตำหนิ “ตะวัน ทะลุวัง”

กลับโยนไปทาง ศปปส. ว่าเป็นฝ่ายสร้างความรุนแรง

แน่นอนครับ “ความรุนแรง” ไม่มีใครอยากให้เกิด ยกเว้นคนที่อยากให้เกิดเพื่อใช้ประโยชน์จากความรุนแรง

ลองหันไปมองรอบๆ สิครับ มีใครภาคภูมิใจกับการกระทำของ “ตะวัน ทะลุวัง” บ้าง

นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว ยังมีใครบ้างที่ไม่ตำหนิ “ตะวัน ทะลุวัง”

มีคนบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา

ไม่ใช่เลยครับ

มันเป็นเรื่องของคน อัปยศ ถ่อยเถื่อน กับคนที่เขาดำเนินชีวิตไปตามกรอบของกฎหมาย

เมื่อคนอัปยศสร้างความโกรธให้แก่ผู้คนในสังคม ผลมันจึงออกมาอย่างที่เห็นกัน

ฉะนั้นหยุดเสีย!

พรรคก้าวไกลมีแนวคิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร คนเขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

การจุดชนวนความขัดแย้งจากเรื่องละเอียดอ่อนเช่นกรณีที่ “ตะวัน ทะลุวัง” ทำลงไปนั้น พรรคก้าวไกลต้องตระหนักให้ได้ว่า มันสามารถลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเมืองได้

“การแสดงอออก” ด้วยการไม่เห็นด้วยกับ “ตะวัน ทะลุวัง” นั้น ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนายร้อย จปร. สมาชิกวุฒิสภา พรรคการเมืองหลายพรรคยกเว้นพรรคก้าวไกล คือการส่งสัญญาณ ให้เลิกกระทำการอันอัปยศนั้นเสีย

ไม่มีใครบอกว่า พรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลัง “ตะวัน ทะลุวัง” ครับ

เพราะส่วนใหญ่เห็นประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า พรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหน้า และออกนอกหน้าปกป้องกลุ่มทะลุวัง และบรรดานักเคลื่อนไหวสามนิ้วมาโดยตลอด

ฉะนั้น จะสลัดอย่างไร ไม่มีทางพ้น

Written By
More from pp
ไม่มีความเป็นไปได้ เรื่องนายกฯ เสียงข้างน้อย “อนุชา” ไม่เคยได้ยินกระแสข่าว ส่วนท่าที รทสช. โหวตนายกฯ ให้รอที่ประชุมพรรควันที่ 18 ก.ค.
17 กรกฎาคม 2566  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ ส.ส. ชัยนาท
Read More
0 replies on “ขว้าง ‘ตะวัน’ ไม่พ้นคอ – ผักกาดหอม”