โลกสู่ภาวะ “เปลี่ยนคน” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“สหรัฐอเมริกา-ไทย”
สมัครสมานสานรักกันมาร่วม ๒๐๐ ปีแล้วนะ!
วานซืน (๑๗ มค.๖๗)
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี”
เสด็จฯไปทรงเปิดนิทรรศการ “Weaving Our Stories” :สานสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐอเมริกา-ไทย ๑๙๐ ปี ที่ “หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร”

“นายอนุทิน ชาญวีรกุล” รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ผู้แทนรัฐบาลไทย)
“นายรอเบิร์ต เอฟ.โกเด็ก” เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
“นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจัดงานฯ เฝ้าฯรับเสด็จ

ในจำนวนผู้รับเสด็จเหล่านั้น……..
มี “องคมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” รวมอยู่ด้วย

หลังเสร็จสิ้นราชภารกิจ ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ กลับ
ทั้งนั้น “ส่งเสด็จ” พร้อมเพรียงกัน

จากนั้น องคมนตรี “พลเอกประยุทธ์” ก็กลับ ขณะเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่

ปรากฏว่า ในโลกโซเชียล มีการแชร์คลิปบรรยากาศกันกว้างขวาง ผมดูแล้วอดที่จะหยิบมาเมาธ์ในหมู่พวกเราไม่ได้

ฉะนั้น วันนี้ เอาซะหน่อย!

จะว่าไป ตั้งแต่ “พลเอกประยุทธ์” พ้นวงจรการเมืองไปอยู่ในสถานะ “องคมนตรี” แล้ว ก็ไม่ได้คุยถึงท่านเลย

คืองี้….
“รองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย” นายอนุทิน และ “ผู้ว่าฯ กทม.ชัชชาติ” เข้ามายกมือไหว้ท่านองคมนตรี

ท่านองคมนตรีรับไหว้ ทักทายปราศรัย ด้วยบรรยากาศผูกพัน กระสันใจ ต่อกัน

“รองนายกฯ อนุทิน” นั้น
เคยทำงานชนิด “รบเคียงบ่า-เคียงไหล่” กับองคมนตรีตอนเป็นนายกฯ มาตลอด

เคยแสดงออก “เคารพ-จริงใจ” ต่อพลเอกประยุทธ์อย่างไร ภาพที่เห็นวานซืนก็ “คงเส้น-คงวา” อย่างนั้น

พลเอกประยุทธ์ขึ้นนั่งบนรถ รองนายกฯ อนุทินก็กราบท่านที่ตัก อย่างนี้แทบทุกครั้ง ที่ “นายอนุทิน” ปฎิบัติต่อ “พลเอกประยุทธ์”

“รองนายกฯอนุทิน” ในตัว “มีดีที่จะหยิ่ง” สมัยก่อนเข้าการเมือง อนุทินเป็นคนไม่ลงให้ใคร และไม่ยอมให้ใครหยาม

แต่เท่าที่สังเกต ตั้งแต่เป็นผู้ใหญ่ในวงบริหารราชการงานเมือง นายอนุทินจะเป็น “ผู้รู้ภาวะแห่งตน” ผิดแต่เดิมเป็นคนละคน

ทั้งกับ “ผู้บังคับบัญชา” และทั้งกับ ข้าราชการ “ผู้ใต้บังคับบัญชา”
“จุดเด่น” เมื่อลงเรือลำเดียวกับใครแล้ว ไว้ใจได้ ที่คิดจะคว่ำเรือ หรือแอบเจาะรูให้เรือรั่ว “หวังทรยศ” ไม่มี

ตอนร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ บางช่วงนายกฯ ประยุทธ์ถูกการเมืองภายใน-ภายนอกซัดชนิดตั้งตัวไม่ติด
“วอลเปเปอร์” ตามปกติสลอนหน้า ก็พากันหาย

side by side “หนึ่งเดียว” คือนายอนุทิน!

ตอนมาร่วมรัฐบาลเพื่อไทย กับนายกฯ เศรษฐา ผมคอยสังเกตว่า รองนายกฯ อนุทินจะวางตนอย่างไรกับนายใหม่ “นายกฯเศรษฐา”

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
สถานภาพนายกฯ ของเศรษฐา ไม่ต่างลำไผ่ปักในทะเลกลางคลื่นขยอกครืนครั่น ทั้งวัน-ทั้งคืน!

แต่ปรากฎว่า มีไผ่ลำหนึ่ง ปักเคียงข้าง “เป็นกำลังใจ” ให้เศรษฐาในทุกสถานการณ์ คือ “รองนายกฯ อนุทิน”
นี่คือ “ผู้รู้ภาวะแห่งตน”

เมื่อพร้อมใจลงเรือลำเดียวกัน ต้องให้เกียรติ-ให้ใจ ซึ่งกันและกันตามตำแหน่งหน้าที่ ต้องไม่ทิ้งกัน ตราบที่ยังอยู่ด้วยกัน

ทำให้นึกถึง “กวนอู”
นี่ไม่ได้หมายความว่า ผมวางตำแหน่งรองนายกฯ อนุทินเป็นกวนอูนะ อย่าเข้าใจผิด

ผมหมายถึง “ความเป็นคน” อยู่ที่ไหน-กับใคร การทำหน้าที่ ก็ต้อง “จริงใจ” ต่อที่นั่น กับผู้นั้น
ส่วน “ใจ” นั้น เป็นไทเหนือทาส!

“กวนอู” พี่น้องร่วมสาบานกับ “เล่าปี่-เตียวหุย” เมื่อครั้ง “เล่าปี่พ่ายศึก” ให้กับโจโฉ แตกกระจัดกระเจิง
“กวนอู” รับหน้าที่ดูแล “ครอบครัวเล่าปี่”

โจโฉส่งเพื่อนสนิทมาชวนไปอยู่ด้วย
กวนอู “ใคร่ครวญ-ทวนทบ” อยู่นาน

ระหว่าง จำต้องยอมไปอยู่กับโจโฉ เพื่อปกป้องรักษาสองภรรยาของเล่าปี่และบริวารให้อยู่รอดจากสถานการณ์เฉพาะหน้า

กับคำว่า “ลูกผู้ชายพร้อมพลีชีพ” จะไม่ยอมเป็น “ข้าสองเจ้า-บ่าวสองนาย”
ในที่สุด ตกลงใจไปอยู่กับโจโฉ

โดยมีเงื่อนไข “ถ้ารู้ข่าวเล่าปี่อยู่ที่ไหน จะไปทันทีโดยไม่จำเป็นต้องบอกลา”!

ก็ไม่มีอะไรเป็นเลศ-เป็นนัย แค่เห็นรองนายกฯ อนุทิน สมัยก่อนกับนายกฯ ประยุทธ์อย่างไร ตอนนี้ก็อย่างนั้น จึงหยิบมาคุยในด้านว่า

“รู้กาล-รู้ตน” คนนั้น จะไม่อับจน สร้างตนเป็นใหญ่ได้!

อ้าว…
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่อื้ออึงในโซเชียลอย่างที่ผมฉายเป็นหนังตัวอย่างไว้ล่ะ?

คืองี้ครับ “ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ ณ ที่ใด พสกนิกร ทราบข่าว ก็จะตามไปเฝ้ารับเสด็จที่นั่น

ช่วงพลเอกประยุทธ์ กับรองนายกฯ อนุทิน และผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนทักทายไหว้ตอบกันอยู่นั้นแหละ

ผู้คนกลุ่มนั้น เห็นพลเอกประยุทธ์ ด้วยผูกพันส่วนลึกจากจิต ต่างตะโกนเรียก..ลุงตู่..ลุงตู่

ครับ เป็นองคมนตรี “คนแรก” ที่ผมเห็นในชีวิตที่ชาวบ้านรักใคร-นับถือเสมือนญาติผู้ใหญ่ เรียกองคมนตรี ลุงตู่..ลุงตู่

มีพุทธภาษิต คือคำที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“วิสาสา ปรมา ญาติ” แปลกันไว้ว่า ความคุ้นเคยกัน นับว่าเป็นญาติกันอย่างเลิศ ยิ่งกว่าเป็นญาติโดยสายเลือดเสียอีก

“ลุงตู่” ของชาวบ้านหรือ “องคมนตรีพลเอกประยุทธ์” ในความหมาย คณะที่ปรึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น เพื่อถวายคำแนะนำแก่พระมหากษัตริย์

ตอนอยู่เป็นนายกฯ ก็โขกสับ แช่งด่า เมื่อไหร่จะไปซักที
ตอนไปแล้ว ก็อาลัย เรียกหา ลุงตู่…ลุงตู่ เมื่อไรจะมาซักที!

เออ..หนอ คนเรานะ!
ตอนเป็นนายกฯ เรียกลุงตู่ จะว่าไปก็ “ถนัดปาก” ดี

แต่ตอนนี้ ท่านเป็นองคมนตรี ใจน่ะ..ถนัดแน่ แต่กับปาก ใครล่ะ จะกล้าเรียก “องคมนตรีตู่”

ฟังดูก็น่ารัก แต่คิดอีกที เหมือนตีเสมอ ประหนึ่งเห็นญาติผู้ใหญ่เป็นเพื่อนเล่น!

สรุปว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ว่าอยู่ ณ สถานะไหน
หนึ่งเดียวในดวงใจของชาวบ้านตลอดกาล คือ
“ลุงตู่”!

ก็คุยฉุ่ยเรื่อยเจื้อย เอาเป็นเรื่องซักหน่อยปะไร ช่วงนี้ สถานการณ์โลกเริ่มขมวดปลาย สนใจข่าวสารด้านต่างประเทศกันไว้บ้าง ก็จะดีนะ…พี่น้อง

เมื่อวาน สส.ก้าวไกล “นายจุลพงศ์ อยู่เกษ” กรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทน ให้ความเห็นไว้สมวุฒิภาวะและหน้าที่

คงทราบข่าวหรือเห็นภาพกันบ้างกระมัง ที่คนสถานทูตอิสราเอลในไทย จ้างรถตุ๊กตุ๊กแห่ป้าย
เรียกร้อง “ฮามาส” ปล่อยตัวประกันที่ถูกจับคุมขังอยู่ที่ “ฉนวนกาซา”

ผมทราบว่า ทางกระทรวงต่างประเทศไทย เคยบอกสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลในไทยไปแล้ว ว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง
ไทยเป็ประเทศ “รักสันติ”

เป็นมิตรกับทุกฝ่าย มีนโยบายชัดเจน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้านขัดแย้งใดๆ กับทุกชาติ

ฉะนั้น อิสราเอลไม่ควรดึงไทยเข้าไปในวงขัดแย้ง การที่อิสราเอลโปรประกันดาส่อลักษณะว่า “ไทยเลือกข้าง” ไปโจมตีอีกฝ่าย นั้น
ไม่มีใครพูดเลย….

“สส.ก้าวไกล” คนเดียว ออกมาพูดแทนคนไทย ออกมาปกป้องประเทศ ตรงนี้ ขอได้รับความนับถือจากผม!

เท่าที่ผมติดตามข่าว ระยะหลัง ปาเลสไตน์ไม่ค่อยพอใจนัก เขาปล่อยคนไทยชุดแรกแล้ว แทนที่คนไทยจะรับรู้ไม่ตรีนั้น

แต่กลับถูกอิสราเอลใช้ความจัดเจนทางการเมือง ฉกฉวยที่ปาเลสไตน์ปล่อยไปเป็นว่าอิสราเอลช่วยคนไทยออกมา จัดฉากนำตัวกลับเอิกเกริก

หนักหน้าตอนนี้คือ “รัฐมนตรีต่างประเทศปานปรีย์” ที่ต้องไปทำความเข้าใจกับฝ่ายปาเลสไตน์

อีก ๘ คน ที่ไม่ได้รับความร่วมมือด้วยดีในการปล่อยเหมือนชุดแรก ก็เหตุนี้แหละ

ยิ่งแห่ป้ายรถตุ๊กตุ๊ก “ประณาม” ฮามาสให้เป็นภาพข่าวเผยแพร่ออกสู่สังคมโลก ทำให้ยากขึ้นไปอีก

“คุณชัยธวัช” ผู้นำก้าวไกล….
“ผลประโยชน์ชาติ” ท่ามกลางขัดแย้ง “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” ลูกพรรคคุณรักษาผลประโยชน์ชาติได้ดีแล้ว

แยกแยะให้ได้อย่างนี้…
“การเมืองเพื่อชาติ, ศาสน์, พระมหากษัตริย์”

“ก้าวไกล” ก็จะเป็น “พรรคเพื่อคนไทย” ในหัวใจคนไทยก้าวไกลทั้งชาติ

เชื่อผมสิ!

เปลว สีเงิน
๑๙ มกราคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
ทำแล้ว “ทำอยู่” ตู่ทำต่อ – เปลว สีเงิน
กองทัพที่จะแพ้ อาการแรกที่เห็นก่อน คือการ "แตกสามัคคี" ในระดับแม่ทัพ-ขุนศึก จากนั้นทะเลาะกัน โทษกันไป-โทษกันมา
Read More
0 replies on “โลกสู่ภาวะ “เปลี่ยนคน” – เปลว สีเงิน”