เปลว สีเงิน
ถ้าการ………
แวบไป “ต่างประเทศบ้าง-ต่างจังหวัดบ้าง” คือ “งาน” ละก็
ต้องบอกว่า……….
“นายกฯเศรษฐา” งานหนักมากกก!
มากที่ต้องเรียกว่า “หามรุ่ง-หามค่ำ” ชนิดไม่รู้จักเหน็ด-จักเหนื่อยกันอย่างนั้นเลยจริงๆ!
เมื่อวาน (๑๔ มค.๗๖) ก็ไปอีก ไปร่วมประชุม “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม” ที่กรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ระหว่าง ๑๕-๑๙ มค.
รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” และรัฐมนตรีคมนาคม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ร่วมคณะไปด้วย
โถ…
สงสารท่านนะ
หนีตอบกระทู้ในสภา แวบไปเชียงใหม่ ยังไม่ทันหายเหนื่อย โผล่มารับหน้า “งานวันเด็ก” เมื่อวันเสาร์เสร็จ
ตกดึก บินปร๋อไปสวิสฯ อีกแล้ว!
กว่าจะกลับ ก็เข้าสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกรา.ยังไม่มีอะไรเป็นโล้-เป็นพายเลย
ประชุมสภาก็ “หลบไป-เลี่ยงมา” งานทำเนียบก็โฉบมา-โฉบไป
งานประชุมครม.ตดยังไม่ทันหายเหม็น…. “ปิดประชุม”!
ดูๆ แล้วก็เหนื่อยแทน
ไม่ใช่เหนื่อยงาน แต่เหนื่อยใจ ตกลงเศรษฐานี่ เขาเป็นนายกฯ หรือเป็นม้าทรงกันแน่?
เป็นนายกฯมา ๔-๕ เดือน นอกจาก “พูดให้พัง” และตั้งหน้า “กู้มาผลาญ” ๕ แสนล้านแล้ว
นอกนั้น “ไม่มีอะไร” ที่เรียกว่า “สุนัขรับประทาน” เลยซักอย่าง!
๒ ปัญหา ที่ทำให้ “ตูดไม่ติดที่” ต้องหาทางหนีนักข่าวรุมถามตลอด คือเรื่อง กู้มาแจก ๕ แสนล้าน จะท้องหรือทำแท้ง
กับเรื่อง ปล่อยให้ “ทักษิณ” เป็น “พ่อทุกสถาบัน”
ทั้งสถาบันบริหาร, สถาบันนิติบัญญัติ และสถาบันตุลาการ
ศาลตัดสินให้จำคุก …….
แต่รัฐบาลในฐานะผู้ใช้อำนาจบริหารประทศ กลับละเว้นการปฎิบัติ เอื้อต่อนักโทษทักษิณ
ปล่อยให้ราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ “อ้างป่วย” ปางตาย นอนโรงพยาบาลไปเรื่อยๆ แทนการเข้าคุก
จนประชาชนสงสัย…..
ทักษิณป่วยจริงหรืออำนาจรัฐป่วย?
ถ้าป่วยจริง จะนอนรักษาเป็นปี ก็ไม่มีใครเกี่ยงงอน แต่ทีนี้ ทุกคนก็เห็น ทักษิณแข็งแรง ว่ายน้ำ เตะกระสอบโชว์ เตะปีบดังเปรี้ยง
กลับมาก็เห็นสดชื่น กะปรี้-กะเปร่า ไม่บ่งว่าป่วยด้วยโรคร้ายแรง แต่พอเข้าเรือนจำ ยังไม่ทันเข้าห้องขังเลย
ปรากฎว่า แพทย์ราชทัณฑ์ แพทย์รพ.ตำรวจ กุลี-กุจอแถลงป่วย ๔ โรค ต้องเอาฮ.รับด่วนจากคุกไปโรงพยาบาล
เป็นใครก็ต้องสงสัย……..
คนในเรือนจำ “วางยา” ทักษิณมั้ง?
หรือไม่ก็ รพ.ตำรวจเอาหมอตอนควายมาวินิจฉัยโรคคน จึงสับสนอาการโรคอุบัติใหม่
ระหว่างโรค “หงออำนาจ” หรือไม่ก็โรค “ต่อมจรรยาบรรณแพทย์พิการ” อย่างใด-อย่างหนึ่ง
ซึ่ง ๒ โรคนี้ อาการคล้ายๆ กับที่ “ธัมมชโย” ธรรมกายเคยเป็น
กี่ปีมาแล้วล่ะ…
โรคหายหรือไม่หาย…ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตัวธัมมชโยหาย เหมือนที่ “ทักษิณหาย” นี่แหละ!
ตอนนี้ คนเขาไม่สงสัยว่า “ทักษิณป่วย” หรือ “ไม่ป่วย”
แต่เขาสงสัยพฤติกรรมแพทย์และราชทัณฑ์ว่า
น่าจะป่วยด้วยโรค “อสัตย์ต่อจรรยาบรรณและหน้าที่ราชการ” มากกว่า?
เพราะ “ส่อพิรุธ” ถึงขั้นปกปิดการตรวจสอบจาก “แพทย์ทางสังคม” ขนาดนี้?
ใน “สังคมงาน” พนักงานเข้าใหม่ จะทดลองงาน ๔ เดือน เรา…ประชาชนผู้อยู่ในระบบภาษี ถูกบังคับโดยหักจ่ายไปทุกปี
ลองช่วยพิจารณาผลงาน “นายกฯ ทดลองงาน” คนนี้ดูซิ
ว่าสมควรให้ผ่าน “ระยะทดลองงาน” คือผ่านการพิสูจน์ฝีมือว่าจะรับเข้าบรรจุหรือไม่รับ?
รับเข้ามาทำงาน ราวๆ ๒๒ สิงหา.ไม่กี่วันเลย
๑๘-๒๔ กย.๖๖ไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ
๒๘ กย.๖๖ ไปกัมพูชา พบ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานคณะเพื่อแนะนำตัวในโอกาสรับตำแหน่งใหม่
๘-๙ ต.ค.๖๖ ไปพบผู้บริหารและนักธุรกิจฮ่องกง
๑๐ ตค.๖๖ เข้าเฝ้าฯ “สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม” ประเทศบรูไน
๑๑ ตค.๖๖ เข้าคารวะ “ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
๑๒ ตค.๖๖ เยือนสิงคโปร์ หารือทวิภาคีกับ “นายลี เซียนลุง” นายกฯ สิงคโปร์
๑๖-๑๘ ตค.ไปจีน ประชุมเวที Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF
๑๙-๒๑ ต.ค.๖๖ ไปกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ประชุมสุดยอดอาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ
เข้าเฝ้า “เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด” นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
๒๙-๓๐ ต.ค.๖๖ ไปเยือน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
๑๒-๑๙ พย.๖๖ไปซานฟรานซิสโก ร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก
๑๔-๑๙ ธค.๖๖ไปญี่ปุ่น ประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ประเทศญี่ปุ่น
และ ๑๕-๑๙ มค.๖๗ ไปประชุม “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม” ที่กรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์
๔ เดือน เดินทางไปต่างประเทศ ๑๐ ครั้ง ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นต้องไป ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๑
เฉลี่ยแล้ว เดินทางไปนอกเดือนละร่วม ๓ ครั้ง ถ้านับรวมออกต่างจังหวัดและลาพักร้อน อยู่ติดทำเนียบซักกี่วันกัน?
ทักษิณนอนป่วย ๑๒๐ วัน ไม่หาย แต่นายกฯ เศรษฐา ๑๒๐ วัน หาย…
คือหายตัว ตรงข้ามกับที่โม้ “จะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” ขนาดจะหอบเสื่อหอบหมอนมานอนทำเนียบ!
จะสร้างสถิติแข่งกับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์หรือยังไง หือ?
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ๒ ปีกว่า
เดินทางไปต่างประเทศ ๕๕ ครั้ง ๔๓ ประเทศ!
เท่าที่ผมดูจาก “คมชัดลึก” ออนไลน์ เขาบันทึกไว้ ใน ๕๕ ครั้งนั้น ไปกัมพูชา ๗ ครั้ง ลาว, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย ประเทศละ ๓ ครั้ง
นอกนั้นก็มี บรูไน ๒ ครั้ง เกาหลีใต้ ๒ ครั้ง เวียดนาม, สิงคโปร์, พม่า, ฟิลิปปินส์, อินเดีย,สวิตเซอร์แลนด์, มาเลเซีย, จีน, บาห์เรน, กาตาร์, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหรัฐฯ, คูเวต, อังกฤษ, บังคลาเทศ, ฮ่องกง ,สวีเดน
เบลเยี่ยม และสหภาพยุโรป, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, มองโกเลีย, ศรีลังกา, มอลดีฟส์, โปแลนด์, ตุรกี, โมซัมบิก แทนซาเนีย, ยูกันดา, ทาจิกิสถาน, ปากีสถาน และ มอนเตเนโร
น่าจะซื้อ “ลูกโลก” ให้เป็นของขวัญวันเด็กใบโตๆ ซักใบนะ
ก็ลองจดบันทึกไว้เปรียบเทียบกันดู ว่าเศรษฐาจะทำลายสถิติยิ่งลักษณ์ได้มั้ย?
เศรษฐา ๔ เดือน ๑๑ ทริป ถ้าจะทำลายสถิติ สมมติเป็นนายกฯ ถึงปี ก็ต้องบินให้ได้ ๓๐ ประเทศ ถึงจะเหนือยิ่งลัษณ์
แต่เห็นเศรษฐาคุยก่อนไป ว่าจะอยู่ครบ ๔ ปี
ถ้าแบบนั้น ยิ่งลักษณ์แพ้แบหราเลย!
ถ้าเศรษฐาเป็นนายกฯ ถึง ๔ ปี ลองหลับตานึก โอ้โฮ…ประเทศไทยจะก้าวหน้า พัฒนาไปถึงไหนกันเนี่ย นึกไม่ถึง
ค่าแรงขั้นต่ำจะวันละ ๖๐๐ บาท ปริญญาตรี สตาร์ท ๒๕,๐๐๐ บาท รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย
เบี้ยผู้สูงอายุ ขั้นต่ำเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท คนอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป แจกคนละ ๑ หมื่นบาท อีกเยอะแยะ จำไม่ไหว
แต่เมื่อเทียบจากผลงานช่วง “ทดลองงาน ๔ เดือน” นี้ มันส่อลักษณะไปทาง “ราคาคุย” มากกว่า?
ไม่น่าจะผ่านโปรน่ะ…ผมว่า!
การไปต่างประเทศนั้น มันไม่ผิดหรอก แต่บางงานก็ควร บางงานก็ไม่จำเป็น เปลืองงบเปล่าๆ
ที่ไป…ส่อลักษณะ “เจ้าของพรรค” เขาใช้เพื่อเชิด ไม่ได้ไว้ใช้ทำงานตามฐานะนายกฯจริงๆ
ผมว่าขบวนการงานรัฐบาลเพื่อไทย “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” กับ “นายภูมิธรรม เวชยชัย” คือนายกฯ “ฝ่ายใน-ฝ่ายนอก” เป็น “ตัวจริง” ในอำนาจสั่งการมากว่า
เศรษฐา ไม่ต่างคนนั่งหน้ากระดานหมากรุก ไม่ได้เป็นคนเดินหมากหรอก
หมอมิ้งกับคุณอ้วน ที่ยืนคำหัวอยู่นั่นแหละ เป็นผู้ขยับหมากในทุกตาเดิน!
เพราะฉะนั้น ไม่แปลกใจ ที่นายกฯ เศรษฐา “พูดได้-แต่ไม่ได้ทำ” และทั้งพิจารณาผลงานในระยะทดลองงานแล้ว
ถึงให้ทำ ก็ “ทำไม่ได้” อยู่ดี!
งั้น มีเวลาเที่ยว ก็ใช้เงินหลวงเที่ยวเป็นการ “หลบหน้า-หนีปัญหา” ซะให้คุ้ม
ขืนอยู่ ต่อให้ลงนะดากทอง ก็ไม่มีน้ำยาเอานักโทษเทวดาคืนคุกได้หรอก
หรือไม่จริง?
เปลว สีเงิน
๑๕ มกราคม ๒๕๖๗
